ไม่ชัวร์ แต่(ขอ)มั่วนิ่มแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

ไม่ค่อยปรากฏเป็นข่าวบ่อยครั้ง เพราะใครๆ ก็รู้ว่าระยะหลัง ผู้บริหารบริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BLAND มีกลยุทธ์ไม่เหมือนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายอื่นๆ เพราะเน้นขายที่ดินมากกว่าทำโครงการ


ไม่ค่อยปรากฏเป็นข่าวบ่อยครั้ง เพราะใครๆ ก็รู้ว่าระยะหลัง ผู้บริหารบริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BLAND มีกลยุทธ์ไม่เหมือนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายอื่นๆ เพราะเน้นขายที่ดินมากกว่าทำโครงการ

ก็ไม่น่าเกลียดอะไรนักหนา เพราะบริษัทนี้ ภายใต้การนำของ เสี่ยช้าง หรือ นายอนันต์ กาญจนพาสน์ และลูกๆ (ที่ชื่อเป็นฝรั่งกันหมด) มีแลนด์แบงก์ที่รับมรดกมาจากวิสัยทัศน์ของเจ้าสัว มงคล กาญจนพาสน์ ที่ทิ้งเอาไว้ย่านแจ้งวัฒนะ และบางกะปิ บานพะเรอ เรียกว่า กินไปได้อีกหลายชั่วคน

คนรวยซะอย่าง ทำอะไรก็น่ารักไปหมด

ล่าสุด ปรากฏตัวเป็นข่าวทั้งที ก็ต้องให้ฮือฮาตามประสาเสี่ยช้าง

เสี่ยช้าง ออกแถลงข่าวผ่านเอกสารแจ้งต่อสาธารณะเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ BLAND เมื่อวันที่ 3 พ.ย.59 ได้มีมติอนุมัติการลงนามสัญญาสนับสนุนส่วนต่อขยายของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู เข้าเมืองทองธานี ถนนแจ้งวัฒนะ กับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS หลังจากที่ BTS ได้รับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีชมพู และอนุญาตให้มีส่วนต่อขยายจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)

รถไฟฟ้าสายสีชมพูของ รฟม.นั้น มีระยะทาง 36 กิโลเมตร วิ่งต้นทางถึงปลายทางระหว่างมีนบุรี ถึงแคราย ผ่านทางถนนแจ้งวัฒนะ โดยจะไปตัดกับเส้นสีเขียว และแดง

รถไฟสายสีชมพูนี้ ทางผู้บริหารของ BTS หมายมั่นปั้นมือมานาน หลังจากได้สัมปทานสายสีเขียวไปแล้วก่อนหน้า

ถึงขนาดที่เจ้าสัวคีรี กาญจนพาสน์ ไม่ยอมเข้าประมูลสายอื่นๆ เลย รอสายสีชมพูอย่างเดียว เอาชัวร์ไว้ก่อน ไม่เหวี่ยงแหไปทั่ว แบบเผื่อฟลุก

ความมั่นใจเกิน 100% ของกลุ่ม BTS จึงไม่แปลกที่เมื่อมีกระแสชัดเจนว่า ทาง รฟม.กำลังจะมีการเปิดให้ยื่นซองสายสีชมพูในสัปดาห์นี้ การกระโจนเข้าร่วมขบวนแถวเพราะกลัวตกรถ จึงเกิดขึ้น … โดยเฉพาะเสี่ยช้าง ที่ขยับตัวเรื่องนี้แบบฝันค้างมาหลายปีแล้ว

ขอเกาะพ่วงไปกับ BTS แบบ …. น้องไปไหน พี่ไปด้วย ช่วยแค่ 2 บาท… จึงเกิดขึ้น

เงื่อนไขของ BLAND ที่เปิดออกมา มีอยู่ว่า การร่วมมือดังกล่าว ทาง BLAND จะรับผิดชอบในวงเงินลงทุนไม่เกิน 1,250 ล้านบาท เพื่อเป็นต้นทุนก่อสร้างระบบรางเฉพาะเส้นทางต่อขยายเข้าสู่เมืองทองธานี ถนนแจ้งวัฒนะ และก่อสร้างสถานีรับ-ส่งผู้โดยสาร จำนวน 2 สถานี ได้แก่ ที่ดินของบริษัท บริเวณอาคาร อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ และบริเวณริมทะเลสาปในเมืองทองธานี

นอกจากนี้จะมีการใช้เงินจำนวน 10 ล้านบาทต่อปี เพื่อสำหรับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และบำรุงรักษาเป็นระยะเวลา 30 ปี

ถ้าคิดสรตะ จากเงินลงทุน และผลตอบแทนของเงินลงทุน 1,500 ล้านบาท ถามว่า BLAND ลงทุนคุ้มค่าหรือไม่

คำตอบคือ เกินคุ้ม เพราะเข้าข่าย ลง 1 ได้ 10 กันเลยทีเดียว

สร้างตอม่อ และรางรถไฟฟ้า (ไม่ต้องซื้อรถไฟฟ้าด้วย) เข้าจากตรงจุดเชือมต่อที่ถนนแจ้งวัฒนะ เข้าไปยังถนนในโครงการเมืองทองธานีที่มีคนมากกว่า 3 แสนคน และยังมีศูนย์แสดงสินค้า บวกโรงแรมภายในโครงการอีก เท่ากับการต่อเส้นเลือดให้มูลค่าเพิ่มของที่ดีในเมืองทองธานี เพิ่มทวีขึ้นอีก 3-5 เท่าตัว รวมทั้งที่ดินที่ยังไม่ได้พัฒนาในกำมือของ BLAND อีกมหาศาล

ดูจากข้อเท็จจริง งานนี้ เสี่ยช้างค้ากำไรเกินควรเห็นๆ แต่ถามว่าแล้ว BTS จะได้อะไร คำตอบคือ ได้แน่นอนจากรายได้ค่าตัวแต่ละวันของคนโดยสารเข้า-ออกจากเมืองทองธานี วันละเป็นแสนๆ คน โดยประมาณ

สวรรค์ของผลประโยชน์เช่นนี้ บอกอะไรบ้าง

คำตอบง่ายสุดคือ เลือดข้นกว่าน้ำ

เป็นที่เข้าใจ (ถูกหรือผิด ก็ไม่รู้) กันมาตลอดยี่สิบปีว่า สองผู้ยิ่งใหญ่ พี่น้องกาญจนพาสน์อย่างเสี่ยช้าง และเจ้าสัวคีรีนั้น กิน “เกาเหลา” กันมายาวนาน จะด้วยเพราะบุคลิกภาพ หรืออะไรก็สุดคาดเดา

คนหนึ่งพญาช้างสาร ระดับ เอราวัณ เป็นพี่ใหญ่สุด ทำงานเล็กๆ ไม่เป็น

อีกคนก็พญามังกร ลุยยุทธจักรมาลือลั่น ผ่านร้อนหนาวมาโชกโชนยิ่งทั้งฮ่องกง และไทย  ทำเล็กไม่เป็นอีกเช่นกัน

แต่ความขัดแย้งเชิงบุคลิกภาพนั้น ท้ายสุดก็ กาญจนพาสน์…. เหมือนกัน

บุคลิกภาพ หรือ จะสู้ผลประโยชน์ร่วม เพราะงานนี้ มีแต่วินๆ

จะมีที่อาจจะไม่วินด้วยก็คือ รฟม.นั่นแหละ… เพราะไม่ชอบให้มีเห็บมาเกาะ

เรื่องข้อเสนอเชื่อมรถไฟฟ้าสายสีชมพู เข้ากับเมืองทองธานีนี้น่ะ เสี่ยช้างเคยเสนอมานานเป็น 10 ปีแล้ว…เสนอทีไร เงียบทุกที ไม่มีใครขานรับ เพราะกลัวข้อครหา เอื้อประโยชนเสี่ยช้างมากเกินขนาด

คราวนี้ก็เช่นกัน หาก BTS ที่จะเข้าซื้อซองประมูล แล้วยื่นเงื่อนไขให้ รฟม.รับรองพ่วงโครงการเชื่อมต่อกับเมืองทองธานีของเสี่ยช้างไปด้วย …. คงจะเป็นเงื่อนไข นอก ทีโออาร์ ของรฟม. เป็นแน่แท้ เพราะการสร้างจุดเชื่อมต่อสถานีนั้น ก็เหมือนกับการสร้างสถานีนั่นแหละ

คำถามคือ เสี่ยช้างจะไม่ยอมออกค่าใช้จ่ายจุดเชื่อมต่อ (เพราะสัญญากับ BTS ไม่ระบุเอาไว้) แล้ว รฟม. จะยินยอมให้เสี่ยช้างชุบมือเปิบอย่างนั้นหรือ

ถ้าเกิด รฟม.ยินยอม…เสียงครหา จะอึงมี่ขนาดไหน… ไม่อยากคิด

แล้วถ้าเกิด รฟม.ไม่ยินยอม จะเกิดอะไรขึ้น…

คำตอบง่ายนิดเดียว… พญาช้างเอราวัณ และ พญามังกร ก็คงต้องเลิกกินหูฉลาม มากินแห้วแทน

ปฏิบัติการ “ยังไม่เห็นแหล่งน้ำ รีบตัดกระบอกไม้ไผ่รอง” ของพี่น้องกาญจนพาสน์ ที่ทำท่าขึงขัง ที่กระบวนการประมูลก่อสร้าง และสัมปทานเดินรถสายสีชมพูยังไม่ทันจะเริ่มต้นด้วยซ้ำ … จึงเป็นตลกหน้าม่านประเภท…. รำมวยสวย แต่ขึ้นชกจะเก่งรึป่าว… ไม่รู้

เลือดอาจข้นกว่าน้ำจริง แต่ถ้าแผนอันสวยหรูสร้างพันธมิตรธุรกิจกาญจนพาสน์ระลอกนี้ อาจจะ… ตกสวรรค์ ตั้งแต่ยังไม่ได้ขึ้นก็ได้

เพราะขนาดไม่มีอะไรชัวร์ ยังมั่วนิ่มหน้าเฉย

“อิ อิ อิ”

Back to top button