พาราสาวะถี อรชุน
คนหมู่มากย่อมมีปัญหาหลากหลาย วันนี้ยังพบมีประเด็นให้คณะทำงานอำนวยการที่ท้องสนามหลวงต้องแก้ไขกันรายวัน แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคสำคัญ เนื่องจากคนส่วนใหญ่ที่เดินทางไปรวมตัวกัน ณ บริเวณนั้น ต่างไปด้วยหัวใจเดียวกัน คือการแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ดังนั้น การขอความร่วมมือและให้ความร่วมมือจึงไม่น่าจะมีอะไรยาก
คนหมู่มากย่อมมีปัญหาหลากหลาย วันนี้ยังพบมีประเด็นให้คณะทำงานอำนวยการที่ท้องสนามหลวงต้องแก้ไขกันรายวัน แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคสำคัญ เนื่องจากคนส่วนใหญ่ที่เดินทางไปรวมตัวกัน ณ บริเวณนั้น ต่างไปด้วยหัวใจเดียวกัน คือการแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ดังนั้น การขอความร่วมมือและให้ความร่วมมือจึงไม่น่าจะมีอะไรยาก
ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลที่ยึดอำนาจมาจากรัฐบาลเลือกตั้ง ดังนั้น ปัญหาที่เป็นความทุกข์ร้อนของประชาชน โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกรถือเป็นงานยากและเหนื่อยของรัฐบาลคสช.ที่จะต้องทำให้ดีกว่ารัฐบาลเลือกตั้งหลายเท่า มิหนำซ้ำ ด้วยมาตรฐานที่ยกหางตัวเองให้สูงกว่าและกล่าวหารัฐบาลที่ไปยึดอำนาจมา ในบางเรื่องที่ควรดำเนินการได้ในทันที จึงต้องรีรอและใช้วิธีการที่ซับซ้อนแยบยล
โครงการช่วยเหลือชาวนาภายใต้การนำของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังจากสัปดาห์ก่อนคลอดโครงการจำนำยุ้งฉางเฉพาะข้าวหอมมะลิ ล่าสุดในการนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุมนบข.นัดพิเศษเมื่อวันวาน บิ๊กตู่เคาะมาตรการช่วยเหลืออีกกระทอก โดยคลอดโครงการช่วยเหลือชาวนาผู้ปลูกข้าวเจ้าและข้าวหอมปทุมที่เข้าโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 59/60 ซึ่งดำเนินการโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือธ.ก.ส.
โดยผู้ที่ปลูกข้าวเจ้าจะได้รับเงินตันละ 10,500 บาท ส่วนผู้ที่ปลูกข้าวหอมปทุมได้รับเงินตันละ 11,300 บาท คิดเป็นจำนวนครัวเรือนที่ได้รับประโยชน์ 752,913 ครัวเรือน ส่วนผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการจะได้รับเงินช่วยเหลือเป็นค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวตันละ 2,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ ซึ่งธ.ก.ส.จะโอนเงินเข้าบัญชีชาวนาต่อไป
สำหรับการช่วยเหลือในระลอกสองนี้ แบ่งเป็น กลุ่มที่ปลูกข้าวเจ้าจะได้รับเงินสินเชื่อจากธ.ก.ส. ในอัตรา 90% จากราคาตลาดวงเงินตันละ 7,000 บาท รวมกับค่าเก็บเกี่ยวตันละ 2,000 บาทไม่เกิน 10 ไร่ และค่าเตรียมข้าวขึ้นยุ้งและค่าฝากเก็บตันละ 1,500 บาท คิดเป็นวงเงินที่ชาวนาจะได้รับตันละ 10,500 บาท ส่วนกลุ่มผู้ปลูกข้าวปทุม ได้รับสินเชื่อตันละ 7,800 บาท รวมกับค่าเก็บเกี่ยวตันละ 2,000 บาท และค่าเตรียมข้าวขึ้นยุ้งตันละ 1,500 บาท คิดเป็นวงเงินที่ชาวนาจะได้รับตันละ 11,300 บาท
อย่างไรก็ตาม ด้วยมาตรการช่วยเหลือที่ขยักขย่อนนี่เอง ทำให้ตัวแทนสภาเกษตรกรเขตภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง 31 จังหวัดต้องบุกยื่นหนังสือถึงบิ๊กตู่ เสนอรัฐบาลช่วยเหลือชาวนาแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำ โดยให้มีมาตรการช่วยเหลือข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมจังหวัด เป็นมาตรการเดียวกันทั้งประเทศคือ ตันละ 13,000 บาท ไม่ใช่เฉพาะภาคอีสานและภาคเหนือ
ส่วนเกษตรกรที่ไม่มียุ้งฉางและไม่ได้เข้าโครงการ ควรให้ค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวตันละ 2,000 บาท นอกจากนี้ ยังให้ช่วยเกษตรกรที่ลดพื้นที่ทำนาปรังไร่ละ 4,000 บาทรายละ 10 ไร่ และให้หน่วยงานรัฐซื้อข้าวจากชาวนาโดยตรง น่าขีดเส้นใต้ต่อข้อเรียกร้องของชาวนากลุ่มนี้ ที่ต้องการให้รัฐบาลหันมาทบทวนมาตรการช่วยเหลือชาวนาภาคกลาง ให้ทุกคนมีความเสมอภาคกัน ไม่ควรจะแบ่งแยกการช่วยเหลือเป็นภาค รัฐบาลต้องหาวิธีแก้ไขปัญหาทั้งระบบไม่ใช่การแก้ไขปัญหาไปวันๆ
ไม่รู้จะเรียกว่าเป็นความน่าเสียดายต่อการมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดหรือไม่ ทั้งๆ ที่ควรจะใช้มันไปในการแก้ไขปัญหาอันเป็นความเดือดร้อนของประชาชนให้สะเด็ดน้ำ แต่กลับทำกันแบบครึ่งๆ กลางๆ แต่ก็พอจะเข้าใจย่างก้าวที่เต็มไปด้วยขวากหนามนั้น แท้ที่จริงแล้วไม่ได้เกิดจากมีใครไปต่อต้าน หากแต่เป็นเรื่องมาตรฐานที่ดันไปวางไว้ไม่ให้เหมือนรัฐบาลเลือกตั้ง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่ไปยึดอำนาจมา
ทั้งๆ ที่การแก้ไขปัญหาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำนั้น การที่รัฐบาลจะเข้าไปแทรกแซงราคา ไม่ว่าจะเป็นการรับจำนำหรือการประกันราคาก็แล้วแต่ ถือเป็นวิธีการสากลที่นานาอารยประเทศเขาก็ทำกันทั้งนั้น หากท่านผู้นำยอมกลืนน้ำลายตัวเอง แล้วยอมรับว่าการแก้ปัญหาของรัฐบาลเลือกตั้งที่ผ่านมาแต่ละรัฐบาลเขามีแนวทางและวิธีการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องแล้ว เพียงแต่มีบางอย่างที่ไม่โปร่งใส รัฐบาลนี้จะทำให้ดีกว่าก็น่าจะได้รับการสนับสนุนดีกว่าไปเลี่ยงบาลีทำอย่างอื่น
คงไม่ถึงขั้นที่จะต้องไปบีบคั้นให้ท่านผู้นำและลิ่วล้อต้องออกมาสารภาพว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้เกิดจากการบริหารที่ผิดพลาดและไม่เข้าใจในปัญหา เพียงแค่ขอให้ยอมรับในความเป็นจริงและแก้ไขปัญหาให้มันตรงจุดเท่านั้น เหมือนอย่างที่ นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ แนะนำ รีบแก้ไขปัญหาตามวิธีสากลกันดีกว่า เพราะเชื่อว่าคนดีเท่านั้นที่ชอบแก้ไข การออกมาแก้ตัวและชอบโยนความผิดให้กับนักการเมืองมันไม่ใช่วิสัยของชายชาติทหาร
ไม่รู้ว่าเป็นการเมืองเชิงการตลาดหรือไม่ แต่คำตอบที่ได้จากการที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นำข้าวของชาวนาไปช่วยขายเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจำนวน 10 ตันหมดเกลี้ยงในเวลาไม่กี่ชั่วโมงคือ หากชาวนาไม่ถูกพันธนาการด้วยกลไกต่างๆ ที่กำหนดขึ้นกันเป็นขบวนการ ทางเลือกที่จะขายข้าวได้ราคาและไม่ถูกกดราคานั้นก็มี
ในฐานะที่คนทำนโยบายจำนำข้าวจนถูกเล่นงานสะบักสะบอม แต่เจ้าตัวไม่ทุกข์ร้อนยังคงเดินสายไปให้กำลังใจและได้รับกลับมาจากชาวนา น่าจะเป็นสิ่งช่วยยืนยันว่า ถ้าทำแล้วเสียหายไม่เกิดประโยชน์ เหตุใด อดีตนายกฯหญิงถึงได้รับการตอบรับและสนับสนุนมากมายเช่นนั้น ไม่ใช่เพราะการลงไปในพื้นที่ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย หากแต่ชาวนาส่วนใหญ่ของประเทศเขารับรู้ว่า ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอยู่ช่วงหนึ่งนั้นเป็นเพราะโครงการของรัฐบาลใด
ไม่เหมือนบางพวกบางพรรคที่ถนัดแต่กล่าวหาโจมตี แม้กรณีล่าสุดเรื่องข้าวราคาตกต่ำก็ถลำลึกกู่ไม่กลับกล่าวหาปาวๆ ว่าเกิดจากนักการเมืองและโรงสีรวมหัวกันหวังดิสเครดิตรัฐบาล จนสมาคมโรงสีข้าวไทยทนไม่ได้ออกมาชี้แจงตอบโต้และมีนักวิชาการออกมาให้ข้อมูลที่ตรงข้ามกับพวกช่างพูด โดยได้ชี้ให้เห็นว่าราคาข้าวไทยถูกกำหนดโดยราคาข้าวในตลาดโลกซึ่งมีผู้ส่งออกและผู้นำเข้าข้าวในต่างประเทศเป็นผู้มีบทบาทอย่างแท้จริง งานนี้ใครหน้าแหก การออกมาขอโทษสมาคมโรงสีของท่านผู้นำคือเครื่องพิสูจน์