ตรงตามสูตร…ต้องกราบหุ้น?

*หากประเมินสิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้จะรู้ว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเพียงเกมหุ้นที่นักเลงหุ้นหลายสำนักคุ้นเคยเป็นอย่างดี จึงไม่ต้องไปมองประเด็นอื่นให้เสียเวลาทำมาหากิน เพราะหุ้นที่ขึ้นแรงในเที่ยวนี้มีมูลเหตุจูงใจมาจากข่าวการเลือกตั้งสหรัฐ ซึ่งเป็นข้ออ้างที่ใช้กันอย่างกว้างขวาง และดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ หลังเพื่อนสนิทมิตรสหายพูดถึงข้อมูลในส่วนนี้อย่างดุดันพะยะค่ะ


โมนิก้าและทีมงาน

 

*หากประเมินสิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้จะรู้ว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเพียงเกมหุ้นที่นักเลงหุ้นหลายสำนักคุ้นเคยเป็นอย่างดี จึงไม่ต้องไปมองประเด็นอื่นให้เสียเวลาทำมาหากิน เพราะหุ้นที่ขึ้นแรงในเที่ยวนี้มีมูลเหตุจูงใจมาจากข่าวการเลือกตั้งสหรัฐ ซึ่งเป็นข้ออ้างที่ใช้กันอย่างกว้างขวาง และดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ หลังเพื่อนสนิทมิตรสหายพูดถึงข้อมูลในส่วนนี้อย่างดุดันพะยะค่ะ

*โดยเฉพาะท่อนที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตลาดหุ้นชอบความชัดเจน! มันเป็นสูตรสำเร็จที่ “โมนิก้า” เห็นจนชินตาหลายทศวรรษ และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ผู้คนหันมาใช้ประเด็นดังกล่าวเป็นตัวบิวด์อารมณ์ แต่เผอิญตัวเลขสำคัญรายงานให้รู้ว่า คนซื้อหลักกลายเป็นกองทุนตัวแสบ ซึ่งกว้านซื้อหุ้นเข้าพอร์ตไปทั้งสิ้น 690 ล้านบาท พ่วงด้วยปอบผีฟ้าเคาะขวาเบาๆ ไปอีก 80 ล้านบาทไงล่ะค่ะ

*ตรงนี้เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดอีกครั้งว่า ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,502.27 จุด บวกไป 16.57 จุด ด้วยมูลค่า 5.27 หมื่นล้านบาท มันเป็นเพียงแค่ความประสงค์ชั่วคราว พร้อมกับหยิบยกเรื่อง ดาวโจนส์ล่วงหน้าเด้งแรง 200 จุด หลัง FBI ชี้ขาดว่า “ฮิลลารี”  ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี จากพรรคเดโมแครต ไม่มีความผิดทางคดีอาญา                มันเป็นสตอรี่เพื่อสร้างความนิยมในตัวเธอ ซึ่งหลายคนเริ่มจับไต๋ได้แล้วนะคะ

*ด้วยสตอรี่หลอกๆ จึงกลายเป็นการเปิดโอกาสให้ฝรั่งขี้นกสาดหุ้นออกมากว่า 720 ล้านบาท เพื่อทำให้พอร์ตของตัวเองเบาลงในระยะสั้นๆ และกระบวนการทางความคิดดังกล่าวก็ทำให้แมงเม่าปล่อยหุ้นออกมาเล็กๆ น้อยๆ หลังวิตกกังวลว่า หุ้นจะไปไม่ได้ไกล ซึ่งจะทำให้ภาพของการลงทุนวันนี้ถูกชี้ขาดกันด้วยเรื่องแรงซื้อเหนือบริเวณ 1,500 จุดหนาแน่นเพียงใดเจ้าค่ะ

*นั่นหมายความว่า “การขึ้น” หรือ “การลง” ขึ้นอยู่กับกระบวนยุทธ์ของกองทุนตัวแสบยังเดินในลักษณะ “ดันออกของ” หรือเปลี่ยนมาเป็น “ไล่เก็บของ” เดี๊ยนมองว่า วันนี้รู้ผลอย่างแน่นอน เพราะตัวแปรเรื่องการเลือกตั้งสหรัฐมาเต็มๆ  ซึ่งขึ้นอยู่กับว่า นักลงทุนแกนหลักรู้สึกอินกับเรื่องดังกล่าวขนาดไหน? วันนี้ถึงต้องว่ากันไปทีละช็อตเพื่อความคล่องตัวในการลงทุน…งานนี้ไม่ต้องกราบหุ้นก่อนนอนเพราะมันไม่เกี่ยวกันเลย…ทราบแล้วบอกต่อด้วยนะคะ

*เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ESSO จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่า อะไรเป็นอะไร…พร้อมกับก่อให้เกิดคำถามมากมายจากผู้คนทั่วไปไม่ไว้วางใจ หุ้นเลยเกิดอาการทรุดตัวลงมาปิดที่ 12 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 4% ด้วยมูลค่า 2.84 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะที่ผู้เล่นต้องเริ่มเผื่อใจไว้บ้าง เพราะอาจไม่มีอะไรเลยก็ได้ หลังทุกคนมโนกันไปเองนะซี

*เช่นเดียวกับรายการที่เกิดขึ้นกับ ADVANC มันเป็นเรื่องที่ทำให้อกอีแป้นแทบจะแตก เพราะแทบไม่น่าเชื่อว่า หุ้นพื้นฐานดี อนาคตสดใส จะโดนกดหัวตลอดทั้งวัน แถมเป็นหุ้นบลูชิพเพียงตัวเดียวที่มีสีแดงในกระดาน most active ก่อนจะปิดตัวที่ระดับ 151 บาท ลบไป 2 บาท ด้วยมูลค่า 1.55 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นโพสิชั่นที่น่ากลัวสำหรับนักเล่นทุกวัย หลังหุ้นโค้งตัวลงอย่างต่อเนื่อง จนมีแววจะลงไปถึง 140 บาท หากวันนี้ไม่มีแรงซื้อเข้ามาพยุงนะคะ

*ส่วนตัวที่มากับเกมหุ้นอย่างแท้จริงอย่างพ่อดอกมะลิ JAS วานนี้กระชากขึ้นมาปิดที่ 9.75 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 8.95% ด้วยมูลค่า 4.10 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นการโก่งราคาตามแบบฉบับ “ลับ ลวง พราง” ซึ่งต้องให้ราคาพรีเมียมก็เท่านั้นเอง ส่วนเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเป็นเช่นไร? ก็อย่าไปสนใจมากนักเลย เพราะหุ้นมาด้วยกระแส ก็ต้องจบด้วยกระแสเข้าสักวันล่ะค่ะ

*เหมือนกับในรายของ TKN กระชากขึ้นมาปิดที่ 25.50 บาท บวกไป 1.30 บาท หรือขึ้นไป 5.40% ด้วยมูลค่า 510 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะดีดตัวขึ้นรวดเดียว หลังจากทรุดตัวลงร่วมสัปดาห์ ส่วนรอบนี้จะขึ้นไปถึงจุดสูงสุดครั้งก่อนที่ทำไว้ในระดับ 28.50 บาทหรือไม่? อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับบรรดากองทุนตัวแสบให้ความร่วมมือในการดันหุ้นหรือเปล่านะซี

*พูดถึงความร่วมมือกันทีไร “โมนิก้า” ต้องหันกลับมามอง DEMCO หลังทะยานในทิศทางขาขึ้นเป็นเวลาร่วม 2 สัปดาห์ ล้วนมาจากข่าวดีที่ปรากฏให้เห็นเป็นระลอก จึงบิวด์อารมณ์ผู้เล่นให้กลับมาคึกครื้นกันอีกรอบ ล่าสุดเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 8.35 บาท บวกไป 0.95 บาท หรือขึ้นไป 12.80% ด้วยมูลค่า 430 ล้านบาท เดี๊ยนหวังว่า คงไม่มีรายการพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกอีกรอบ เพราะหุ้นกำลังไต่ระดับขึ้นไปยืนเหนือ 10 บาทแล้วนะคะ

*เช่นเดียวกับ AUCT กระชากขึ้นมาปิดที่ 10.90 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 7.90% ด้วยมูลค่า 188 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นการยืนปิดเหนือราคา 10 บาทด้วยวอลุ่มที่แน่นเอี๊ยดแบบนี้ ตามตำราของการเป็นชาวไล่โดยอาชีพ มันต้องตามให้สุดซอยกันไปเลย ไม่มีเวลามาแทงกั๊กอะไรทั้งสิ้น เพราะหุ้นใกล้ถึงเวลาพักตัวเพื่อยกฐานใหม่ให้สูงขึ้นกว่าเดิม หากไม่เล่นจังหวะนี้ อาจเสียรอบโดยเปล่าประโยชน์ค่ะ

*ป.ล.ชีวิตในการลงทุนทุกวันนี้ ก็เครียดพอตัวอยู่แล้ว น้องโมจึงขอแนะนำให้เอาเรื่องเครียดๆ มาทำเป็นเรื่องฮาๆ เพื่อผ่อนคลายทางอารมณ์กันเถิดเจ้าค่ะ

Back to top button