MTLS เกาถูกที่คันแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น
หลายเดือนมาแล้ว ราคาหุ้นของบริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTLS หนึ่งในผู้นำระดับหัวแถวของธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ ได้ชื่อว่าทำให้นักลงทุนผิดหวังมากระดับหัวแถวเลยทีเดียว เพราะแม้จะมีกำไรดีและเติบโตต่อเนื่อง แต่ราคาหุ้นแน่นิ่งไม่เคยทะลวงผ่าน 20.00 บาทได้เลย
หลายเดือนมาแล้ว ราคาหุ้นของบริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTLS หนึ่งในผู้นำระดับหัวแถวของธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ ได้ชื่อว่าทำให้นักลงทุนผิดหวังมากระดับหัวแถวเลยทีเดียว เพราะแม้จะมีกำไรดีและเติบโตต่อเนื่อง แต่ราคาหุ้นแน่นิ่งไม่เคยทะลวงผ่าน 20.00 บาทได้เลย
เมื่อวานนี้ สถานการณ์กลับต่างออกไป เพราะว่า ข่าวสถานการณ์พลิกผันในผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ทำให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่นั้น ทำให้ตลาดหุ้นร่วงหนักทั่วโลก รวมทั้งตลาดหุ้นไทยด้วยในช่วงเช้า
ตลาดหุ้นร่วงลงมากถึง 22 จุดเศษในช่วงตลาดเช้าวานนี้ หุ้น MTLS กลับสวนกระแสบวกหน้าตาเฉย เปิดตลาดมาก็ทะยานเหนือ 20.40 บาท แล้วภาคบ่ายเมื่อตลาดทำท่าดีขึ้นก็ทะยานต่อปิดที่ราคาสูงสุด 22.50 บาท
ราคาหุ้นที่ไม่ใส่ใจกับทิศทางของตลาดอย่างนี้ เกิดจากความโดดเด่นของผลประกอบการโดยฝีมือของ นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร ผู้ก่อตั้ง และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ทำให้งบไตรมาสสามของ MTLS สวยงามเรี่ยมเร้ชนิด “เกินคาด”
MTLS รายงานกำไรสุทธิที่ระดับ 401 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82% จากงวดปีก่อน และเพิ่มขึ้น 34% จากไตรมาสก่อน ถือว่ากำไรระดับหัวแถวเลยทีเดียวในตลาด ที่สำคัญยังเป็นการทำกำไรเติบโตนิวไฮต่อเนื่องอีกด้วย ซึ่งไม่ได้ทำกันได้ง่ายๆ หากฝีมือไม่ถึง
กำไรงวด 9 เดือนของ MTLS มากถึง 981.23 ล้านบาท เติบโตจากระยะเดียวกันปีก่อนที่เพียงแค่ 584.91 ล้านบาท มากถึง 67.76% …ใครว่าไม่สวย ขอให้เถียงมา
ปัจจัยสนับสนุนกำไรที่สวยและเติบโตโดดเด่น มาจากสินเชื่อเติบโต 19% จากไตรมาสก่อน และ 87% จากงวดปีก่อน ทะลุระดับ 2 หมื่นล้านบาท ตามการเปิดสาขาเชิงรุก รวมถึงได้ประโยชน์จากต้นทุนการเงินลดลงเพราะพยายามลดสัดส่วนการกู้เงินจากธนาคารมาปล่อยสินเชื่อลง แต่เพิ่มสัดส่วนการกู้เงินผ่านหุ้นกู้ระยะยาวแทนมากขึ้น
การออกหุ้นกู้ระยะยาวที่มียอดรวมในงบการเงิน 1,858.00 ล้านบาท ทำให้ภาระหนิ้สนหมุนเวียนลดลง และเสริมสภาพคล่องให้สูงขึ้น ปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้นโดยปริยาย ไม่กระทบกับโครงสร้างการเงิน
นอกจากนั้น MTLS ยังมีความสามารถในการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ทำให้เพิ่มน้อยกว่ารายได้ที่เติบโต ช่วยเร่งให้กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองโตดียิ่งขึ้นถึง 99% จากงวดปีก่อน และการตั้งสำรองไม่สูง 1.63% เมื่อเทียบกับ Yield จากการปล่อยสินเชื่อ (22.9%)
ความสำเร็จที่งดงามในการดำเนินงานของ MTLS เกิดขึ้นเพราะ…เกาถูกที่คันนั่นเอง
โจทย์หลักในการเติบโตของธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ (รวมทั้ง MTLS) อยู่ที่ว่า เสน่ห์จากการเติบโตของธุรกิจถูกมองข้ามไป เพราะยิ่งเติบโต ยิ่งมีหนี้มาก ทำให้ค่า ดี/อี ของกิจการ ขี้เหร่อย่างเลี่ยงไม่พ้น….ทำโรดโชว์สักกี่ครั้งก็สูญเปล่า
โจทย์ที่เคยถูกตั้งเป็นปริศนาให้ผู้บริหารของ MTLS ในก่อนหน้านี้คือ การหาทางเลือกทำให้ค่าดี/อี ลดลง…ซึ่งจะส่งผลต่อพี/อีในระยะต่อไป…ซึ่งโดยหลักแล้วมี 3 ทาง เท่านั้น คือ 1) ทำกำไรสุทธิโตขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าจากภายใน หรือ intrinsic value 2) เพิ่มทุนเพื่อเพิ่มมาร์เก็ตแคปของหุ้นให้โตทางลัด ขายให้กับพันธมิตรใหม่ในแบบเฉพาะเจาะจง โดยยอมเสี่ยงกับสัดส่วนการถือครองหุ้นที่ลดลงของรายใหญ่ 3) เล่นเกมวิศวกรรมการเงินเพื่อดันราคาหุ้น ซึ่งวิธีการหลังนี้เสี่ยงที่สุด (และไม่ควรกระทำ…)
ทางเลือกข้อแรกนั้น นายชูชาติและทีมงาน ได้เคยประกาศยืนยันว่า กำลังทำอยู่ …แต่ที่ผ่านมา ผลลัพธ์ยังไม่ออก ทำให้ราคาหุ้นไม่ขานรับแผนธุรกิจในการตอบโจทย์ยากดังกล่าว
คนลงมือทำ กับคนดู พูดไปก็ยากจะเข้าใจ
ถึงตอนนี้ เมื่องบออกมาสวย นักลงทุนก็คงหายสงสัยแล้ว เพราะเพียงแต่ตอบคำถามข้อแรก ข้อเดียว ข้ออื่นๆ ก็คงไม่ต้องการคำตอบ…
ราคาหุ้นที่พุ่งกระฉูด ไม่ใส่ใจกับตลาด เพราะพื้นฐานเปลี่ยนไปมากจนไม่ต้องใส่ใจกับเทคนิค คือเสียงสะท้อนที่ชัดเจนเพราะ…Let Profit Run
กำไรดีซะอย่าง สบายไป 8 อย่าง
“อิ อิ อิ”