ช้อนของถูก!โมนิก้าและทีมงาน
*ทุกครั้งที่ตลาดหุ้นกำลังอยู่ในช่วงที่ต้องการความชัดเจนของข่าวสารเกี่ยวกับการลงทุน “โมนิก้า” มักเห็นนักลงทุนสถาบันตัวจี๊ดอย่างกองทุนตัวแสบฉวยโอกาสทุบหุ้นเพื่อเอาของถูกเป็นประจำ ส่งผลให้ภาพของตลาดหุ้นย่ำแย่เกินจะเยียวยานั้น มันเป็นมุกเดิมๆ ที่เห็นได้เป็นประจำในยามที่ตัวเลขผลประกอบการเริ่มไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง มักมีคำพูดแสลงหูนักลงทุนออกมาเป็นประจำนะคะ
*ทุกครั้งที่ตลาดหุ้นกำลังอยู่ในช่วงที่ต้องการความชัดเจนของข่าวสารเกี่ยวกับการลงทุน “โมนิก้า” มักเห็นนักลงทุนสถาบันตัวจี๊ดอย่างกองทุนตัวแสบฉวยโอกาสทุบหุ้นเพื่อเอาของถูกเป็นประจำ ส่งผลให้ภาพของตลาดหุ้นย่ำแย่เกินจะเยียวยานั้น มันเป็นมุกเดิมๆ ที่เห็นได้เป็นประจำในยามที่ตัวเลขผลประกอบการเริ่มไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง มักมีคำพูดแสลงหูนักลงทุนออกมาเป็นประจำนะคะ
*ด้วยเหตุนี้ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับพิจารณารูปแบบการลงทุนที่เคยแนะนำไปก่อนหน้านี้ว่า วันนี้เราซื้อหุ้นเพื่อเก็งอนาคตจะออกมาสดใส แต่เผอิญบรรยากาศรอบด้านไม่เป็นใจอย่าสุดขีด ดัชนีถึงรูดลงมาปิดที่ 1,469.23 จุด ลบไป 25.30 จุด ด้วยมูลค่า 5.81 หมื่นล้านบาท แถมฝรั่งตาน้ำข้าวเทขายหุ้นออกมาอีก 2.55 พันล้านบาท ยิ่งเป็นแรงกดดันกองทุนตัวแสบในทางอ้อมไงล่ะค่ะ
*เนื่องจากมันเห็นกันอยู่แล้วว่า พวกกองทุนตัวแสบต้องเริ่มเคลียร์พอร์ต เพื่อรอรับเม็ดเงินก้อนใหม่เข้ามาลงทุนในกองทุน LTF และ RMF ทำให้การเทขายหุ้นออกมา 3.62 พันล้านบาทในจังหวะที่ตลาดหุ้นกำลังชุลมุน น่าจะถูกสังคมด่าน้อยมากกว่าจังหวะปกติ “โมนิก้า” ถึงมองการอ่อนตัวของหุ้นบางตัวเป็นจังหวะของการช้อนซื้อของถูกเก็บไว้ในพอร์ตนะจะบอกให้
*ฉะนั้นการที่ดัชนีรูดหลุดแนวรับ 1,480 จุดลงมาอย่างรวดเร็ว และแสดงอาการอ่อนปวกเปียก มันเหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดตัวเดิมว่าวันนี้ต้องลงทุนในหุ้นที่ปลอดแรงเทขายนักลงทุนสถาบันใหญ่ๆ เพราะนักเล่นกลุ่มนี้หันมาใช้กลยุทธ์เข้าทำระยะสั้นๆ แต่จะย้อนกลับเข้ามาซื้อหุ้นเมื่อเห็นว่า กดหุ้นไม่ลง! “โมนิก้า” จึงขอปรบมือดังๆให้กับพลพรรคแมงเม่าที่เข้าเก็บหุ้นไว้ในพอร์ตเจ้าค่ะ
*โดยเฉพาะในรายของหุ้นน้องใหม่ FN แสดงความแข็งแกร่งด้วยการยืนปิดที่ 5.65 บาท บวกไป 1.77 บาท หรือขึ้นไป 45.62% ด้วยมูลค่า 2.47 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่สะท้อนถึงความมั่นใจในการลงทุนมีอย่างล้นหลาม จึงเห็นพวกมือเก๋าเข้ามาเก็บหุ้นตลอดเวลา บวกกับวันนี้เห็นสเต็ปการขึ้นเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป (เปิดต่ำ ปิดสูง) จึงน่าจะเห็นการทำ new high ได้เรื่อยๆ ตามตำราเขาว่าไว้อย่างนั้นพะยะค่ะ
*เม้าท์ถึงเรื่องสูตรลงทุนปุ๊บ “โมนิก้า” นึกถึงหุ้นไก่ CPF ขึ้นมาในทันที เพราะของมันเห็นกันอยู่แจ่มแจ้งแดงแจ๋ กำไรต่อหุ้นงวด 9 เดือนอยู่ที่ 1.75 บาทต่อหุ้น หากคิดบน P/E 20 เท่า ราคาเป้าหมายของหุ้นตัวนี้จะอยู่ที่ 35 บาท ขณะที่ราคาปิดวานนี้อยู่ที่ 29 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป 5.70% ด้วยมูลค่า 1.85 พันล้านบาท มันเป็นจังหวะของการลงทุนอย่างชัดเจน..หรือใครจะเถียงว่า ไม่จริง… “อิอิอิ”
*เช่นเดียวกับในรายของ TFG ผลงานเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาผู้คนมากมาย ราคาหุ้นถึงไต่ระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดหุ้นเด้งขึ้นไปทำจุดสูงสุด 5.35 บาท หลังจากนั้นรูดลงมายืนอยู่ที่ 4.92 บาท มันเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องจัดระเบียบทางความคิดกันสักหน่อยว่า หากกำไรไตรมาส 4 ออกมาดีตามที่คาดไว้! จังหวะนี้เป็นโอกาสของการลงทุนรอบใหม่จริงไหม?..หากคิดไม่ออกดู P/E ตอนนี้ที่ 24 เท่า มันเป็นตัวเลขที่ สูง หรือ ต่ำ เมื่อเทียบกับกำไรในอนาคตพะยะค่ะ
*เม้าท์ถึงเรื่องอนาคต “โมนิก้า” มักนึกถึง ESSO เป็นประจำ เพราะกลายเป็นหุ้นที่หลายคนพยายามปิดปาก จนดูเหมือนว่า ดีลขายกิจการจะเกิดขึ้นจริง! ย่อมเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้คนตีความกันไปต่างๆ นานา เดี๊ยนในฐานะคนที่รับสารมาจากทุกทาง จึงรู้สึกเห็นใจทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ยิ่งเห็นหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 12.80 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 6.70% ด้วยมูลค่า 800 ล้านบาท ยิ่งบิ้วด์อารมณ์ให้ทุกคนรู้สึกฮึกเหิมเจ้าค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ SUPER สวนกระแสขึ้นมาปิดที่ 1.60 บาท บวกไป 0.01 บาท ด้วยมูลค่า 461 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นกระแสของธุรกิจพลังงานทางเลือกที่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ และวันนี้ก็มาย้ำถึงความเป็นไปได้ให้ทุกคนได้เห็นอีกครั้ง บวกกับการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นก็สวิงสวายเสียเหลือเกิน จึงกลายเป็นทางเลือกในยามที่หุ้นเด้งขึ้นเป็นประจำ..มีข้อแม้ว่า วันนี้ต้องขยับต่อ หากไม่ขึ้น ต้องเล่นตัวอื่นไปก่อนค่ะ
*เหมือนกับในรายของพระเอกตัวจริง AJD ทุกอย่างออกมาตามแผนงานที่วางไว้ทุกกระเบียดนิ้ว (กำไร 9 เดือนทำได้กว่า 300 ล้านบาท ขณะที่ปีก่อนทำได้ 25 ล้านบาท) แต่เผอิญบรรยากาศไม่เป็นใจเอาเสียเลย จากหุ้นที่เคยมองกันว่าจะไปถึง 3 บาท วันนี้กลับเหลือแค่ 2.10 บาท ลบไป 0.06 บาท ด้วยมูลค่า 115 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องของบุญพาวาสนาส่ง วันนี้ถึงทำได้เคาะสั้นๆ เพื่อรอวันฟ้าเปิดแล้วกันเจ้าค่ะ
*คล้ายกับกรณีของ YUASA กระชากขึ้นมาปิดที่ 31.25 บาท บวกไป 3.25 บาท หรือขึ้นไป 11.60% ด้วยมูลค่า 595 ล้านบาท มันเป็นจังหวะที่สถานการณ์หลายอย่างเอื้อให้ผู้คนกระโจนเข้าใส่ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักวิ่งผลัด 4 คูณ 100 ลองหลับตาพร้อมกับให้ P/E ในระดับ 40 เท่า เทียบกับกำไรต่อหุ้นทั้งปีน่าจะออกมาในระดับ 1 บาท มันเป็นการให้ราคาที่โอเวอร์แวลูไปเยอะไหม?
*ป.ล.เหตุการณ์สำคัญที่จะส่งผลต่อการลงทุนในตลาดหุ้นมี 2 เรื่องด้วยกันคือ ในช่วงปลายเดือน พ.ย. จะมีการประชุมโอเปก และในช่วงต้นเดือน ธ.ค. จะมีการประชุมเฟด ซึ่งจะก่อให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุนระลอกใหญ่ และถ้าดูจากวันที่อเมริกาเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ค่าเงินอยู่ที่ 34.92 บาทต่อดอลลาร์ ล่าสุดขึ้นมายืนอยู่ที่ 35.42 บาทต่อดอลลาร์..เงินไหลออกขนาดไหนไปคิดดู และอย่าลืมพลิกวิกฤติเป็นโอกาสด้วยนะจ๊ะ