PTT:ส่องกำไรมีแนวโน้มดีขึ้นต่อแนะซื้อราคาพื้นฐาน 370 บาท
PTT:ส่องกำไรมีแนวโน้มดีขึ้นต่อแนะนำซื้อให้ราคาพื้นฐาน 370 บาท (sum-of-parts) ความเสี่ยง คือ ความผันผวนของราคาน้ำมัน และความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจสำรวจและผลิต ซึ่งขณะนี้ PTTEP มีปริมาณสำรองฯค่อนข้างต่ำ
บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(15 พ.ย.) ว่า บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กำไรสุทธิ ไตรมาส 3/59 เท่ากับ 27 พันล้านบาท (+8%เทียบไตรมาสก่อนหน้า และพลิกจากขาดทุนใน ไตรมาส 3/58 ที่มีขาดทุนในสต็อกของบริษัทในเครือสูงมาก) ซึ่งกำไรดีกว่าคาดเนื่องจากมีกำไรใน FX และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ดีขึ้น
ธุรกิจก๊าซมีผลประกอบการดีขึ้น โดยยอดขายของโรงแยกก๊าซเพิ่ม 8%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 17%เทียบไตรมาสก่อนหน้า (มีปิดซ่อมบำรุงใน ไตรมาส 2/59) ทั้งนี้ผู้ซื้อหลัก คือ PTTGC มีการผลิตที่ต่อเนื่องดีใน ไตรมาส 3/59 หลัง ไตรมาส 2/59 มีปัญหาปิดซ่อมนอกแผน
อย่างไรก็ดี ปริมาณขายก๊าซทั้งหมดใน ไตรมาส 3/59 ลดลง 3%เทียบไตรมาสก่อนหน้า เป็น 4,750 mmcfd เพราะปัจจัยฤดูกาล และอุปสงค์ NGV น้อยลง (-13%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ -7%เทียบไตรมาสก่อนหน้า) เนื่องจากราคาน้ำมันลดลง ผลขาดทุนใน NGV เพิ่มเป็น 1.5 พันล้านบาทในไตรมาส 3/59 จากขาดทุน 1.3 พันล้านบาทใน ไตรมาส 2/59
ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง 38%เทียบไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากกำไรในสต็อกต่ำลงมากเมื่อเทียบกับ ไตรมาส 2/59 แต่เมื่อเทียบ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่าเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว เพราะ ไตรมาส 3/59 มีขาดทุนในสต็อกจำนวนมาก
ธุรกิจถ่านหินทำกำไรดีขึ้น เนื่องจากราคาถ่านหินที่ปรับขึ้น 13%เทียบไตรมาสก่อนหน้า เป็น 47.2 ดอลลาร์/ตัน โดย Core profit +90% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และดีขึ้นจากขาดทุนในไตรมาส 3/58
แนะนำซื้อให้ราคาพื้นฐาน 370 บาท (sum-of-parts) ความเสี่ยง คือ ความผันผวนของราคาน้ำมัน และความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจสำรวจและผลิต ซึ่งขณะนี้ PTTEP มีปริมาณสำรองฯค่อนข้างต่ำ