นึกหรือว่า..ไม่รู้!โมนิก้าและทีมงาน

*ดูเหมือนความวุ่นวายในตลาดหุ้นจะก่อให้เกิดกระแสถกเถียงกันอย่างกว้างขวางว่า ใครคือต้นเหตุที่ทำให้เหตุการณ์ของหุ้นบางตัวกลายเป็น “ทอล์กออฟเดอะทาวน์” ในเวลานี้ เดี๊ยนมองเป็นเรื่องของความรู้สึกของผู้คนมากกว่าข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นการตีโจทย์แบบผิดๆ และจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง จึงขอทำความเข้าใจกันอีกสักรอบนะคะ


*ดูเหมือนความวุ่นวายในตลาดหุ้นจะก่อให้เกิดกระแสถกเถียงกันอย่างกว้างขวางว่า ใครคือต้นเหตุที่ทำให้เหตุการณ์ของหุ้นบางตัวกลายเป็น “ทอล์กออฟเดอะทาวน์” ในเวลานี้  เดี๊ยนมองเป็นเรื่องของความรู้สึกของผู้คนมากกว่าข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นการตีโจทย์แบบผิดๆ และจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง  จึงขอทำความเข้าใจกันอีกสักรอบนะคะ

*ประเด็นดังกล่าวสืบเนื่องมาจากหุ้นบลูชิตัวแสบกระชากขึ้นแรงผิดปกติ จนสังคมชาวหุ้นเริ่มป้องปากซุบซิบกันต่างๆ นานา ซึ่งเป็นการเปิดช่องทางให้กับพวกไอ้โม่งเข้ามาสร้างกระแสข่าวให้มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยรูปแบบง่ายๆ ที่ถูกหยิบยกขึ้นเข้ามาสร้างสตอเบอรี่ขนานใหญ่ก็คือ ดันราคาหุ้นแบบสุดติ่งกระดิ่งแมว เพื่อทำให้ทุกคนรู้สึกอินกับกระแสข่าวลือที่เกิดขึ้นไงล่ะค่ะ

*ตรงจุดนี้คือเหตุการณ์ที่ผู้คนในตลาดหุ้นเข้าใจกันอย่างถ่องแท้ แต่ก็มีบางส่วนที่ไม่ค่อยทันเกมดังกล่าว “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับพยายามทำความเข้าใจอารมณ์ของหุ้นแต่ละตัว เพื่อจะได้รู้ถึงมุกที่ถูกขุดขึ้นมาเล่นหลายรอบนั้น เอาเข้าจริงก็เป็นเกมหุ้นที่ทุกฝ่ายพร้อมจะลงมาเป็นผู้เล่นด้วยกันทั้งนั้น เดี๊ยนถึงเห็นหลายคนทำตัวลับๆ ล่อๆ ตั้งแต่เกิดกระแสข่าวไงล่ะค่ะ

*งานนี้ไม่จำเป็นต้องไปโทษใครทั้งสิ้น เพราะสิ่งที่นักเล่นต้องรู้คือ ในเมื่ออยากเข้าไปเล่นเกมของคนอื่น ก็ต้องเผื่อใจให้กับความผิดหวัง และอย่าลืมว่า คนที่จะเข้ามายกหุ้นบลูชิพได้หลายช่องติดต่อกันนั้น มันมีแค่นักลงทุนรายใหญ่ กองทุนตัวแสบ และปอบผีฟ้า ส่วนพลพรรคแมงเม่าทำได้แค่ติดสอยห้อยตามขบวนรถด่วน “โมนิก้า” ถึงมั่นใจเกิน 100% ว่า ข่าวดังกล่าวมาจากคนใน ซึ่งส่งผ่านให้กับขาใหญ่ ต่อจากนั้นถึงจะมาเข้าหูแมงเม่านะจะบอกให้

*ประเด็นดังกล่าวดูได้จากคำสัมภาษณ์ของมังกรน้อย “ศุภชัย” แห่งค่าย TRUE ซึ่งได้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการขายหุ้น DTAC ในเที่ยวนี้ไว้ว่า “มีแต่ตัวกลางที่เป็น investment banker มา approach เราว่าสนใจไหม” เพียงเท่านี้ก็ทำให้รู้ว่า มีการเร่ขายหุ้นกันจริงๆ และไอ้คนกลางที่ว่า ก็มีอยู่กันไม่กี่แบงก์ จึงอย่าแปลกใจที่หนังสือพิมพ์หัวสีออกตัวแรงแบบงงๆ พะยะค่ะ

*สถานการณ์ดังกล่าวเหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดให้ทุกฝ่ายรู้ว่า กระแสข่าวที่โหมกระหน่ำในเที่ยวนี้มาจากคนกลาง ซึ่งน่าจะได้รับการบอกเล่าจากฝั่งผู้ขายให้หาคนมาเทโอเวอร์ “โมนิก้า” ถึงอยากเห็นคำชี้แจงออกมาจากทุกฝ่ายว่า ไม่จริง?  เพื่อสยบกระแสข่าวดังกล่าวสักที..ไม่เช่นนั้นก็จะมีไอ้โม่งออกมาปลุกปั่นข่าวออกมาเป็นระลอก บวกกับมีการแอบเม้าท์พีอาร์โทรศัพท์ค่ายสีฟ้าได้แต่นั่งบื้อ ไม่ออกมาชี้แจงข่าวตั้งแต่เนิ่นๆ สถานการณ์เลยรวนไปหมดไงล่ะค่ะ

*วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นดีแตกร่วงลงมาทำจุดต่ำสุด 33.75  บาท ก่อนจะเด้งกลับขึ้นไปปิดที่ 35.25 บาท ลบไป 2.75 บาท หรือลงไป 7.25%  ด้วยมูลค่า 2.99 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือว่า น่าจะมีนัยสำคัญไม่ใช่น้อยสำหรับการลงทุนในวันนี้..ส่วนอีกฝั่งที่ออกมาฏิเสธกลับมีราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 0.05 บาท พร้อมกับขึ้นมายืนอยู่ที่ 7.10 บาท ก็เป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่น่าสนใจไม่แพ้ “ซุปเปอร์มูน” ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันก่อนเจ้าค่ะ

 *เม้าท์ถึงประเด็นตรงนี้ ก็ต้องไปต่อกันที่ ESSOซึ่งกลายร่างเป็นหุ้นร้อนอย่างสมบูรณ์แบบ มันก็มาจากตะเภาเดียวกันกับรายข้างต้น แต่รายนี้อาศัยจังหวะออกข่าวแบบรวดเร็วว่า ไม่มีพัฒนาการที่สำคัญเกิดขึ้น! ซึ่งเป็นการกระชับพื้นที่ข่าวให้อยู่ในกรอบ พวกขาลุยถึงดันหุ้นกันอย่างสบายอุรา วานนี้ถึงหุ้นขยับขึ้นมาปิดที่  12.90 บาท บวกไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่า 630 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเทรดบนค่า P/E 9.50 เท่าแบบนี้..ล่อกันต่อแน่ๆ นะคะ

*อีกหนึ่งตัวที่น่าจะตามไปดูในเที่ยวนี้คือ TFG แรงซื้อเริ่มไหลกลับเข้ามาอีกรอบ จนดันราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 5.20 บาท บวกไป 0.28 บาท หรือขึ้นไป 5.70% ด้วยมูลค่า 370 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่เล่นตามข่าวผลประกอบการ ซึ่งตัวเลขกำไรออกมาเป็นที่น่าพอใจ และเมื่อคิดคำนวณจากกำไรต่อหุ้นปี 59 น่าจะอยู่ที่ระดับ 0.30 บาท เทียบกับ P/E 20 เท่า ราคาเป้าหมายเที่ยวนี้น่าจะอยู่แถว 6 บาทนะจะบอกให้

*เหมือนกับในรายของ MTLS กับ SAWAD หากดูตามรูปการณ์ของตัวเลขกำไร “โมนิก้า” ถือว่า สวยสดงดงามทั้งคู่ ซึ่งขึ้นอยู่กับใครชอบแบบไหน? และเทใจให้ฝั่งผู้ชาย หรือฝั่งผู้หญิง แต่สิ่งหนึ่งที่อยากให้แฟนคลับได้รู้ไว้ก็คือ กำไรมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง แวลูของหุ้นก็ควรจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย วันนี้ถึงเป็นการซื้อลงทุนเพื่อเก็งอนาคตล้วนๆ ล่าสุดหุ้นขึ้นมาปิดที่ 22.50 บาท บวกไป 1.20 บาท หรือขึ้นไป 5.60% ด้วยมูลค่า 520 ล้านบาท ส่วนรายหลังปิดที่ 41 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 5.10% ด้วยมูลค่า 350 ล้านบาท มันเป็นการย้ำว่า เล่นแซนด์วิชดีกว่า..อิอิอิ

*เช่นเดียวกับในรายของ BEAUTY กระชากขึ้นมาทำ new high ที่ระดับ 12.20 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่า 460 ล้านบาท  “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องของความเชื่อมั่นในตัวธุรกิจ ตลาดหุ้นเลยให้ราคาค่อนข้างสูง เพราะถ้ามองในแง่ของค่า P/E ที่ระดับ 56 เท่า มันสูงเกินไปจริงๆ แต่เผอิญกำไรของธุรกิจความสวยความงามดันสูงขึ้นเรื่อยๆ หุ้นก็เลยไปต่อไม่หยุดเท่านั้นเองค่ะ

*ป.ล.เล่นหุ้นวันนี้ต้องอ่านเกมบางอย่างให้ทัน เพราะมักจะมีพวกไอ้โม่งเข้ามาตีให้หุ้นขึ้นด้วยข่าวเดิมๆ ส่งผลให้หน่วยงานอย่าง ก.ล.ต. กับ ตลท. ต้องทำงานหนักขึ้น จึงต้องให้กำลังใจในการทำหน้าที่ของหน่วยงานดังกล่าวสักหน่อยนะจ๊ะ

Back to top button