BIZ โชว์ยอด Backlog ทะลุ 400 ล้าน มั่นใจหนุนรายได้โตแกร่ง!
BIZ โชว์ยอด Backlog ทะลุ 400 ล้าน มั่นใจหนุนรายได้โตแกร่ง!
นายสมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิสซิเนสอะไลเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIZ เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด ออนเรดิโอ” ทาง FM 98.5 MHz สถานีข่าวจริง สปริงเรดิโอ ช่วงเวลา 9.30-11.00 น. ว่าสาเหตุที่ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 3/2559 มีการเติบโตอย่างโดดเด่นนั้น มาจากการรับรู้รายได้จากการส่งมอบงานจำนวน 3 โครงการตามแผนกำหนดการที่วางไว้ ได้แก่ งานโครงการลูกค้ารายโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์, งานโครงการลูกค้ารายโรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี และงานโครงการลูกค้ารายโรงพยาบาลมะเร็งชลบุรี
สำหรับการจำหน่ายและติดตั้งเครื่องฉายรังสีนั้น จะใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน หรืออาจจะเป็น 1 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของสถานที่ เนื่องจากต้องมีอุปกรณ์ประกอบการฉายรังสี การวางแผน การควบคุมคุณภาพ การปรับปรุงและตกแต่งห้องให้เหมาะสมสำหรับติดตั้งเครื่องเพื่อสามารถดำเนินการได้เต็มประสิทธิภาพและเป็นไปตามความต้องการของโรงพยาบาล
โดยจากสติถิผู้ป่วยโรคมะเร็งทั่วโลกจะต้องใช้วิธีการฉายแสงประมาณ 50-60% และผู้ป่วยโรคมะเร็งในแต่ละปีมีถึง 130,000 คน ซึ่งคำนวณได้ว่าผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้วิธีฉายแสงมีประมาณ 70,000-80,000 คน ซึ่งปัจจุบันเครื่องฉายแสงมีอยู่ประมาณ 70 กว่าเครื่อง จึงไม่เพียงพอต่อผู้ป่วยโรคมะเร็งในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตามขณะนี้รัฐบาลกำลังจัดหางบประมาณทางด้านเครื่องรักษาโรคมะเร็ง เพื่อรักษาผู้ป่วยตามโรงพยาบาลต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะเป็นโรงพยาบาลศูนย์มะเร็ง ซึ่งมีอยู่ประมาณ 9 แห่งทั่วประเทศ
ด้านแผนการดำเนินงานปี 2560 จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากปีนี้ โดยบริษัทจะเร่งจำหน่ายติดตั้งเครื่องฉายแสงให้กับโรงพยาบาล พร้อมตั้งเป้ารายได้ปีหน้าจะเติบโตราว 10-15% อย่างไรก็ตามตัวเลขการเติบโตอาจจะไม่เติบโตสูงมาก เมื่อเทียบกับปีนี้ เนื่องจากฐานผลประกอบการปีนี้มีการเติบโตค่อนข้างมาก
โดยปัจจุบันบริษัทมีงานในมือที่รอส่งมอบให้กับลูกค้า (Backlog) อยู่ที่ 400 ล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดว่าจะมาสามารถรับรู้ได้ในปี 2560 และจะช่วยผลักดันอัตราการเติบโตรายได้ของบริษัทให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
อนึ่ง ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 3/2559 ของ BIZ มีกำไรสุทธิ 61.12 ล้านบาท หรือกำไรสุทธิ 0.16 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 40,919% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 0.15 ล้านบาท หรือ 0.01 บาทต่อหุ้น