QH เผย Q4/59 เปิดตัว 2 โครงการหรู มูลค่า 1.5 พันลบ.
QH เผย Q4/59 มีแผนเปิดตัว 2 โครงการใหม่ มูลค่า 1.5 พันลบ., เน้นส่งเสริมการขายเต็มที่
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH เปิดเผยว่าแผนงานในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นไตรมาสสุดท้ายของปี 59 ว่า บริษัทฯมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ อีกจำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1,500 ล้านบาท โดยเป็นโครงการทาวน์โฮมระดับพรีเมี่ยม คือ โครงการคาซ่า ซิตี้ กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ และกัสโต้ ราชพฤกษ์-พระราม 5 ซึ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตคุณภาพ ในระดับราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้
ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 59 บริษัทฯและบริษัทย่อยได้เปิดขายโครงการใหม่ รวม 8 โครงการ มูลค่ารวม 9,000 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการบ้านเดี่ยว จำนวน 4 โครงการ (ได้แก่ วรารมย์ พรีเมี่ยม แก้วนวรัฐ (เชียงใหม่), คาซ่า วิลล์ รามอินทรา-วงแหวน 2, คาซ่า วิลล์ รามคำแหง- วงแหวน 2 และเดอะทรัสต์ วิลล์ ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์) และโครงการทาวน์โฮมระดับ พรีเมี่ยม จำนวน 4 โครงการ (ได้แก่ คาซ่า ซิตี้ วงแหวน-ลำลูกกา 2, คาซ่า ซิตี้ ดอนเมือง-ศรีสมาน, คาซ่า ซิตี้ กัลปพฤกษ์-สาทร และกัสโต้ เพชรเกษม-ทวีวัฒนา) ซึ่งทุกโครงการยังได้รับการตอบรับจากลูกค้าที่ดีแม้ว่าในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาจะมีชะลอตัวไปบ้างเนื่องจากบรรยากาศภาพรวมของประเทศ
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะเริ่มกลับมาคึกคักตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน 59 นี้ รวมทั้งบริษัทฯเองก็จะมีการส่งเสริมการขายช่วงโค้งสุดท้ายที่เป็นโอกาสดีของลูกค้าที่กำลังตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของบริษัทฯในปีนี้จะได้สิทธิประโยชน์ทั้งจากแคมเปญกระตุ้นยอดขายและราคาสินค้าที่ยังไม่ปรับขึ้น
สำหรับในไตรมาส 3/59 บริษัทฯยังคงสร้างผลการดำเนินงานได้ในทิศทางที่ดีและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 4,550 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 204 ล้านบาท หรือเติบโต 5% จากไตรมาสเดียวกันของปี 2558 ทั้งนี้แบ่งเป็น รายได้จากการขายบ้านพร้อมที่ดินและคอนโดมิเนียม 4,200 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 183 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5 % จากไตรมาสเดียวกันของปี 2558) รายได้จากค่าเช่าและค่าบริการ 310 ล้านบาท และรายได้อื่นอีก 40 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 768 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 198 ล้านบาท หรือเติบโต 35% จากไตรมาสเดียวกันของปี 58
สำหรับรายได้รวมสะสม 9 เดือนแรก ปี 59 นั้น บริษัทฯมีรายได้รวม 15,326 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,421 ล้านบาท หรือเติบโต 19% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็น รายได้จากการขายบ้านพร้อมที่ดินและคอนโดมิเนียม 14,313 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 2,415 ล้านบาท หรือเติบโต 20%) รายได้จากค่าเช่าและค่าบริการ 889 ล้านบาท และรายได้อื่นอีก 124 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 2,407 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 604 ล้านบาท หรือเติบโต 33% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 58
ปัจจัยที่ทำให้รายได้สะสมตลอด 9 เดือนที่ผ่านมาเติบโต ถึง 19% เนื่องมาจากการนำนโยบายด้านนวัตกรรมมาพัฒนาสินค้าทุกเซกเมนต์ ทั้งการออกแบบบ้านรุ่นใหม่สู่ตลาด