พาราสาวะถี อรชุน
ปมนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ “เบส” อรพิมพ์ รักษาผล เห็นอาการของบางคนบางพวกแล้ว การเที่ยวกล่าวหาว่าเหตุที่เป็นเรื่องราวใหญ่โตเพราะมีขบวนการเสี้ยมนั้น จึงกลายเป็นเรื่องที่น่าขบคิดอย่างยิ่ง ด้วยวิธีการเช่นนี้และแนวคิด บวกกับคำชี้แจงของใครต่อใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเกี่ยวพันกับนักพูดคนดังว่า คงจะสะท้อนภาพแห่งการแบ่งแยกและยัดเยียดการสร้างความขัดแย้งให้บางกลุ่มบางพวกได้เป็นอย่างดี
ปมนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ “เบส” อรพิมพ์ รักษาผล เห็นอาการของบางคนบางพวกแล้ว การเที่ยวกล่าวหาว่าเหตุที่เป็นเรื่องราวใหญ่โตเพราะมีขบวนการเสี้ยมนั้น จึงกลายเป็นเรื่องที่น่าขบคิดอย่างยิ่ง ด้วยวิธีการเช่นนี้และแนวคิด บวกกับคำชี้แจงของใครต่อใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเกี่ยวพันกับนักพูดคนดังว่า คงจะสะท้อนภาพแห่งการแบ่งแยกและยัดเยียดการสร้างความขัดแย้งให้บางกลุ่มบางพวกได้เป็นอย่างดี
เหมือนอย่างที่มีบทวิเคราะห์ออกมา หากอรพิมพ์จะต้องตายเพราะปาก กระบอกเสียงแห่งกองทัพและผู้มีอำนาจ ก็แสดงพฤติกรรมขว้างงูไม่พ้นคอเช่นกัน มันน่าจะเป็นเช่นนั้น แล้วกรณีนี้มันควรจะจบลงอย่างไร พวงทอง ภวัครพันธุ์ เขียนบทความเรื่อง จะแก้ปัญหากรณีเบส อรพิมพ์ ให้ถึงราก ในระยะยาวจะต้องปฏิรูปกองทัพ คงจะเป็นคำตอบของเรื่องดังว่า
เราเห็นด้วยกับการต้องช่วยกันวิพากษ์วิจารณ์กรณีนี้ รวมทั้งสิทธิของคนอีสานที่จะบอยคอตไม่ฟังการบรรยายของเบส อรพิมพ์ แต่การฟ้องร้องจะไม่ก่อประโยชน์ใดๆมากนัก เพราะกลไกที่ผลักดันให้เกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้นยังคงทรงพลังและเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง แม้ว่ากองทัพอาจเลิกใช้บริการของเบส แต่โครงการอบรมในลักษณะนี้ก็จะยังเดินหน้าต่อไปตามแผนงานประจำและงบประมาณอันมหาศาลที่ตั้งไว้
หน่วยงานราชการทุกหน่วยตั้งงบประมาณสำหรับการฝึกอบรม และในกองทัพ หน่วยงานที่มีบทบาทแข็งขันในการฝึกอบรมมวลชนมากที่สุด ก็น่าจะเป็นกอ.รมน. แม้ว่าในทางกฎหมายกอ.รมน.สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ในทางปฏิบัติทั้งในแง่สายการบังคับบัญชา กำลังคนและอุดมการณ์ อยู่ภายใต้กองทัพบกเกือบจะโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคคสช. เมื่อนายกฯซึ่งต้องควบตำแหน่งผู้อำนวยการกอ.รมน.คือทหาร ฉะนั้นต้องถือว่ากอ.รมน.คือส่วนหนึ่งของกองทัพ
องค์กรมวลชนที่อยู่ในการจัดตั้งของกอ.รมน.มีสารพัด อาทิ องค์กรอาสาสมัครป้องกันชาติ หมู่บ้านป้องกันตนเองและอาสาสมัครพัฒนา กองทหารสำรองเพื่อความมั่นคงแห่งชาติ ไทยอาสาป้องกันชาติ และโครงการเพชรในตม ที่ดึงเด็กนักเรียนจากชนบทที่เรียนดีเข้าโครงการและให้ทุนการศึกษาในระดับปริญญาตรี สมาคมนักธุรกิจรักษาความมั่นคงแห่งชาติ ฯลฯ เครือข่ายของกอ.รมน.นั้นกว้างขวางมาก ทั้งระดับภาคและระดับจังหวัด มีสาขาอยู่ครบทุก 77 จังหวัด
งบประมาณที่ใช้สำหรับฝึกอบรมประเภทนี้ กระจายอยู่ตามแผนงานและโครงการต่างๆ ของกองทัพ เช่น แผนงานรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ โครงการเทิดทูนสถาบันหลักของชาติ กิจกรรมป้องกันรวมทั้งตอบโต้และทำความเข้าใจมิให้มีการล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ (ชื่อกิจกรรมตามเอกสารงบประมาณปี 2558) โครงการประชาสัมพันธ์เพื่อความมั่นคง หรือแม้แต่โครงการดำเนินการด้านสิทธิมนุษยชนและเสริมสร้างความเข้าใจของกอ.รมน.
ในความเป็นจริง เมื่อพิจารณาเนื้อหาสาระของโครงการเหล่านี้ เราจะเห็นว่าไม่ใช่กิจกรรมด้านการทหารโดยตรง ในแง่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบหรือภัยคุกคามต่อบูรณภาพเหนือดินแดนอันเป็นภารกิจหลักของทหารอาชีพ แต่ต้องถือว่าเป็นงานด้านพลเรือน ที่กองทัพไทยเข้ามามีบทบาทอย่างกว้างขวางและมีบทบาทมานานแล้ว
บทบาทนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่ยุคต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ ที่ทหารได้ปรับตัวเองให้กลายมาเป็นทหารนักพัฒนา และงานพัฒนาชนบทก็ถูกครอบงำด้วยแนวคิดความมั่นคงหรือเป็นการพัฒนาเพื่อความมั่นคง ซึ่งเปิดโอกาสให้ทหารเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อย แต่เมื่อภัยคอมมิวนิสต์หมดไป บทบาทนี้ก็ไม่ได้หมดไปด้วย เพราะความมั่นคงถูกตีความให้ขยายครอบคลุมภัยคุมคามรูปแบบใหม่
เช่น ภัยคุกคามภายในประเทศถูกตีความใหม่ จากภัยคอมมิวนิสต์ไปเป็นคนเสื้อต่างสี ภัยยาเสพติด และภัยคุกคามต่อทรัพยากรธรรมชาติและพื้นที่ป่าไม้ เป็นต้น ฉะนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่หลังการรัฐประหารโดย คสช.เพียงไม่กี่เดือน กองทัพโดยมีกอ.รมน.เป็นกลไกสำคัญ จึงเริ่มปฏิบัติการไล่คนออกจากป่าและเสนอแผนแม่บทป่าไม้ได้ในทันที
กล่าวโดยสรุปก็คือ กองทัพได้เข้ามามีบทบาทในกิจการที่ควรจะเป็นหน้าที่ของหน่วยงานด้านพลเรือนมานานแล้ว และเมื่อเข้าสู่ยุคที่กองทัพมีอำนาจมหาศาล เราจึงได้เห็นวิธีการแก้ปัญหาด้านต่างๆ ด้วยวิธีการแบบทหาร ในอนาคตหากจะมีการปฏิรูปกองทัพให้เป็นประชาธิปไตย ก็ต้องทำความเข้าใจถึงอำนาจหน้าที่นี้ของกองทัพด้วย
นี่เป็นความเห็นทางวิชาการ แน่นอนว่ามันจะเกิดผลหากมีคนรับฟังแล้วนำไปปฏิบัติ แต่ในทางตรงข้ามเรื่องของการสร้างกองทัพอาชีพไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง มีการพูดคุยกันตลอดระยะเวลาที่ประเทศถามหาประชาธิปไตย แต่สุดท้ายก็ไม่เคยทำสำเร็จ มิหนำซ้ำ ในยุคนี้ยังเห็นได้ชัดว่า มีการนำพาคนมีสีเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมืองร้อยเปอร์เซ็นต์ เห็นได้จากส.ว.ลากตั้งที่ให้ผู้นำกองทัพเข้าไปเป็นโดยตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม ประเด็นของเบสก็ถูกนำไปขยายผลในโซเชียลมีเดีย ที่เป็นแง่มุมชี้นิ้วกล่าวหาไปยังกลุ่มนปช. อันเป็นแกนหลักของคนเสื้อแดงว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการขยายผลคำพูดดังกล่าว เพื่อหวังกระทบความมั่นคง ซึ่ง ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษานปช.ได้ออกมาตอบโต้ทันทีว่า ไม่มีส่วนใดที่จะโยงว่านปช.อยู่เบื้องหลังได้ เพราะนปช.ไม่ได้เป็นผู้ว่าจ้างอรพิมพ์ให้พูด
ดังนั้นหากจะกล่าวหาว่าใครอยู่เบื้องหลัง ควรดูว่าใครเป็นผู้จ้าง ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ที่พบว่ามีทหารร่วมด้วย ทั้งนี้ไม่ได้กล่าวหาว่าทหารเป็นผู้กระทำ ไม่เพียงเท่านั้น ธิดายังได้แสดงความใจกว้างด้วยว่าสิ่งที่เบสได้รับจากสิ่งที่ทำ เชื่อว่าได้บทเรียนแล้ว ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นแม้จะเป็นความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ หรือรับ ไม่รับงานมา มีผู้บอกว่าเบสรับงานมาแต่ตนไม่เชื่อเช่นนั้น
บทสรุปของธิดาจึงน่าจะเป็นแนวทางให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหรือพวกที่มีเจตนาบิดเบือนได้คิด ขอให้ทุกฝ่ายพึงสังวรด้วยว่า กรณีที่เกิดขึ้นเกิดจากความคิดที่ไม่เหมาะสมและความมีอคติในใจ ทางแก้ไขคือต้องลบอคติที่อยู่ในใจ เพราะหากไม่ลบอคติในใจแล้วคุณอาจเผลอพูดออกมาและเกิดปฏิกิริยาความไม่พอใจได้ เหมือนอย่างที่บอกไว้วันก่อน หากคนที่จะเข้ามาแก้ปัญหายังเต็มไปด้วยอคติก็ยากที่จะสร้างความปรองดองหรือขอความร่วมมือให้คนสามัคคีกันได้