สังคมข่าวหุ้นนิวส์เวฟ
ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,496.36 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 10.68 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 5 หมื่นล้านบาท
ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,496.36 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 10.68 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 5 หมื่นล้านบาท
* ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดบวกเฉียดใกล้ระดับ 1,500 จุดกันอีกรอบ วันนี้ หากเปิดมาไม่เจอแรงขายทำกำไรหนักจนกดดันดัชนีเกินไป พี่ SET จะมีโอกาสที่วิ่งทะลุ 1,500 จุดกันต่อไปได้
* เมื่อวานสถาบันพระเอกหลัก เข้าซื้อสุทธิไปสูงสุดในกลุ่มรวม 1,155 ล้านบาท ตามด้วยบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ 341 ล้านบาท ส่วนขาเทขายสุทธิพี่รายย่อยไม่รอช้า สาดออกเยอะสุด 804 ล้านบาท ตามด้วยต่างชาติ 692 ล้านบาท
* แนะนำหุ้นวันนี้น่าจะโดนใจขาลงทุนนิยมกลุ่มหุ้นบลูชิพไซด์ใหญ่
* โดยมี 5 หุ้นเด่นที่ล่าสุดราคาถอยลงมาจนต่ำพื้นฐานจนน่าเข้าลงทุน มีตัวอะไรบ้างหรือรายละเอียดเป็นแบบไหนพลิกอ่านในฉบับได้เลย
* แต่เบื้องต้นขอเลือกหยิบมาแนะนำแบบเป็นน้ำจิ้มกันหน่อยโดยเลือกกันไปที่ AOT
* สำหรับ AOT เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่นักวิเคราะห์มองว่าตอนนี้ราคาถอยจนต่ำกว่าพื้นฐานแล้ว นับเป็นโอกาสดีเข้าสะสม * และภายในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ ทาง AOT เตรียมประกาศงบปี 59 (ต.ค. 58-ก.ย. 59) อย่างเป็นทางการ
* แน่นอนถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ทำกำไรเติบโตแกร่ง ขานรับแรงหนุนนักท่องเที่ยวที่ไหลเข้ามาใช้บริการสนามบินแบบหนาแน่นช่วงที่ผ่านมา
* ดังนั้น โค้งสุดท้ายก่อนประกาศงบ น่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรหนุนนำราคาหุ้น AOT กันแน่
* ฟากโบรกฯ ให้ราคาเป้าหมาย 470 บาท เหลืออัพไซด์อยู่มากโข
* อีกหุ้นไซด์ใหญ่ที่น่าจับตา PTTGC ตั้งแต่งบไตรมาส 3 ที่ประกาศกำไรโตดีเกินคาด สามารถหนุนให้ราคากลับมายืนเหนือระดับ 60 บาทได้ทันที * นอกจากเทรนด์งบไตรมาส 4 ที่ทิศทางกำไรกลุ่มสินค้าปิโตรเคมียังแกร่งแล้ว
* แต่ล่าสุดมีอีกหนึ่งประเด็นบวกซุกซ่อนต้องน่าจับตา คือ กรณีที่ PTT เตรียมปรับพอร์ตโยกธุรกิจปิโตรเคมีมาไว้ที่ PTTGC เพิ่มเติมอีก
* เรียกได้ว่า หากกระบวนการนี้สำเร็จไปด้วยดี จะยิ่งทำให้ PTTGC มีสินทรัพย์ในมือเพิ่มอีกทะลัก ผลที่ตามมาย่อมส่งบวกต่อโอกาสสร้างกำไรที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นช่วงอนาคต
* ขณะที่ราคาเป้าหมายล่าสุด วงการเงินเคาะไว้ 70 บาท ถือว่ามีอัพไซด์เหลือพอตัว
* ซึ่งเชื่อได้เลยว่า หากแผนโยกธุรกิจปิโตรเคมีจาก PTT มาไว้ที่ PTTGC และกรณีลูกในเครือ โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) ที่จะเข้าระดมทุนเกิดความชัดเจน งานนี้ ได้เห็นตลาดปรับราคาเป้าหมายขึ้นอีกเพียบ
* หุ้น GFPT นี่ราคาถอยลงมาแบบไม่สมเหตุสมผลกันเลยสักนิด
* เพราะไม่ว่าจะเรื่องงบปี 59 ที่มีโอกาสเติบโตสูง หรือ กรณีเกาหลีใต้เตรียมนำเข้าไก่สดแช่แข็งจากไทยรอบ 12 ปี
* ล้วนถือเป็นข่าวดีส่งบวกโดยตรงต่อทาง GFPT ทั้งสิ้น
* ล่าสุดปิดฉากลบอยู่ที่ 14.40 บาท เทียบกับ P/E ปัจจุบันที่เทรดกันต่ำเพียง 11 เท่า นับว่าหุ้นถูกเป็นอย่างมาก * ซึ่งหากปิดงบปี 59 กำไรโตแตะ 1,500 ล้านบาท ตามที่แวดวงการเงินคาดกันไว้
* นั่นหมายความว่า P/E ของหุ้นลูกเจี๊ยบจะมีโอกาสถอยลงต่ำเข้าไปอีก
* ที่สำคัญเมื่อเทียบกับหุ้น CPF และ TFG ที่ราคาวิ่งแรงรับข่าวเกาหลีใต้จ่อนำเข้าไก่แล้ว ทาง GFPT หุ้นยังไม่ตอบรับกันเลย
* ดังนั้น โอกาสเข้าเก็บในราคาต่ำมาแล้วอย่าปล่อยให้พลาดมือกันไป
* เพราะที่สำคัญมีข่าวดีอีกเรื่องที่หลายคนมองข้าม นั่นคือ มีลุ้นวิ่งเข้าติด SET100 โดยจะประกาศผลออกมาช่วงกลางเดือน ธ.ค.นี้
* ด้านหุ้นร้อนรายล่าสุด ที่โดน ตลท. ประกาศใช้เกณฑ์ควบคุมดับความร้อน
* ตกเป็นของหุ้น UMS โดนระดับ 1 ด้วยเกณฑ์ Cash Balance ซึ่งจะขยายช่วงดำเนินการตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. เป็นต้นไป และไปสิ้นสุดลงในวันที่ 14 ธ.ค. 59
* ****หุ้นร้อนประจำวันที่ 23 พ.ย. 2559 ที่มีราคาและมูลค่าซื้อขายปรับขึ้นแรงและอยู่ระหว่าง (Trading Alert List) และขยายช่วงดำเนินการ ได้แก่ บริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) หรือ UMS ทำให้เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 ต้องใช้เกณฑ์ Cash Balance (ซื้อขายด้วยเงินสดทั้งจำนวน) มีผลตั้งแต่ 24 พ.ย. 2559-14 ธ.ค. 2559
****ปิดท้ายกันด้วยหุ้น FSMART ราคาแกร่งจริงๆ สัปดาห์นี้วิ่งทำนิวไฮตั้งแต่เข้าจดทะเบียนที่ระดับ 18.50 บาท * แบบนี้แหละที่เขาบอกว่า พื้นฐานบริษัทจะเป็นแรงขับเคลื่อนราคาหุ้น
* ซึ่งต้องบอกเลยว่า งวด 9 เดือนที่โกยกำไรสูงท่วมไปแล้ว 287 ล้านบาท นี่มาจากฝีมือล้วนๆ
* จึงเหมาะสมแล้วกับที่ได้รับตำแหน่งเป็นหนึ่งในสามหุ้นทำกำไรสุทธิสูงสุดประจำงวดไตรมาส 3 ของฝั่ง mai อย่างแท้จริง *