SET ยืนบวก โบรกฯ ชู 7 หุ้น รับผลบวกนโยบายภาครัฐ
SET ยืนบวก พร้อมให้แนวรับ 1,490 แนวต้าน 1,500 จุดโบรกฯ ชู 7 หุ้น รับผลบวกนโยบายภาครัฐ นำโดย BJC, CPALL, BEAUTY, ROBINS, GLOBAL, MINT และ ERW
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (25 พ.ย.) รีบาวด์ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคและต่างประเทศ แต่วอลุ่มค่อนข้างบาง จากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน โดยนักลงทุนน่าจะมีการเข้าซื้อหุ้นแลกการ์ด ทำให้หุ้นหลายตัวเช้านี้ปรับตัวขึ้น ส่วนแนวโน้มการลงทุนช่วงบ่าย คาดตลาดฯน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบอิงทางแดนบวก พร้อมให้แนวรับ 1,490 แนวต้าน 1,500 จุด
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้รีบาวด์ตามทิศทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคและตลาดต่างประเทศ แต่ยังมีข้อจำกัด ซึ่งมองดัชนีน่าจะยังไม่ผ่านระดับ 1,500 จุดได้ในวันนี้ เนื่องด้วยไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน จะเห็นได้จากวอลุ่มที่ค่อนข้างบาง
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนน่าจะเข้าซื้อหุ้นที่มีพื้นฐานดี แต่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นช้า หรือเรียกว่า หุ้นแลกการ์ด เช่น หุ้นกลุ่ม ICT,MEDIA เป็นต้น ซึ่งเช้านี้หุ้นหลายตัวราคาต่างก็มีการปรับตัวขึ้น
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ เรื่องของอัตราแลกเปลี่ยน ,ทิศทางดอกเบี้ย และทิศทางราคาน้ำมัน รวมถึงให้ติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของภาครัฐในช่วงที่เหลือของปี หลังจากออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร, ผู้มีรายได้น้อยและ SMEs แล้ว แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบอิงทางแดนบวก พร้อมให้แนวรับ 1,490 จุด ส่วนแนวต้าน 1,500 จุด
บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (25 พ.ย.) ว่า SET ภาคเช้าเคลื่อนไหว sideways ออกข้าง ด้วยปริมาณการซื้อขายลดลงต่อเนื่อง จากเมื่อวานนี้ โดยหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว อย่าง AOT MINT ERW ที่ได้รับผลดีจากการลดราคาวีซ่านักท่องเที่ยวลง รวมไปถึงคาดว่ารัฐบาลจะออกมาตรการลดหย่อนภาษี 15,000 บาท สำหรับการ “กิน-เที่ยว” ปลายปีนี้ ในการประชุม ครม.สัปดาห์หน้า Outperform ตลาด
ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจาก 1) นโยบายกระตุ้นการบริโภค ของรัฐบาล ที่ทยอยออกมาช่วงปลายปี ไม่ว่าจะเป็นมาตรการให้เงินช่วยเหลือผู้มีรายได้ต่ำ 1500-3000 ต่อราย, เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ และคาดว่าจะออกมาตรการลดหย่อนภาษี “กิน-เที่ยว” ปลายปีเร็วๆ นี้ อย่าง BJC CPALL BEAUTY ROBINS GLOBAL MINT ERW (แนวต้าน 4.80 และถัดไปที่ 5 บาท – ดูกราฟด้านล่าง) 2) การเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยคาดว่าจะเปิดซองรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง ภายในปีนี้ อย่าง CK SEAFCO STEC และ 3) MSCI เพิ่มน้ำหนักลงทุน และคาดการณ์ประชุม OPEC สนับสนุนราคาน้ำมันฟื้นตัว อย่าง BJC KCE PTTGC และ IRPC
สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า
AOT มูลค่าการซื้อขาย 944.46 ล้านบาท ปิดที่ 384.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท
MTLS มูลค่าการซื้อขาย 631.38 ล้านบาท ปิดที่ 24.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
MINT มูลค่าการซื้อขาย 594.75 ล้านบาท ปิดที่ 36.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 499.67 ล้านบาท ปิดที่ 18.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
MEGA มูลค่าการซื้อขาย 423.67 ล้านบาท ปิดที่ 25.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.30 บาท