สลับหน้าเล่นโมนิก้าและทีมงาน

*การแกว่งตัวไปมาของดัชนีในเที่ยวนี้ทำให้รู้ว่า ยังมีคนต้องการซื้อหุ้นเยอะพอสมควร แต่อีกส่วนหนึ่งก็เริ่มชะลอการลงทุน ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายเบาบางลงอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับเกิดปรากฏการณ์โยกหุ้นตัวใหม่ๆ ขึ้นมาเล่นตลอดเวลา “โมนิก้า” มองเป็นเกมหุ้นของพวกกองทุนตัวแสบที่นักเล่นต้องจับไต๋ให้ทัน เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุนในรอบนี้ไงล่ะค่ะ


*การแกว่งตัวไปมาของดัชนีในเที่ยวนี้ทำให้รู้ว่า ยังมีคนต้องการซื้อหุ้นเยอะพอสมควร แต่อีกส่วนหนึ่งก็เริ่มชะลอการลงทุน ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายเบาบางลงอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับเกิดปรากฏการณ์โยกหุ้นตัวใหม่ๆ ขึ้นมาเล่นตลอดเวลา “โมนิก้า” มองเป็นเกมหุ้นของพวกกองทุนตัวแสบที่นักเล่นต้องจับไต๋ให้ทัน เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุนในรอบนี้ไงล่ะค่ะ

*วันนี้ถึงกล้าบอกได้ทันทีว่า ถ้าคิดจะเล่นหุ้นใหญ่ ต้องจับตาดูท่าทีของกองทุน…ถ้าคิดจะเล่นหุ้นเล็ก ต้องจับตาดูท่าทีของรายใหญ่ ซึ่งแต่ละรูปแบบก็มี “ข้อดี ข้อเสีย” แตกต่างกันอย่างชัดเจน จึงต้องเข้าใจรูปแบบการเล่นในแต่ละวันออกไปในโทนไหน หลังแรงเทขายจากฝรั่งตาน้ำข้าวไม่ได้มีพิษสงร้ายแรงเหมือนเมื่อก่อน แต่ยังมีอิทธิพลทำให้ดัชนีม้วนตัวไปมานะจะบอกให้

*ด้วยเหตุนี้ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับมองการถีบตัวของดัชนีเมื่อวันพุธกว่า 10 จุด พอมาถึงวันพฤหัสฯ รูดลงมา 6 จุด ขณะที่วันศุกร์วิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,500.40 จุด บวกไป 10.29 จุด ด้วยมูลค่า 3.68 หมื่นล้านบาท  พร้อมกับพยายามขึ้นไปยืนเหนือ 1,500 จุดอีกรอบนั้น เดี๊ยนมองเป็นข้อมูลที่สะท้อนถึงการแกว่งตัวในลักษณะ side way up และภาพดังกล่าวจะชัดเจนขึ้นไปอีกในสัปดาห์นี้เจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของ AOT ทุกคนรู้…อับดุลรู้…น้องโมรู้ นี่คือหุ้นเสือนอนกิน ตัวเลขกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ราคาหุ้นก็ควรเพิ่มขึ้นตามไปด้วย วันนี้ถึงเห็นหุ้นไต่ระดับขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะลงเอยด้วยการปิดที่ 383 บาท บวกไป 7 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.71 พันล้านบาท ก็ยังเป็นระดับที่น้อยเกินไปเมื่อเทียบกับแวลูที่โบรกเกอร์ให้ไว้ในระดับ 400-420 บาทนะจ๊ะ

*ส่วนในรายของน้องมิ้น MINT กระชากขึ้นอย่างร้อนแรง ก่อนจะมาปิดที่ 36.25 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่า 1 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการถีบตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ ทั้งที่ทิศทางของหุ้นยังอยู่ในลักษณะ side way down “โมนิก้า” ถือเป็นเกมที่เล่นได้แค่สั้นๆ และมองยอดบนได้แค่ระดับ 38 บาท วันนี้ถึงต้องถามใจบรรดานักเล่นว่า วันนี้กล้าลุยต่อไหมเอ่ย!

*เหมือนกับการทะยานขึ้นของMEGA จนล่าสุดขึ้นมายืนอยู่ที่ระดับ 25.50 บาท บวกไป 1.80 บาท หรือขึ้นไป 7.60% ด้วยมูลค่า 533 ล้านบาท พร้อมกับปรากฏรูปแบบ v-shape อย่างเต็มตัว บวกกับหุ้นวิ่งขึ้นมาอยู่ตรงปลายของตัววี “โมนิก้า” ตีความได้แค่ 2 อย่างคือ “จบรอบ” กับ “ไปต่อ” โดยตัวแปรที่จะเป็นตัวชี้ขาดอยู่ที่นักลงทุนสถาบันยังเข้าเล่นต่อไหม?…จริงเท็จอย่างไร วันนี้รู้ผลเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับ 2 ดาวเด่นกลุ่มลิสซิ่ง MTLS กับSAWAD “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องจังหวะที่เวียนมาบรรจบ หุ้นถึงพุ่งกระฉูดอย่างร้อนแรงอีกครั้ง และดูเหมือนหุ้นตัวแรกจะพกความมั่นใจมาเต็มกระเป๋า จึงเดินหน้าทำ new high อย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดขึ้นมายืนอยู่ที่ 24.90 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 6.40% ด้วยมูลค่า 1 พันล้านบาท ส่วนรายหลังอาศัยจังหวะที่หุ้นลงมาลึกเกินความเหมาะสม จึงมีแรงดีดกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 42.50 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 6.25% ด้วยมูลค่า 440 ล้านบาท มันเป็นเกมที่นักลงทุนสถาบันเป็นคนกำหนดนะคะ

*ส่วนในรายของดาวรุ่งพุ่งแรง BIG เดินหน้าทำกำไรอย่างแข็งแกร่งได้ทุกไตรมาสแบบนี้กระมัง หุ้นถึงไต่ระดับขึ้นมายืนอยู่ที่ 5.50 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 8.90% ด้วยมูลค่า 540 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตต่อเนื่องที่น่าจะเล่นกันได้อีกพักใหญ่ๆ บวกกับเซียนหุ้นเปรียบเทียบค่า P/E 40 เท่า บนสมมุติฐานกำไรต่อหุ้นขั้นต่ำอยู่ที่ 0.15 บาท ได้ราคาเป้าหมาย 6 บาท ขาลุยเลยใส่กันไม่เลิกไงล่ะค่ะ

*สำหรับในรายของTFG ก็มีตรรกะความคิดคล้ายกับรายข้างต้น และหากนำเอากำไรต่อหุ้นที่ 0.28 บาทมาเทียบเคียงบนค่าพีอี 40 เท่า ราคาเป้าหมายขั้นต่ำของหุ้นจะอยู่แถว 10 บาท ขณะที่ราคาล่าสุดยืนปิดเสมอตัวอยู่ที่ 7 บาท ด้วยมูลค่า 420 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นคำบอกเล่าที่นักลงทุนต้องนำเอาไปวิเคราะห์กันอีกทอดหนึ่ง เพื่อตัวเองจะได้รู้ว่า “สู้” หรือ “ถอย” นะจะบอกให้

*ส่วนรายที่ควรจะสู้สุดตัว “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ EA ซึ่งเป็นหุ้นสุดเลิฟที่มีโปรเจ็กต์ดีๆ มาฝากมิตรรักแฟนเพลงเป็นประจำ ล่าสุดมีแรงซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 29.25 บาท บวกไป 1.50บาท หรือขึ้นไป 5.40% ด้วยมูลค่า 160 ล้านบาท มันเป็นจังหวะที่ต้องตามไปดูเหมือนเดิมทุกครั้ง หลังหุ้นไม่สามารถวิ่งทะลุแนวต้าน 30 บาทขึ้นไปได้สักที วันนี้จึงต้องลุ้นกันตัวโก่ง เพื่อพลิกแนวต้านกลายเป็นแนวรับนะซี

*นอกจากนี้ ยังมีหุ้นประเภทหวือหวาเป็นตัวเลือกให้กับคนที่ชอบเสียว และดาวเด่นในเที่ยวนี้ต้องยกให้กับ CPR หลังทะยานขึ้นมาปิดที่ 7.55 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 6.30% ด้วยมูลค่า 390 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นวงรอบของหุ้นที่ได้แรงหนุนจากข่าวผลประกอบการเป็นหลัก วันนี้ถึงต้องเบิ่งตามองค่า P/E 17.80 เท่า เป็นระดับที่ควรหยุดเล่นแล้วหรือยัง…อิอิอิ

*ส่วนคนที่ยังช้อปของในตลาดหุ้นไม่เลิกอย่าง “เสี่ยเจริญ” ก็เป็นสีสันที่ทำให้วงการตลาดหุ้นคึกคักขึ้นมาในทันที ล่าสุดเป็นคิวของ AMARIN ที่ตกอยู่ภายใต้เงื้อมือเจ้าพ่อน้ำเมานั้น “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ win-win เพราะเจ้าของเดิมก็ต้องการคนเข้ามาโอบอุ้ม และอัดฉีดเม็ดเงินก้อนใหญ่ หลังประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนักหน่วง…ส่วนฝั่งคนซื้อก็มีสื่อครบวงจรเป็นของตัวเองสักที หุ้นเลยเด้งรับข่าวด้วยการวิ่งขึ้นไปถึง 9.65 บาท ต่อจากนั้นร่วงลงมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายมาปิดที่ 7.35 บาท ลบไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่า 320 ล้านบาท มันเป็นแค่การเริ่มต้นเกมหุ้นรอบใหม่เจ้าค่ะ

Back to top button