รออีกไม่เกิน 15 ชั่วโมงพลวัต 2016

เมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยถูกแรงขายในภาคบ่ายดันให้ร่วงลงไปปิดตลาดที่ระดับ 3.60 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายคึกคักพอประมาณที่ระดับ 4.9 มหื่นล้านบาท ทำให้สัญญาณเทคนิคขอตลาดแกว่งตัวในกรอบแคบๆต่อไปอีกระยะหนึ่ง แต่คงไม่ถึงกับต้องรอนานเกิน เพราะคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย ก็จะรู้ผลในท้ายสุดของการประชุมโอเปกที่เวียนนามกันแล้วว่า จะมีทางออกที่ทำให้โลกล่มสลาย หรือ ขึ้นสวรรค์กันชัดเจน


เมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยถูกแรงขายในภาคบ่ายดันให้ร่วงลงไปปิดตลาดที่ระดับ 3.60 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายคึกคักพอประมาณที่ระดับ 4.9 มหื่นล้านบาท ทำให้สัญญาณเทคนิคขอตลาดแกว่งตัวในกรอบแคบๆต่อไปอีกระยะหนึ่ง แต่คงไม่ถึงกับต้องรอนานเกิน เพราะคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย ก็จะรู้ผลในท้ายสุดของการประชุมโอเปกที่เวียนนามกันแล้วว่า จะมีทางออกที่ทำให้โลกล่มสลาย หรือ ขึ้นสวรรค์กันชัดเจน

การแกว่งตัวในกรอบแคบของตลาดหุ้นไทยวานนี้จึงเป็นการฆ่าเวลารอผลลัพธ์ที่ใหญ่กว่าที่จะกระทบกับพื้นบานของตลาด คำอธิบายพื้นๆของนักวิเคราะห์ที่ว่า ตลาดปรับท่าทีขายเมื่อข่าวจริง หลังจากที่รับรู้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไปแล้ว ส่งผลให้วันนี้มีแรงขายทำกำไรออกมา จึงเป็นคำอธิบายเพื่อฆ่าเวลาธรรมดาเช่นกัน

ความชัดเจนว่า กลุ่มชาติโอเปกจะสามารถตกลงลดกำลังการผลิตได้หรือไม่ จึงมีความสำคัญมากเป็นพิเศษ  แต่ยิ่งใกล้เวลาชี้ขาดมากเท่าใด ความคุลมเครือกลับมีบทบาทโดดเด่นกว่าปกติเช่นกัน

ความล้มเหลวที่จะหาเอกภาพของกลุ่มชาติโอเปก ยังมีความไม่แน่นอนต่อไป ไม่ถึงกับล้มเหลว แต่ก็ไม่บรรลุเป้าที่ตั้งไว้  เพราะแม้ว่าการประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่ม OPEC จะสิ้นสุดลงเมื่อวันจันทร์ โดยไม่สามารถสรุปการลดกำลังการผลิตของแต่ประเทศได้ ความพยายามก็ยังไม่สิ้น

รัฐมนตรีน้ำมันของแอลจีเรียและเวเนซูเอลา ที่รับผิดชอบประสานงานการเจรจาเพื่อลดกำลังการลิตน้ำมันรบล่าสุดนี้ ได้เดินทางไปรัสเซีย เพื่อหารือ โดยได้รับคำยืนยันจากประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูตินว่า ได้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีอิหร่าน ว่ารัสเซียพร้อมร่วมมือกับอิหร่านในการรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมัน อีกทั้งยังแสดงความเห็นว่าการประชุมโฮเปกครั้งนี้ มีความสำคัญต่อตลาดพลังงานอย่างมาก

ขณะเดียวกัน ท่าทีที่เปลี่ยนไปของรัฐมนตรีน้ำมันของอิรัก ผู้ผลิตน้ำมันดิบอันดับ 2 ของชาติโอเปก ที่ว่า พร้อมจะร่วมกับประเทศอื่นๆ หากได้รับข้อเสนอที่ สมาชิกในกลุ่มยอมรับร่วมกัน ก็เป็นแรงกดดันที่ทำให้อิรห่านเริ่มขยับตัวเพราะไม่อยากตกเป็นชาติที่ถูกโดดเดี่ยวในการประชุมโอเปกวันนี้

ค่ำวานนี้ รัฐบาลตรีน้ำมันของอิหร่าน แสดงท่าทีล่าสุดเพื่อออกตัวแบบนักการทูตว่า ข้อเท็จจริงทางด้านเศรษฐกิจ และธุรกิจของน้ำมันล้วนๆ โดยปราศจากอคติทางการเมือง จะทให้ข้อตกลงลดกำลังการผลิตเมื่อเดือนกันยายน สามารถบรรลุได้ไม่ยากเย็นนัก

รัฐมนตรีอิหร่านที่เข้าร่วมการเจรจาในชาติโฮเปกที่เวียนนา ระบุอย่างเล่นลิ้นว่า หากน้ำมันถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเมือง โอกาสที่โอเปกจะไม่บรรลุเหมาย ย่อมเป็นไปได้

 เช่นกัน อีกมุมหนึ่ง นักวิจัยตลาดน้ำมันของยักษ์ใหญ่ด้านวาณิชธนกิจสำคัญระดับโลก โกลด์แมน แซคส์ ก็ออกรายงานล่าสุด ระบุว่า สมาชิกโอเปกจะเผชิญกับการเจรจาต่อรองอย่างหนักในการประชุมอย่างเป็นทางการในวันนี้ เพื่อให้สามารถบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมัน ด้วยเหตุผลว่า แม้สมาชิกจะมีความเห็นพ้องกันอย่างกว้างๆ ถึงความจำเป็นในการลดการผลิต แต่ปัจจัยทางการเมือง และการเจรจาแบ่งโควตาการผลิตเป็นรายประเทศ จะทำให้ที่ประชุมไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้

นักวิจัยของโกลด์แมน แวคส์  ได้ลดมุมมองจากเมื่อหลายเดือนก่อนที่เคยระบุว่า “ตลาดน้ำมันได้สิ้นสุดภาวะน้ำมันล้นตลาดที่ได้ดำเนินมาเกือบ 2 ปีแล้ว หลังจากเกิดการชะงักงันในการผลิตน้ำมันทั่วโลก  ซึ่งทำให้เกิดการเข้าสู่ภาวะขาดแคลนน้ำมันเร็วกว่าที่คาดไว้ ทำให้คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในปีนี้เป็นบวก” ก็เปลี่ยนไปอีกอย่างระวังรอบคอบมากขึ้น โดยแยกออกเป็น 2 ทางเลือกว่า ทางเลือกแรกสุด และเลวร้ายสุดๆ หากไม่มีการบรรลุข้อตกลงจากโอเปก สต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นจนถึงครึ่งปีแรกของปีหน้า จะทำให้ราคาอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 45 ดอลลาร์/บาร์เรล ยืดเยื้อไปจนถึงช่วงฤดูร้อนปีหน้า

ในทางตรงกันข้าม  ถ้าโอเปกสามารถสร้างมหัศจรรย์ร่วมขึ้นได้ในคืนนี้ จนบรรลุข้อตกลงลดการผลิตน้ำมันสู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน ลดลงจาก 33.82 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนตุลาคม ตามที่เคยบรรลุในหลักการเมื่อเดือนกันยายน ราคาน้ำมันดิบในรอนาคตสั้นๆ ก็จะดีดตัวขึ้นทะลุกรอบ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลเพียงแต่จะไม่เกินเพดาน 55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพราะหากเกินนั้นเมือใด จะทำให้ปริมาณผลผลิตน้ำมันดิบจากสหรัฐฯออกมาถ่วงดุลไว้เสมอ

โจทย์ที่พยายามมองโลกตามข้อเท็จจริงของโกลด์แมน แซคส์นั้น ถือว่าน่าสนใจอย่างมาก

ถ้าหากว่า ตัวแทนของชาติโอเปกไม่ถกอคติทางการเมืองส่วนตัว และอาการของโรค”ปีเตอร์ แพน”( หรือ ผู้ใหญ่ที่ไม่ยอมโตนิรันดร) ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกพลอยได้รับอานิสงส์ตามไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่พ้น เป็นข่าวดีทางอ้อมที่ส่งต่อมายังชาติกำลังพัฒนาที่ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์เป็นสินค้าขาออกสำคัญ

เว้นเสียแต่ว่า ตัวแทนชาติพี่เบิ้มโอเปกอย่างอิหร่าน และซาอุดิอาระเบีย จะมีกอาการกำเริบกะทันหัน ลืมว่าเคยเล่นลิ้นเอาไว้อย่างไรบ้าง

อีกไม่เกิน 15 ชั่วโมง ก็คงจะรู้ชัดเจน ไม่ต้องรอไปอีกนานแสนนาน

Back to top button