ขายไว้ก่อน (ถูกแล้ว)โมนิก้าและทีมงาน

*ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ...ไม่สนใจก็ต้องสนใจ เพราะการที่กลุ่มโอเปกสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงวันละ 1.20 ล้านบาร์เรล ย่อมเป็นเรื่องที่ส่งผลดีโดยตรงกับหุ้นพลังงาน พร้อมกับทำให้นักลงทุนสถาบันหวนกลับเข้ามาซื้อหุ้นแบบจัดเต็มอีกครั้ง ซึ่งกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้บรรยากาศการลงทุนสดใสซาบซ่าอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนพะยะค่ะ


*ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ…ไม่สนใจก็ต้องสนใจ เพราะการที่กลุ่มโอเปกสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงวันละ 1.20 ล้านบาร์เรล ย่อมเป็นเรื่องที่ส่งผลดีโดยตรงกับหุ้นพลังงาน พร้อมกับทำให้นักลงทุนสถาบันหวนกลับเข้ามาซื้อหุ้นแบบจัดเต็มอีกครั้ง ซึ่งกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้บรรยากาศการลงทุนสดใสซาบซ่าอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนพะยะค่ะ

*ข้อมูลตรงนี้ทำให้เชื่อว่า หุ้นกลุ่มพลังงานจะเป็นตัวดันดัชนีอย่างมีนัยสำคัญ และในจังหวะนี้น่าจะตามไปดูสถานการณ์แบบห่างๆ แต่อย่าลืมว่า ในเรื่องดีย่อมมีเรื่องร้ายแฝงไว้ด้วยเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงพยายามให้ผู้เล่นรู้จักปรับเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนให้มีความหลากหลาย เนื่องจากไม่มีใครรู้ว่า ข่าวสารที่เกิดขึ้นในแต่ละวันจะออกมาเป็นแบบไหนนั่นเองเจ้าค่ะ

*คิดดูแล้วกัน?…วันก่อนราคาหุ้นน้ำมันยังเซถลาลงมาอย่างช้าๆ พอถึงวันประชุมแล้วได้ข้อสรุปร่วมกันว่า ทุกฝ่ายพร้อมใจลดกำลังการผลิตเท่านั้นแหละ ราคาน้ำมันพุ่งพรวดพราดอย่างรวดเร็ว พร้อมกับทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกทะยานขึ้นแรงกันอย่างถ้วนหน้า “โมนิก้า” มองเป็นปัจจัยบวกระยะสั้นๆ ที่ทำให้ผู้เล่นเกิดความฮึกเฮิมแค่ชั่วครู่ ต่อจากนั้นถึงจะรู้ว่า โลกของการลงทุนจริงๆ มันโหดร้ายไม่ใช่เล่นนะคะ

*เหมือนกับการที่ดัชนีเปิดกระโดดไปถึงระดับ 1,523.63 จุด ก่อนจะอ่อนตัวลงมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,512.38 จุด บวกไป 2.14 จุด ด้วยมูลค่า 6.22 หมื่นล้านบาท มันเหมือนเป็นการลากไปออกของราคาสูง ซึ่งเป็นลูกเล่นที่ถนัดของพวกนักลงทุนสถาบันนั้น…เอาเข้าจริงกลับกลายเป็นแมงเม่าขายหุ้นทำกำไรอย่างอย่างเพลิดเพลินเจริญใจ น้องโมถือเป็นเรื่องที่ทำถูกแล้วพะยะค่ะ

*ก่อนจะหันไปมองหุ้นทางเลือกตัวเล็กๆ “โมนิก้า” ขอย้อนกลับมาดูสองแม่ลูกอย่าง PTT กับ PTTEP สักหน่อยดีกว่า เพราะการขึ้นเที่ยวนี้มาจากดีมานด์ที่มีเข้ามาเป็นจำนวนมากล้วนๆ ประกอบกับเชื่อกันว่า ได้รับผลดีจากกลุ่มโอเปกลดกำลังการผลิต วานนี้ถึงเห็นหุ้นแม่ขึ้นมายืนอยู่ที่ 364 บาท บวกไป 15 บาท หรือขึ้นไป 4.30% ด้วยมูลค่า 5.67 พันล้านบาท ส่วนตัวลูกวิ่งขึ้นมาปิดที่ 88.50 บาท บวกไป 6 บาท หรือขึ้นไป 7.30% ด้วยมูลค่า 4.33 พันล้านบาท แถมเป็นการเปิดกระโดดทั้งคู่แบบนี้…หากไปต่อไม่ไหว ต้องถอยออกมาดูเชิงก่อนเจ้าค่ะ

*อีกหนึ่งรายที่มีทิศทางคล้ายกัน “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ PTTGC เป็นตัวถัดมาในทันที หลังหุ้นเปิดกระโดด พร้อมกับทำรูปแบบ Triple Top ที่บริเวณ 65 บาท เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 8 เดือน มันเป็นเรื่องที่ต้องคิดมากพอสมควร เพราะมันตีความได้ว่า หุ้นอาจไปต่อไม่ไหว? ส่งผลให้คนที่เพิ่งเข้าซื้อต้องลุ้นอย่างหนัก เนื่องจากราคาปิดที่ 64.25 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 2.80% ด้วยมูลค่า 1.87 พันล้านบาท เป็นราคายอดดอยนะซี

*ส่วนหุ้นโด่ไม่รู้ล้มอย่าง TNR กระชากขึ้นมาปิดที่ 28 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 6.70% ด้วยมูลค่า 1.14 พันล้านบาท มันเป็นการตอกย้ำว่า ก๊วนกองทุนเป็นผู้เล่นหลักในทัวร์นาเม้นท์นี้ จึงอย่าแปลกใจที่เห็นหุ้นกระชากขึ้นไปเรื่อยๆ ในวันที่กองทุนกว้านซื้อหุ้นหนักๆ เพราะรูปแบบของหุ้นตัวนี้ถูกเซ็ทไว้ให้เป็นแบบนี้ เลยไม่มีอะไรต้องซีเรียสแม้แต่นิดเดียว…ขนาดเงินระดมทุนยังเอาไปใช้หนี้เป็นหลัก ก็ยังไม่มีใครสนใจเลย แล้วจะคิดเยอะไปทำไมค่ะ

*ในเมื่อไม่มีอะไรต้องคิดเยอะ ก็ถึงเวลาหันมามอง PSH กันอีกสักรอบ และเหตุผลของการเม้าท์มอยก็มีแค่เรื่องของใหม่แกะกล่อง ราคาหุ้นถึงพุ่งขึ้นมาปิดที่ 23 บาท บวกไป 7.80 บาท หรือขึ้นไป 51.30% ด้วยมูลค่า 470 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นแค่จังหวะของการเล่นตามกระแส และถ้ามองตามแวลูที่บรรดาเกจิดังสำนักต่างๆ ให้เป้าไว้ก่อนหน้านี้ ยังมีแก๊ปให้เล่นได้อีกนิดหน่อยนะคะ

*เหมือนกับในรายของ IFEC เกิดสงครามห้ำหั่นกันอย่างดุเดือดภายในองค์กร พร้อมกับมีการดึงคนนอกเข้ามาตะลุมบอลด้วย “โมนิก้า” บอกได้ทันทีว่า น่าจะเละกันทุกรายอย่างแน่นอน เพราะจะมีการสาวไส้อย่างเมามัน จนหลงลืมไปว่า ก็พวกอาเฮีย (ออกเสียงยาว) ทั้งหลายแหล่ ล้วนเป็นคนทำเรื่องทั้งหมดไม่ใช่เหรอ และการที่หุ้นขึ้นมาปิด 4.66 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 5.40% ด้วยมูลค่า 670 ล้านบาท จึงเป็นการขึ้นแค่ระยะสั้นๆ นะจะบอกให้

*เม้าท์ถึงเรื่องร้อนๆ ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอหันไปดูหุ้น SPPT ซึ่งพรายกระซิบเม้าท์เป็นเผือกร้อนชิ้นใหม่ที่ต้องตามดูทุกฝีก้าว หลังผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่ทั้ง 2 ราย อย่าง “นายณัฐพงศ์-นางประภา ศีตวรรัตน์” มีประวัติความเป็นมาที่น่าตกตะลึงไม่ใช่น้อย และการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.48 บาท บวกไป 0.42 บาท หรือขึ้นไป 10.35% ด้วยมูลค่า 120 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่ต้องตามไปสืบค้น แล้วจะมาแฉให้ฟังในวันหน้า…อิอิอิ

*แรงดีไม่มีตกต้องยกให้ TLUXE หลังจากทำท่าโชว์ป๋าแบบสุดๆ พร้อมกับวาดฝันโปรเจ็กต์ทำเงินไว้สวยหรู ก็เริ่มมีคนคล้อยตามเป็นจำนวนมาก จนราคาหุ้นไต่ระดับจาก 4.50 บาท ขึ้นมาปิดที่ 8.45 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 13.40% ด้วยมูลค่า 260 ล้านบาท โดยใช้เวลาแค่ 1 เดือนครึ่ง มันเป็นเรื่องของปัจจัยหลายอย่างเอื้อให้สุดๆ หุ้นเลยไต่เพดานขึ้นไปแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยแบบนี้…เน้นเข้าทำสั้นๆ แต่เข้าหลายรอบ ปลอดภัยกว่านะคะ

Back to top button