BRR คาดปี 60 รายได้โต 30% ทุ่ม 1.5 พันลบ.ลงทุนโรงงานแปรรูปน้ำตาล

นายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทน้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปี 60 จะเติบโตราว 20-30% จากปีนี้ เป็นไปตามปริมาณอ้อยเข้าหีบฤดูกาลปี 60/61 น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านตัน หรือคิดเป็นผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อยเฉลี่ย (yield) อยู่ที่ 117 กิโลกรัมต่อตันอ้อย จากปีนี้ปริมาณอ้อยเข้าหีบฤดูกาลปี 59/60 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 2.3-2.4 ล้านตัน

ทั้งนี้ มองราคาน้ำตาลโลกน่าจะอยู่ในทิศทางขาขึ้น เนื่องจากปริมาณน้ำตาลทั่วโลกจะเกิดภาวะขาดดุล เพราะผลผลิตยังน้อยกว่าความต้องการบริโภคน้ำตาล โดยประเมินภาวะขาดดุลน้ำตาลในปี 59 จะอยู่ที่ราว 6 ล้านตัน และปี 60 ยังคงจะขาดดุลต่อเนื่องอีก 5 ล้านตัน สืบเนื่องมาจากปัญหาสภาพภูมิอากาศในประเทศผู้ผลิตน้ำตาลที่สำคัญในโลก เช่น ไทย อินเดีย และ จีน ขณะที่ความต้องการบริโภคน้ำตาลทรายของโลกยังเติบโตปีละ 1.8-2% ตามการบริโภคที่สูงขึ้น

รวมทั้ง เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำตาลทรายในช่วง 2 ปีนี้ยังอยู่ในระดับที่ดีอย่างต่อเนื่อง และน่าจะส่งผลดีต่ออัตรากำไรสุทธิของบริษัทมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสองหลักได้ตามทิศทางราคาน้ำตาลที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม BRR มีสัดส่วนการส่งออกน้ำตาลทรายคิดเป็น 75% และจำหน่ายภายในประเทศ 25% และมีการป้องกันความเสี่ยงจากราคาน้ำตาลผันผวนไว้แล้วที่ 23 เซนต์/ปอนด์ หรือ 60% ของปริมาณการขายน้ำตาลทั้งหมด

“เราคาดปริมาณอ้อยเข้าหีบฤดูกาลปี 60/61 น่าจะเพิ่มเป็น 3 ล้านตัน ซึ่งปัจจุบันเรามีกำลังการผลิตที่สามารถรองรับได้อยู่ที่ 24,000 ตันต่อวัน ขณะที่ราคาน้ำตาลน่าจะเพิ่มสูงขึ้น จากซัพพลายจะน้อยกว่าดีมานต์ อีกทั้งสัดส่วนรายได้ของเรายังคงมาจากน้ำตาลเป็นหลักที่ 90% และรายได้จากการขายไฟฟ้าและอื่น ๆ อีก 10%”นายอนันต์ กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมทุ่มงบลงทุนราว 1,500 ล้านบาท เพื่อดำเนินการก่อสร้างโรงงานแปรรูปน้ำตาลทราย (Refinery) เพื่อผลิตน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์เกรดสูง ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายต่อหน่วยได้สูงกว่าน้ำตาลทรายดิบ  โดยมีกำลังการผลิต 1,000 ตัน/วัน  คาดจะดำเนินการแล้วเสร็จได้เดือนธ.ค.60

ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาทำโรงงานเอทานอล กำลังการผลิต 1.2 แสนลิตร/วัน คาดน่าจะใช้เงินลงทุนราว 1,000 ล้านบาท คาดน่าจะสรุปความชัดเจนได้ในปี 60

สำหรับการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าของบริษัทในเครือ 2 แห่ง คือ บริษัท บุรีรัมย์พลังงาน จำกัด (BEC) และ บริษัท บุรีรัมย์เพาเวอร์ จำกัด (BPC) ขนาดกองทุนราว 3.6 พันล้านบาท คาดว่าจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ภายในเดือน ม.ค.60 ซึ่งอายุกองทุนจะเท่ากับอายุของโรงไฟฟ้า 18 ปีและ 12 ปี ตามลำดับ