ไม่กลัวโมนิก้าและทีมงาน

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นในวันนี้ไม่ค่อยมีอะไรต้องพูดมากอีกต่อไป เพราะนักเล่นแบ่งแยกหุ้นแต่ละกลุ่มเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนจีน ส่งผลให้การเทขายของกองทุนตัวแสบ กับฝรั่งตาน้ำข้าว ไม่มีผลกับพอร์ตของนักลงทุนรายย่อย “โมนิก้า” ถึงไม่รู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนเหมือนเช่นที่ผ่านมา เพราะนักลงทุนรายย่อยไม่ได้เล่นหุ้นที่นักลงทุนสถาบัน “ชอบดัน ชอบทุบ” นะซี


*สถานการณ์ของตลาดหุ้นในวันนี้ไม่ค่อยมีอะไรต้องพูดมากอีกต่อไป เพราะนักเล่นแบ่งแยกหุ้นแต่ละกลุ่มเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนจีน ส่งผลให้การเทขายของกองทุนตัวแสบ กับฝรั่งตาน้ำข้าว ไม่มีผลกับพอร์ตของนักลงทุนรายย่อย “โมนิก้า” ถึงไม่รู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนเหมือนเช่นที่ผ่านมา เพราะนักลงทุนรายย่อยไม่ได้เล่นหุ้นที่นักลงทุนสถาบัน “ชอบดัน ชอบทุบ” นะซี

*ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้การอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,521.25 จุด ลบไป 8.96 จุด ด้วยมูลค่า 4.92 หมื่นล้านบาท ไม่มีแมงเม่าออกมาร้องโวยวายสักแอะ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆ และขอปรบมือดังๆ ให้กับความยอดเยี่ยมกระเทียมดองในการปรับตัวให้กับภาวะการลงทุนในช่วงนั้นๆ บวกกับหุ้นที่บรรดาแฟนคลับกระโจนเข้าใส่ในเที่ยวนี้มีประเด็น growthเป็นตัวเดินเกมสำคัญ…วันนี้ถึงมีแต่คำว่า แฮปปี้…แฮปปี้ และก็…แฮปปี้

*ดาวเด่นที่ยังเรียกเสียงฮือฮาได้เป็นประจำในยามนี้ “โมนิก้า” ขอยกตำแหน่งดังกล่าวให้กับ ALTหลังราคาหุ้นเทคตัวจากเส้นแนวรับ 10 วันที่บริเวณฐาน 8.30 บาท ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 9.25 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 8.80%  ด้วยมูลค่า 580 ล้านบาท  ล้วนมาจากข่าวดีพรั่งพรูเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทุกคนเลยมองแวลูขั้นต่ำของหุ้นน่าจะอยู่ที่ 10 บาทเป็นราคายืนพื้น และอาจมีปรับราคาเป้าหมายขึ้นไปอีก หากสามารถคว้าโปรเจ็กต์ใหม่เข้ามาเพิ่มเติมนะคะ

*เม้าท์ถึงตรงนี้ก็พาลนึกถึง ITELของผู้บริหารหนุ่มใหม่ไฟแรงอย่าง “เสี่ยเก็ต” ขึ้นมาในทันที เพราะเป็นอีกหนึ่งทีเด็ดของการลงทุนในเที่ยวนี้ และเหตุผลของการเม้าท์ถึงเป็นประจำในช่วงหลังๆ ก็มาจากพ่อหนุ่มคนนี้ไปคว้างานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง บวกกับโครงการของภาครัฐ และภาคเอกชนประกาศออกมาแต่ละไตรมาสอยู่ในระดับพันล้านบาท “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นลองไปคิดดูว่า หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 11.10 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 2.80% มันน้อยเกินไปจริงไหม? และยอดเก่าแถว 12 บาทอยู่แค่เอื้อมจริงไหม?

*เช่นเดียวกับในรายของ BEAUTYกระชากขึ้นมาปิดที่ 11.60 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 6.40%  ด้วยมูลค่า 1.20 พันล้านบาท มันเป็นผลมาจากผู้หญิงอย่าง “โมนิก้า” ไม่ยอมหยุดสวย ยอดขายของธุรกิจเครื่องสำอางถึงโตวันโตคืน  และเมื่อดูจากผลประกอบการที่ยังอยู่ในทิศทางบวก เดี๊ยนถึงเชื่อว่า หุ้นจะขึ้นไปสร้างฐานบนแนวต้าน 12 บาทอย่างไม่ยากเย็น และมีโอกาสจะขึ้นไปทดสอบ 13 บาทอีกด้วยนะจ๊ะ

*เหมือนกับในรายของ STPIไต่ระดับขึ้นมายืนอยู่ที่ 11.40 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 6.50%  ด้วยมูลค่า 820 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่เวียนกลับมาเล่นกันอีกรอบ จึงเป็นจังหวะของการตามน้ำแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะเมื่อดูจากการเทรดบน P/E 8 เท่า หุ้นน่าจะไปได้อีกเยอะพอสมควรเลยทีเดียว ถึงกระนั้นต้องเผื่อใจด้วยว่า รอบก่อนหุ้นวิ่งขึ้นมาถึง 11.60 บาท ต่อจากนั้นทิ้งดิ่งลงในทันทีนะคะ

*ส่วนในรายของคู่หูดูโออย่าง STA TRUBBกลับมาเฉิดฉายบนกระดานหุ้นอย่างร้อนแรง มันเกิดจากตัวเลขกำไรมาตามนัด หุ้นเลยวิ่งกลับเข้าสู่จุดสมดุลอย่างรวดเร็ว “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นลองพิจารณาราคาหุ้นที่ระดับ 22.10 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 12.80%  ด้วยมูลค่า 1.13 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการเทรดบนค่า P/E 50 เท่าและอีกตัวขึ้นมาปิดที่ 2.18 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 22.50%  ด้วยมูลค่า 495 ล้านบาท ไม่มีค่า P/E ยังเป็นจุดที่ควรเล่นต่อจริงเหรอ?

*หุ้นอีกหนึ่งตัวที่มาในลักษณะเกมหุ้นขนานแท้ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่TLUXEซึ่งถูกปูเรื่องมาด้วยเทิร์นอะราวด์มาพักใหญ่ๆ ล่าสุดทุ่มเงินมูลค่ากว่า 17.45 ล้านบาทไปแปลงวอร์แรนต์ของหุ้น ACAP-W1เป็นหุ้นสามัญ ในราคาหุ้นละ 2 บาท  จำนวน 8.72 ล้านหน่วย มันเป็นเกมที่ทำให้บริษัทกำไรหลายเด้ง! โดยเด้งแรกเป็นการเข้ามาถือหุ้น ACAPเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และเด้งสองมีกำไรจากการแปลงหุ้นไม่ต่ำกว่า 160 ล้านบาท และยังมีอีกหลายเด้งที่เดี๊ยนไม่มีเวลาเม้าท์ถึง จึงไม่ต้องแปลกใจที่เห็นหุ้นขึ้นมาปิด 9.20 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 5.75%  ขณะที่ตัวหลังก็วิ่งขึ้นมายืน 23.10 บาท บวกไป 1.80 บาท หรือขึ้นไป 8.45% อย่างง่ายดาย…อิอิอิ

*เม้าท์ถึงหุ้นร้อนทั้งที “โมนิก้า” ขอมาต่ออีกช็อตกันที่ 2Sหลังเห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมายืนอยู่ที่ 7.70 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 24%  ด้วยมูลค่า 556 ล้านบาท  มันเป็นผลมาจากเจ้ามือเริ่มแสดงกำลังภายใน หลังจากปล่อยให้ราคาหุ้นหยุดนิ่งมาเป็นเวลานาน บวกกับสตอรี่ของหุ้นเอื้อต่อการ “ร่วมด้วยช่วยดัน” ทุกอย่างเลยระเบิดเถิดเทิงอย่างที่เห็นนี่แหละ…งานนี้ต้อง “เข้าเร็ว ออกเร็ว” อีกแล้วเจ้าค่ะ

*ส่วนในรายของหุ้นพื้นฐานแน่นเปรี๊ยะอย่าง ARROWยังเป็นทีเด็ดที่น่าติดตามอยู่เสมอ และเหตุผลง่ายๆ ที่ทำให้ “โมนิก้า” ชอบหุ้นตัวนี้ก็มาจากตัวเลขกำไรค่อนข้างมีเสถียรภาพ หุ้นถึงพยายามไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ล่าสุดก็วิ่งขึ้นมาปิดที่ 16.50 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 7%  ด้วยมูลค่า 200 ล้านบาท มันเป็นจังหวะของการตามน้ำ เพราะเมื่อคิดจากกำไรต่อหุ้นปี 59 น่าจะตกอยู่ใกล้ๆ 1 บาท และเทรดบนค่า P/E  20 เท่า หุ้นน่าจะไปถึง 20 บาทนะจ๊ะ

Back to top button