ดอลล์ฟื้นเทียบยูโร หลังข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐแข็งแกร่ง

ดอลล์ฟื้นเทียบยูโร หลังข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐแข็งแกร่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรเมื่อคืนนี้ (24 มี.ค.) หลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ต่างออกมาในเชิงบวก โดยข้อมูลเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นได้ช่วยหนุนความหวังเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

โดยค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0925 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0944 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.4846 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4944 ดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.66 เยน เทียบกับระดับ 119.81 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9576 ฟรังก์ จาก 0.9667 ฟรังก์

ด้านค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7870 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7881 ดอลลาร์

โดยดอลลาร์สหรัฐได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ. หลังจากร่วงลง 0.7% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว และเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.

ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ในเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 7.8% สู่ระดับ 539,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2551 จากระดับ 500,000 ยูนิตในเดือนม.ค. โดยก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดขายบ้านใหม่จะลดลงสู่ระดับ 460,000 ยูนิตในเดือนที่แล้ว

ทั้งนี้ ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีในเดือนก.พ. ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐ หลังจากประสบภาวะซบเซาในปีที่แล้ว

ส่วนผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐในเดือนมี.ค.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งขณะนั้นอยู่ที่ 55.9 โดยตัวเลขที่อยู่สูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัว ขณะที่ตัวเลขต่ำกว่า 50 บ่งชี้ภาวะหดตัว ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PMI อยู่ที่ 54.7 ในเดือนมี.ค. หลังจากแตะระดับ 55.1 ในเดือนก.พ.

Back to top button