ยังไม่เบื่อ! ศาลปกครองนัดไต่สวนคดี “มูลนิธิผู้บริโภค” ฟ้องครม.เหตุแปรรูป PTT

ยังไม่เบื่อ! ศาลปกครองนัดไต่สวนคดี "มูลนิธิผู้บริโภค" ฟ้องครม.เหตุแปรรูป PTT


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลปกครองสูงสุดนัดไต่สวน คดีหมายเลขดำที่ ฟ.472549 คดีหมายเลขแดงที่ ฟ.35/2550 ระหว่าง มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กับพวกรวม 5 คน (ผู้ฟ้องคดี) กับ คณะรัฐมนตรี กับพวกรวม 3 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายแปรรูป บมจ. ปตท. (PTT) และ พ.ร.ฎ. กำหนดเงื่อนเวลายกเลิกกฎหมายว่าด้วยการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย พ.ศ.2544 คดีที่มีคำขอให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาคดีหรือมีคำสั่งชี้ขาดคดีใหม่

ทั้งนี้ ในสำนวนคดีเดิม ผู้ฟ้องคดีระบุว่า เป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายจากการที่คณะรัฐมนตรี กับพวกรวม 3 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) ดำเนินการยกเลิกและแปรสภาพการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจให้ไปเป็น บมจ. ปตท. (PTT) โดยใช้อำนาจในการตราพระราชกฤษฎีกา 2 ฉบับ คือ พ.ร.ฎ.กำหนดอำนาจ สิทธิ และประโยชน์ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พ.ศ. 2544 และ พ.ร.ฎ. กำหนดเงื่อนเวลายกเลิกกฎหมายว่าด้วยการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2544

ผู้ฟ้องคดีเห็นว่าการตราพระราชกฤษฎีกาทั้ง 2 ฉบับ ขัดกับบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 และพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2542 โดยเป็นการตรากฎหมายที่ไม่ถูกต้องตามขั้นตอน และเนื้อหาอันเป็นสาระสำคัญตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งยังเป็นการใช้ดุลพินิจไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งการเลือกรัฐวิสาหกิจดังกล่าวมาแปรรูปก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ฟ้องคดี และประเทศชาติในฐานะผู้บริโภค

ด้วยเหตุผลตามฟ้องผู้ฟ้องคดีจึงเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการตราพระราชกฤษฎีกาทั้งสองฉบับที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 3 ประกอบกับการฟ้องนี้เป็นไปเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะที่มีผลกระทบต่อประชาชนและประเทศชาติ)

อนึ่ง ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.50 ให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 4 (จำนวนผู้ถูกฟ้องคดีตามสำนวนคดีเดิม) ร่วมกันกระทำการแบ่งแยกทรัพย์สินในส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน สิทธิการใช้ที่ดินเพื่อวางระบบการขนส่งปิโตรเลียมทางท่อ รวมทั้งแยกอำนาจและสิทธิในส่วนที่เป็นอำนาจมหาชนของรัฐออกจากอำนาจและสิทธิของ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ทั้งนี้ ให้เสร็จสิ้นก่อนการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ตาม พ.ร.บ. การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550

ส่วนคำขอของผู้ฟ้องคดีให้เพิกถอน พ.ร.ฎ. กำหนดอำนาจ สิทธิ และประโยชน์ของบมจ. ปตท. พ.ศ.2544 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.ฎ. กำหนดอำนาจ สิทธิ และประโยชน์ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2550 และ พ.ร.ฎ. กำหนดเงื่อนเวลายกเลิกกฎหมายว่าด้วยการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2544 นั้น ให้ยก เนื่องจากเมื่อพิเคราะห์ถึงเหตุแห่งการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการเพิกถอนพระราชกฤษฎีกา และบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ. การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 รวมทั้งวิธีการแก้ไขความไม่ชอบด้วยกฎหมาย เห็นว่าไม่จำต้องเพิกถอนบทบัญญัติในมาตรา 4 วรรคสอง แห่ง พ.ร.ฎ. กำหนดอำนาจ สิทธิ และประโยชน์ของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พ.ศ.2544 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดย พ.ร.ฎ. กำหนดอำนาจ สิทธิ และประโยชน์ของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2550

อีกทั้งเหตุแห่งความไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นว่านั้น ก็มิได้ร้ายแรงถึงขนาดที่จะเพิกถอน พ.ร.ฎ. กำหนดเงื่อนเวลายกเลิกกฎหมายว่าด้วยการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย พ.ศ.2544 ตามคำฟ้องขอผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 จึงให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 4 ร่วมกันกระทำการแบ่งแยกทรัพย์สินในส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภททรัพย์สินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะสิทธิการใช้ที่ดินเพื่อวางระบบการขนส่งปิโตรเลียมทางท่อ รวมทั้งแยกอำนาจและสิทธิในส่วนที่เป็นอำนาจมหาชนของรัฐออกจากอำนาจและสิทธิของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ตามคำวินิจฉัยไว้ เพื่อให้เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย และตามคำพิพากษาต่อไป 

Back to top button