SVI เตรียมพลิกกลับเป็นกำไรในปีนี้เงินสดล้นมือ รองรับแผนขยายธุรกิจ
บล.เคเคเทรด คาด SVI พลิกกลับเป็นกำไรในปีนี้ เงินสดล้นมือรองรับแผนการขยายธุรกิจต่อเนื่อง ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ”
บล.เคเคเทรด ระบุในบทวิเคราะห์ (25 มี.ค.) ว่า ฝ่ายวิจัยมีความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของบริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVI มากขึ้นหลังการเยี่ยมชมโรงงาน พบว่าบริษัทสามารถฟื้นฟูโรงงานได้รวดเร็วมาก โดยในไตรมาส 1/58 สามารถติดตั้งเครื่องจักรในโรงงานใหม่ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยที่หนาแน่นมาก ทำให้มีกำลังผลิตใหม่ทดแทนส่วนที่ถูกเพลิงไหม้ได้ราวครึ่งหนึ่ง และจะกลับมามีกำลังผลิตเท่ากับก่อนเกิดเพลิงไหม้ได้ภายในไตรมาส 2/58 นี้ ขณะเดียวกันผู้บริหารก็ได้เร่งเจรจาเรียกความเชื่อมั่นลูกค้าและให้ความมั่นใจว่าลูกค้าเก่าส่วนใหญ่พร้อมจะกลับมาสั่งซื้อทันทีที่กำลังการผลิตกลับมาพร้อมในไตรมาส 2/58
ทั้งนี้ คาดว่า SVI จะสามารถพลิกเป็นกำไรตั้งแต่ไตรมาส 1/58 (เพราะไม่ต้องบันทึกความเสียหายจากไฟไหม้อีก หลังบันทึกไปแล้วราว 2 พันล้านบาทในปี 57) แม้ความไม่ประหยัดต่อขนาดจากกำลังผลิตที่ยังไม่เต็มที่ จะส่งผลทำให้กำไรยังไม่มีนัยฯ แต่เชื่อว่าคำสั่งซื้อจากลูกค้าเก่าจะทยอยกลับมาอย่างช้าๆ หนุน Utilization rate ได้ราว 70% ของกำลังการผลิต ตั้งแต่ไตรมาส 2/58 และเพิ่มขึ้นเป็น 90% ในไตรมาส 3/58 (ช่วง High season) จึงประเมินรายได้และกำไรจากการดำเนินงานทั้งปี 58 ของ SVI ที่ 8.7 พันล้านและ 782 ล้านบาท ตามลำดับ (ฟื้นตัวกลับมาใกล้เคียงกับปีก่อน) หากรวมการรับรู้เงินประกันภัยส่วนที่เหลือราว 1 พันล้านบาทในปีนี้ คาดกำไรสุทธิปี 58 ของ SVI จะสูงเป็นพิเศษถึง 1.8 พันล้านบาท พลิกจากขาดทุน 201 ล้านบาทในปี 57 โดยปี 59 คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติจะเติบโตโดดเด่นถึง 29% จากปีก่อน หลังกลับมาเดินเครื่องผลิตได้เต็มปี
ปัจจุบัน SVI มีเงินสดถึง 3.9 พันล้านบาท คิดเป็นครึ่งหนึ่งของสินทรัพย์รวม โดยไม่มีหนี้สิน จึงประเมินว่าหลังทุ่มทุนฟื้นฟูธุรกิจในปีนี้แล้ว บริษัทยังมีเงินสดอีกมากรองรับการขยายธุรกิจต่อ ซึ่งปัจจุบันมีแผนจะกลับมารุกธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ตามที่เคยตั้งเป้าไว้ก่อนเกิดเพลิงไหม้ โดยจะขยายอีกโรงงาน (SVI-5) ในช่วงปลายปี 58 แม้รูปแบบการขยายยังไม่ชัดเจน แต่ประเมินว่าขนาดโรงงานใหม่จะสามารถรองรับกำลังการผลิตได้ใกล้เคียงโรงงานปัจจุบัน (SVI-2) ซึ่งจะรองรับการเติบโตได้ไปอีก 1-2 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดโรงงานใหม่อีกแห่งในต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยงอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดยังไม่ได้รวมในประมาณการ
ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 58 ของ SVI ที่ 5.70 บาท โดยวิธี PE Multiple ที่ 15.3 (+0.25 SD) เท่า กลับมาให้คำแนะนำ “ซื้อ” เนื่องจาก 1) ธุรกิจมีทิศทางฟื้นตัวในปีนี้และมีแนวโน้มการเติบโตได้ต่อเนื่องในอนาคต โดยคาดกำไรจากการดำเนินงานในปี 58-59 จะเติบโตเฉลี่ย 19% ต่อปี 2) ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PE ปี 8 ราว 12 และค่า PEG ที่ 0.65 เท่านับว่าถูกเมื่อเทียบกับ KCE และ HANA 3) ยังมี Upside จากแผนขยายโรงงานใหม่อีกสองแห่งทั้งในและต่างประเทศแล้วยังมีแนวโน้มจะพิจารณาซื้อธุรกิจอื่นอีกครั้งในปี 59 และ 4) มีโครงการซื้อหุ้นคืนจำนวนวงเงิน 1 พันล้านบาท จำนวนไม่เกิน 200 ล้านหุ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ EPS สูงขึ้นแล้ว จะเป็นปัจจัยพยุงราคาหุ้นในปีนี้อีกด้วย