ขายเพื่อไปเที่ยว?โมนิก้าและทีมงาน

*หลังจากดัชนีถูลู่ถูกังกันมาพักใหญ่ๆ พร้อมกับแสดงอาการจะไปต่อ พอเอาเข้าจริงก็เกิดอาการฝ่อขึ้นมาให้เห็น ก่อนจะลงเอยด้วยการโดนถล่มเทขายอย่างหนักหน่วง จนดัชนีลงมายืนอยู่ที่ 1,511.65 จุด ลบไป 10.75 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.12 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นการปิดฉากประเด็นต่างๆ ที่เคยเม้าท์ให้ฟังก่อนหน้านี้อย่างสมบูรณ์แบบ จึงไม่ต้องวิเคราะห์อะไรมากมายอีกแล้วเจ้าค่ะ


*หลังจากดัชนีถูลู่ถูกังกันมาพักใหญ่ๆ พร้อมกับแสดงอาการจะไปต่อ พอเอาเข้าจริงก็เกิดอาการฝ่อขึ้นมาให้เห็น ก่อนจะลงเอยด้วยการโดนถล่มเทขายอย่างหนักหน่วง จนดัชนีลงมายืนอยู่ที่ 1,511.65 จุด ลบไป 10.75 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.12 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นการปิดฉากประเด็นต่างๆ ที่เคยเม้าท์ให้ฟังก่อนหน้านี้อย่างสมบูรณ์แบบ จึงไม่ต้องวิเคราะห์อะไรมากมายอีกแล้วเจ้าค่ะ

*เนื่องจากประเด็นที่จะบิวอารมณ์ให้นักเล่นเข้าซื้อหุ้นอย่างดุดันในช่วงส่งท้ายปีลิง (ปีแห่งความวุ่นวาย) ไม่มีเรื่องใหม่ๆ พอจะจุดกระแสให้ติด ขณะเดียวกันยังรู้สึกอึดอัดใจกับท่าทีของนักลงทุนสถาบันที่ซื้อๆ ขายๆ แต่ในช่วงหลังขายค่อนข้างหนักหลายวัน จึงหวนกลับมาซื้อแบบนิดๆ หน่อยๆ “โมนิก้า” ถือเป็นโมเมนตัมที่ส่งสัญญาณให้แฟนคลับเข้าใจตรงกันว่า ขายหุ้นเพื่อจะไปเที่ยวกันหมดแล้วนะคะ

*วันนี้ถึงต้องถามใจเหล่าผู้เล่นทั่วสารทิศว่า “ลุยต่อ” หรือ “ตั้งหลัก” เพราะมูฟเม้นท์ที่เห็นในเที่ยวนี้ ดันมีข่าวเกี่ยวกับก่อการร้ายเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็เลยทำให้บรรยากาศที่ทรงตัวอยู่แล้วเป็นทุนเดิม กลายเป็นบรรยากาศที่สับสนอลม่านในทันที บวกกับดัชนีรูดทะลุแนวรับสำคัญบริเวณ 1,520 จุดลงมาอย่างง่ายดาย ยิ่งกระตุ้นให้ผู้เล่นเร่งระบายหุ้นในพอร์ตออกมาเพิ่มไงล่ะค่ะ

*เหมือนกับในรายของ GL อุตส่าห์โหมโรงกันอย่างเมามัน พอถึงบทเลิกเล่นชั่วคราว ก็พากันเทขายหุ้นทิ้งอย่างไม่ลืมหูลืมตา ราคาหุ้นถึงดิ่งลงมาปิดที่ 59.50 บาท ลบไป 7 บาท หรือลงไป 10.50% ด้วยมูลค่า 2.28 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมโหดที่หลายคนคงได้รับบทเรียนอย่างแสบสัน แต่เชื่อขนมกินได้เลยว่า พอมีคนเข้ามาจุดกระแสใหม่อีกรอบ ก็มีคนตามเข้าไปสมทบอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของหุ้นจับเสือใส่ถัง ESSO ยังคงเป็นประเด็นที่คาใจนักเล่นทั่วสารทิศ เพราะของมันก็เห็นกันอยู่แล้วว่า ปั๊มน้ำมันก็ทยอยปิดกิจการไปเรื่อยๆ ขณะที่โรงกลั่นก็ยังมีการเร่ขายกันอยู่เลย หุ้นถึงขึ้นๆ ลงๆ ตามกระแสข่าวที่บิวด์ในแต่ละวัน ล่าสุดเห็นหุ้นทรุดตัวลงมายืนอยู่ที่ 12.90 บาท ลบไป 0.80 บาท หรือลงไป 5.80% ด้วยมูลค่า 1.53 พันล้านบาท น้องโมพูดได้ทันทีว่า ลากๆ ทุบๆ กันอีกนานนะคะ

*ส่วนหุ้นยางยอดนิยมอย่าง STA ก็ไม่รอดสันดอนเหมือนกับหุ้นพิมพ์นิยมตัวอื่น และเหตุผลที่สนับสนุนให้ขาประจำทิ้งหุ้นไม่ยั้ง ก็มาจากประเด็นหลัก 2 เรื่องคือ 1.ราคายางในตลาดล่วงหน้าทรุดลง 5% 2.ราคาหุ้นขึ้นมากเกินไปในระยะเวลาสั้นๆ วานนี้ถึงเห็นหุ้นลงมานอนอยู่ที่ 20.10 บาท ลบไป 1.90 บาท หรือลงไป 8.60% ด้วยมูลค่า 1.36 พันล้านบาท พร้อมกับทำให้หุ้น TRUBB ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่นิยมสักเท่าไหร่ รูดลงมาปิดที่ 1.89 บาท ลบไป 0.15 บาท หรือลงไป 7.35% ด้วยมูลค่า 27 ล้านบาท เรียกได้ว่า หมดสภาพไปทั้งคู่นะจะบอกให้

*สำหรับหุ้นหน้าแปลกๆ ที่ขึ้นมาติดในกระดาน most active อย่างปั๊มก๊าซเอ็นจีวี SCN ก็เปิดการ์ดวลีสุดฮิต เมื่อขายหุ้นให้กับกองทุนในราคา 7.90 บาท ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าในกระดานว่า ต้องการเพิ่มสภาพคล่องในตลาดหุ้น แต่เงินเข้ากระเป๋าคนที่ชื่อ “ธัญชาติ กิจพิพิธ” เป็นจำนวนกว่า1 พันล้านบาท จนแมงลือแอบเม้าท์คนที่อยู่เบื้องหลังให้ฟังสนุกปากแบบนี้ การอ่อนตัวลงมาปิดที่ 8.15 บาท ลบไป 0.35 บาท หรือลงไป 4.10% ด้วยมูลค่า 525 ล้านบาท ถือว่าลงน้อยเกินไป เพราะสตอเบอรี่มากๆ นะจะบอกให้

*ส่วนที่เว่อร์วังแบบไม่เกรงใจชาวหุ้น เพียงเพราะมีกลุ่มทุนการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องอย่าง SPPT “โมนิก้า” ถือเป็นสถานการณ์ที่ต้องยับยั้งชั่งใจมากเป็นพิเศษ เพราะการสวนกระแสขึ้นมาปิดที่ 5.05 บาท บวกไป 0.65 บาท หรือขึ้นไป 14.80% ด้วยมูลค่า 450 ล้านบาท เพียงแค่เชื่อว่า ขาดทุนลดลง! มันใช่ตัวแปรที่ทำให้หุ้นตัวนี้น่าสนใจขึ้นมาในทันทีจริงเหรอ?…งานนี้ไม่ต้องการให้เชื่อ แค่อยากให้ไปลองคิดกันดูนะคะ

*เหมือนกับในรายของ JAS หากดูตามท้องเรื่องจะเห็นว่า นี่คือเกมหุ้นที่เห็นกันมาเป็นปี การขึ้นลงของหุ้นอยู่ที่จังหวะของนักลงทุนรายใหญ่พร้อมใจกันลุยขนาดไหน? บวกกับการอ่อนตัวของราคาหุ้นเป็นเพียงวงรอบแบบ w-shape “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉยๆ ที่เห็นราคาหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 7.75 บาท ลบไป 0.55 บาท หรือลงไป 6.60%  ด้วยมูลค่า 660 ล้านบาท เพราะกรอบด้านบนอยู่ที่ 9 บาท กรอบด้านล่างอยู่ที่ 7.50 บาทนะซี

*สำหรับในรายของหุ้นทีเด็ด ALT หลังจากไม่สามารถพลิกแนวต้าน 10 บาทให้กลายเป็นแนวรับ ก็โดนถล่มเทขายอย่างหนักอีกครั้งนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่น่าสนใจสำหรับคนที่ชอบเล่นรอบเช่นกัน เพราะโครงสร้างของหุ้นก่อนหน้านี้เคลื่อนตัวเป็นลักษณะ W-Shape แต่ตอนนี้กำลังปรับรูปแบบเป็นลักษณะ M-Shape บวกกับหุ้นลงมาปิด 8.80 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 5.40%  ด้วยมูลค่า 250 ล้านบาท ซึ่งเป็นจุดเด้งกลับแบบพอดิบพอดี…ต้องตามไปดูจ๊ะ

*ไหนๆ เม้าท์ถึงของน่ารักน่าลุ้นขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอหันไปดูเหล็กฮอตฮิตอย่าง 2S เพื่อเปิดช่องให้กับพวกขาปั่นน่องเหล็ก ราคาวานนี้ปิดที่ 7.45 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือขึ้นไป 8% ด้วยมูลค่า 165 ล้านบาท เดี๊ยนมองเป็นจังหวะของคนที่ชอบตามน้ำ ซึ่งก่อนหน้านี้ 2 ครั้งติดตรงกรอบ 8 บาท ส่วนครั้งนี้ก็มีลุ้นฝ่าขึ้นไปได้อย่างสวยงาม งานนี้บอกได้ทันทีว่า ได้หมด…ถ้าสดชื่น อิอิอิ

Back to top button