เขาเล่าว่า…โมนิก้าและทีมงาน

*วันนี้ “โมนิก้า” ขอเริ่มต้นบทสนทนาด้วยเรื่องซุบซิบนินทาชาวหุ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นอารมณ์ของนักเล่นก่อนจะเข้าสู่เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หลังผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นป้องปากเล่าให้ฟังว่า โลกของการลงทุนช่างสับสนอลม่านดีเหลือเกิน จนนักเล่นเกิดอาการสติแตกกันไปหลายรายนั้น มันมาจากปัจจัยที่เข้ามากระทบมีหลากหลายเรื่องราวด้วยกันพะยะค่ะ


*วันนี้ “โมนิก้า” ขอเริ่มต้นบทสนทนาด้วยเรื่องซุบซิบนินทาชาวหุ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นอารมณ์ของนักเล่นก่อนจะเข้าสู่เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หลังผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นป้องปากเล่าให้ฟังว่า โลกของการลงทุนช่างสับสนอลม่านดีเหลือเกิน จนนักเล่นเกิดอาการสติแตกกันไปหลายรายนั้น มันมาจากปัจจัยที่เข้ามากระทบมีหลากหลายเรื่องราวด้วยกันพะยะค่ะ

*โดยหนึ่งในประเด็นที่ผู้หลักผู้ใหญ่ออกมาสำทับกับ “โมนิก้า” ครั้งแล้วครั้งเล่าจนหูแทบดับตลอดทั้งสัปดาห์ ยังคงเป็นเรื่องของ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ฉบับใหม่ที่มีผลอย่างเป็นทางการนั้น ทำให้ผู้คนเกิดอาการเกร็งจนขาแข้งสั่นไปหมด จนบางคนขอหลบลี้หนีหายกันไปเรื่อยๆ มันทำให้บรรยากาศการลงทุนดูไม่ค่อยดีเอาเสียเลย พร้อมกับเป็นตัวเร่งให้เกิดกลุ่มใต้ดินเยอะแยะไปหมดนะจ๊ะ

*ตรงนี้แหละที่ทำให้หลายคนออกมาพูดตรงกันว่า ก.ล.ต. ต้องออกมาเทคแอ็คชั่นอะไรบางอย่างสักหน่อย! เพราะหลักเกณฑ์ที่ใช้ในเที่ยวนี้ไม่เป็นมิตรกับผู้บริหารเอาเสียเลย และดูเหมือนฝั่งของ ตลท. ก็ต้องการความชัดเจนจากปากของคนที่กำกับดูแลเช่นกัน จนมีเรื่องตลกขบขันเม้าท์กันว่า เคยมีคนเดินไปถามผู้ที่รับผิดชอบ 2 ท่านในเวลาที่แตกต่างกัน…คำตอบที่ได้รับ ก็ไม่เหมือนกันนะคะ

*ด้วยเหตุนี้ “โมนิก้า” ถึงกล้าเดินหน้าชนเรื่องที่เป็นอุปสรรคสำหรับแมงเม่าทุกรูปแบบ เพราะเป็นที่รู้กันมาเป็นเวลานานว่า รายย่อยมักเป็นคนสุดท้ายที่ได้รับข่าวสารเป็นประจำ วันนี้ถึงต้องพูดกันตรงๆ แบบไม่เกรงใจคนของ ก.ล.ต. กับคนของ ตลท. ว่า รู้กันหรือไม่ หุ้นหน้าตาแปลกๆ ขึ้นด้วยข่าวอะไร?…หากไม่รู้ กรุณาทำในสิ่งที่รู้ และอธิบายให้ผู้คนในสังคมได้รู้ เพราะทุกคนกลัวเจอกับเหตุการณ์ “เชือดไก่ให้ลิงดู” และกำลังดูกันว่า ไก่ตัวแรกจะไปออกที่ใคร…อิอิอิ

*เม้าท์ถึงเรื่องไก่ทีไร “โมนิก้า” นึกถึงหุ้น TFG ขึ้นมาเป็นประจำทุกที และเหตุผลที่ทำให้นึกถึงก็เป็นผลมาจากพัฒนาการเกี่ยวกับตัวเลขกำไร และราคาหุ้นที่ดีขึ้นต่อเนื่อง จนกลายเป็นหุ้นที่นักวิเคราะห์ปรับราคาเป้าหมายตลอดเวลา ล่าสุดดูเหมือนว่า มีแนวโน้มขึ้นไปเกิน 10 บาทในปี 60 ค่อนข้างชัวร์ไม่มั่วนิ่มแบบนี้ ทำให้ราคาปิดที่ 7.15 บาทเป็นช็อตที่น่าซื้อเหลือเกินเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ FN หากดูตามรูปการที่แสดงออกมา และแรงซื้อที่มีเข้ามาเป็นระลอก มักเห็นหุ้นแอบทะยานขึ้นทำ new high เป็นประจำ แถมยังเป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่มีลุ้นขึ้นไปยืน 2 หลักในไม่ช้าแบบนี้ “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ดูกันยาวๆ เพราะการเดินของหุ้นที่โตด้วยการขยายสาขาจะไปแบบเนิบๆ แต่ทุกครั้งที่เปิดสาขาตัวเลขรายได้และกำไรจะชู๊ตโด่ง จึงไม่ต้องวอรี่เมื่อเห็นหุ้นยืนอยู่ที่ 8.90 บาทนะคะ

*ส่วนในรายของ IRPC กลายเป็นหุ้นเล่นรอบอย่างเต็มตัวไปเสียแล้ว เพราะวงรอบของหุ้นหมุนไปหมุนมาในกรอบ 4.60-5.20 บาทเป็นภาพใหญ่ ส่วนที่เป็นภาพเล็กลงมาหน่อยเป็นการเคลื่อนไหวในกรอบ 4.80-5.00 บาท ถ้าเป็นระดับที่เกินกว่านั้นคือ จุดขาย หรือถ้าต่ำลงมากว่านั้นคือ จุดซื้อ วันนี้ถึงต้องถามใจเหล่าผู้เล่นจากทั่วสารทิศว่า คิดอย่างไรกับราคาปิดที่ 4.78 บาท…อิอิอิ

*ขณะเดียวกับ SYNEX หลังโชว์ผลงานโดดเด่นจนทำให้บรรดาเหล่าเซียนชั้นนำต่างอัพประมาณการกำไรปีนี้กันยกใหญ่จาก 380 ล้านบาท สู่ 400 ล้านบาท ผสมโรงกับมาตรการช้อปช่วยชาติยิ่งดันราคาหุ้นวิ่งทำนิวไฮตั้งแต่เข้าตลาด ล่าสุดทะยานขึ้นมาปิดที่ 7.20 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือเพิ่มขึ้น 6.67% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 145.35 ล้านบาท พอเห็นพัฒนาการแบบนี้แล้วพูดได้คำเดียวเลยว่า “น้ำขึ้นให้รีบตัก” เดี๋ยวจะหาว่าเดี๊ยนไม่ส่งซิกนะคะ…

*เหมือนกับในรายของ TISCO ก็ยังจัดชุดใหญ่ต่อเนื่อง!! มีการไล่ราคากันอย่างเมามัน ล่าสุดราคาหุ้นขึ้นมาทำนิวไฮตั้งแต่เข้าตลาด โดยราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 60.50 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 4.31% ด้วยมูลค่า 867.59 ล้านบาท เหตุมั่นใจว่าผลประกอบการโตสนั่นทุ่งหลังปิดดีลซื้อพอร์ตรายย่อยจากธนาคารสแตนดาร์ดฯ พร้อมมั่นใจสินเชื่อรวมปี 60 โตทะลุเป้า 15% ส่วนฝ่ายโบรกฯ พร้อมใจกันปรับเป้าราคาแบบสูงปรี๊ด!! แล้วอย่างนี้ไม่ให้เดี๊ยนกล้าฟันธงได้อย่างไรว่าราคาจะยังสามารถขึ้นไปทำนิวไฮใหม่ได้อีกนะเจ้าค่ะ…

*แล้วมาเติมความหวานกับ KSL ที่ช่วงนี้ดูเหมือนจะถูกแมงมดแมงเม่ารุมตอมกันยกใหญ่ ก็แหม…ราคาน้ำตาลในตลาดโลกพุ่งทะยาน แถมธุรกิจน้ำตาลปีหน้ามีแววฟื้นตัวแกร่ง เจอข่าวหอมหวานปานน้ำเชื่อมขนาดนี้ใครจะอดใจไหว งานนี้เลยทำให้ราคาหุ้นวิ่งฉิวมาปิดที่ระดับ 5.45 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 6.86% ด้วยมูลค่า 171 ล้านบาท แต่ยังไงก็ตามอย่าหอมหวานจนเพลินลืมตัว เพราะจากที่ผ่านมาราคาหุ้นไม่เคยวิ่งเกิน 6 บาท ซักกะที!

*ปิดท้ายกันที่หุ้นสายการบินตัวแม่อย่าง THAI ที่ดูเหมือนจะเป็นโอกาสให้ทยอยเก็บของรอบใหม่ หลังราคาร่วงได้สักพักใหญ่ ล่าสุดราคาหุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 23 บาท บวกไป 1.20 บาท หรือ 5.50% ด้วยมูลค่า 475.35 ล้านบาท งานนี้ข่าวดีคงหนีไม่พ้นเรื่องงบฯโค้งสุดท้ายของปีจะกลับมาเทิร์นอะราวด์ และอาจทำเซอร์ไพรส์สูงกว่าที่คาดเพราะมีโอกาสบันทึก FX Gain แถมฟากโบรกฯอัพเป้าใหม่ 34 บาท พร้อมเห็นอัพไซด์พุ่งเกือบ 50% ปัจจัยบวกดีต่อใจขนาดนี้ ชาวเม่าว่าไงขอเสียงหน่อย!

Back to top button