หุ้นยุโรปปิดร่วง จากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
หุ้นยุโรปปิดร่วง จากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (25 มี.ค.) เนื่องจากตลาดได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งส่งผลให้ดัชนี Stoxx Europe 600 ทำสถิติดิ่งลงหนักสุดในรอบกว่า 2 เดือน แม้มีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.1% ปิดที่ 397.95 จุดและดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,020.99 จุด ลดลง 67.29 จุด หรือ -1.32% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,865.32 จุด ร่วงลง 140.37 จุด หรือ -1.17% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,990.97 จุด ลดลง 28.71 จุด หรือ -0.41%
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นยุโรปเคลื่อนไหวในแดนบวก หลังจากสถาบัน Ifo เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวขึ้นแตะระดับ 107.9 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 106.8 ในเดือนก.พ. โดยเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2557
อย่างไรก็ตาม ตลาดอ่อนแรงลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นเออาร์เอ็ม โฮลดิงส์ และหุ้นเอเอสเอ็มแอล โฮลดิงส์ ต่างก็ร่วงลงกว่า 5.5%
หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ร่วงลง 2.5% หลังจากนักวิเคราะห์ของอินเวสเทค ได้ปรับลดหน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นบาร์เคลย์ส ส่วนหุ้นมารีน ฮาร์เวสต์ ดิ่งลง 5.6% หลังจากนักวิเคราะห์ได้ปรับลดหน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงเช่นกัน
นักลงทุนยังคงติดตามดูสถานการณ์กรีซอย่างใกล้ชิด ขณะที่ดอยช์แบงก์คาดการณ์ว่า การที่รัฐบาลกรีซขาดสภาพคล่องอาจจะนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้มูลค่า 460 ล้านยูโร (502.5 ล้านดอลลาร์) ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ในวันที่ 9 เม.ย.นี้
ดอยช์แบงก์ระบุว่า จนถึงขณะนี้ รายได้จากการจัดเก็บภาษีของกรีซยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมาย 1 พันล้านดอลลาร์และภาคธนาคารของกรีซกำลังขาดสภาพคล่อง