PTTEP ตั้งงบลงทุน 5 ปี ราว 1.49 หมื่นล้านเหรียญฯ รองรับการลงทุนใน-ตปท.

นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า  บริษัทได้จัดสรรงบประมาณการลงทุนในช่วง 5 ปี (ปี 60-64) ที่ระดับ 14,950 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยแบ่งเป็น รายจ่ายการลงทุน  8,842 ล้านเหรียญสหรัฐ และรายจ่ายดำเนินงาน 6,108 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งในส่วนนี้เป็นงบลงทุนในปีนี้รวม 2,903 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็น รายจ่ายลงทุน 1,643  ล้านเหรียญสหรัฐ และรายจ่ายดำเนินงาน 1,260 ล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ ประมาณ 88% ของรายจ่ายลงทุน ใช้ไปสำหรับรองรับโครงการในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของบริษัท โดยมีรายละเอียดของรายจ่ายลงทุนแบ่งตามภูมิภาค ได้แก่  โครงการในประเทศไทย ได้รับการจัดสรรรายจ่ายลงทุนคิดเป็นสัดส่วน 64% ของรายจ่ายลงทุนทั้งหมด กิจกรรมส่วนใหญ่มุ่งเน้นเพื่อรักษาระดับปริมาณการผลิต มีโครงการหลักที่สำคัญ ได้แก่ โครงการอาทิตย์ โครงการเอส 1 โครงการบงกช โครงการคอนแทร็ค 4 และโครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย

ขณะที่โครงการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อื่น มีประมาณการรายจ่ายลงทุนคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 24 ส่วนใหญ่เป็นรายจ่ายลงทุนเพื่อรักษาระดับการผลิตสำหรับโครงการในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ได้แก่ โครงการซอติก้า และโครงการยาดานา รวมถึงรายจ่ายสำหรับการสำรวจ (Exploration) ในโครงการเมียนมา เอ็มโอจีอี 3 และโครงการเมียนมาร์ เอ็ม 11

ส่วนโครงการในภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งประกอบด้วย ออสเตรเลีย แอฟริกา อเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ มีประโครงการมาณการรายจ่ายลงทุนคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 12 โดยกิจกรรมที่สำคัญส่วนใหญ่เพื่อการดำเนินงานในโครงการพีทีทีอีพี ออสตราเลเชีย รวมถึงรายจ่ายในการพัฒนาโครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (Final Investment Decision)

สำหรับรายจ่ายในการสำรวจ (Exploration) ของปี 60 นั้น  บริษัทได้ประมาณการไว้จำนวนทั้งสิ้น 138 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยส่วนใหญ่เพื่อใช้สำหรับการสำรวจคลื่นไหวสะเทือนทางธรณีวิทยา การศึกษาทางธรณีวิทยาและธรณีฟิสิกส์ รวมถึงรายจ่ายในการขุดเจาะหลุมสำรวจและประเมินผล

ส่วนของแผนการลงทุน 5 ปี (ปี 60-64) นั้น จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่มีสัญญาณฟื้นตัวตั้งแต่ปลายปี 59 บริษัทจึงได้พิจารณางบประมาณรายจ่ายไว้ที่ 14,950 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งได้รวมค่าพัฒนาโครงการคอนแทร็ค 4 (แหล่งอุบล) โครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน และโครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ ซึ่งทั้ง 3 โครงการดังกล่าวยังคงอยู่ในระหว่างการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (Final Investment Decision)

พร้อมกันนี้บริษัทยังได้คาดการณ์ปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยต่อวันในระหว่างปี 60-64 ดังนี้ ปี 60 คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 312,000 บาร์เรล/วัน ,ปี 61 อยู่ที่ 311,000 บาร์เรล/วัน ,ปี 62 อยู่ที่ 300,000 บาร์เรล/วัน ,ปี  63 อยู่ที่ 276,000 บาร์เรล/วัน และปี 64 อยู่ที่ 263,000 บาร์เรล/วัน

โดยแผนการลงทุนสะท้อนถึงแผนกลยุทธ์ Reset Refocus Renew ที่ยังคงให้ความสำคัญต่อการรักษาปริมาณการผลิตให้มีความต่อเนื่อง สามารถรองรับความต้องการพลังงานของประเทศได้อย่างมีเสถียรภาพ รวมถึงความพยายามที่จะต้องเร่งพัฒนาโครงการที่มีอยู่ ทั้งนี้ บริษัทยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด และพร้อมปรับแผนการลงทุนให้มีความเหมาะสม โดยยังคงมุ่งมั่นในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานตามแนวทาง SPEND SMART to Business Sustainability “คิดใหม่ ทำใหม่ ให้ได้ผล” เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจ E&P ในระยะยาวอย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีเงินสดในมือสูงกว่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ บริษัทจึงมีความพร้อมรับมือต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันผันผวนที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงมีความพร้อมในการแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ และการเข้าซื้อกิจการเพื่อเพิ่มปริมาณสำรองและปริมาณการผลิตปิโตรเลียมให้กับบริษัทในระยะยาว