SAWAD มั่นใจเทนเดอร์ฯ BFIT หนุนธุรกิจสินเชื่อ เล็งออกหุ้นกู้ 4 พันลบ.เดือนนี้

คุณธิดา แก้วบุตตา กรรมการ บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด ออนเรดิโอ” ทาง FM 98.5 MHz สถานีข่าวจริง สปริงเรดิโอ ช่วงเวลา 9.30-11.00 น. ถึงการร่วมงานกับทางบริษัทเงินทุน กรุงเทพธนาทร จำกัด (มหาชน) หรือ BFIT ว่าการดำเนินการครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเป็นอีกทางเลือกให้กับคนไทยทุกคนที่ไม่สามารถเข้าถึงสถาบันการเงินหลักประเภทธนาคารพานิชย์ได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลต่างๆ เช่นเครดิตบูโร ติดแบล็คลิส หรือเครดิตโปรไฟล์ไม่ผ่าน

โดยบริษัทได้ทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของ BFIT โดยจะทำการซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมเพิ่มอีก 26% จากเดิมเข้าซื้อไปแล้ว 10% ทั้งนี้จะเริ่มทำการซื้อได้นั้นต้องผ่านการอนุมัติเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นของทาง SAWAD ทั้งนี้จึงมีการประชุมสามัญเพื่อทำการหามติในวันที่ 9 มี.ค.60 นี้ และหากผู้ถือหุ้นเห็นชอบจะสามารถดำเนินการซื้อหุ้นได้ภายในไตรมาสแรกนี้

“บริษัทมีความตั้งใจจริงที่จะทำเทนเดอร์ฯ เพื่อที่จะทำการรับซื้อหุ้นทั้งหมดของ BFIT แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนักลงทุนแต่ละท่านก็มีแนวทางการลงทุนที่แตกต่างกันออกไป แต่บริษัทมีความมั่นใจในการร่วมงานกับ BFIT ที่จะทำให้เป็นผลดีในอนาคตกับทั้ง SAWAD และ BFIT” คุณธิดา กล่าว

ทั้งนี้ BFIT เป็นสถาบันทางการเงินภายใต้การควบคุมของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่สามารถรับเงินฝากได้ สามารถปล่อยเงินกู้ได้ ทั้งนี้การดำเนินการครั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจ และทำให้ผู้ถือหุ้นมีความมั่นใจมากขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างรากฐานการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและสร้างความมั่นคงให้กับบริษัท และนอกจากนี้ยังรวมถึงเรื่องของการที่ทำให้มีต้นทุนที่ต่ำลงอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม หากดำเนินการสำเร็จจะนำไปสู่การปรับโครงสร้างของบริษัท SAWAD ซึ่งเป็นการเคลียร์โฮลดิ้ง โดยไม่ได้มีการทำธุรกิจใดๆ และสินทรัพย์, หนี้สินทั้งหมดที่บริษัทถืออยู่จะขายให้กับบริษัทลูกที่เป็นเจ้าของอยู่ 100% เพราะฉะนั้นบริษัทลูกจะทำงานร่วมกับ BFIT เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายในการเข้าถือหุ้นในครั้งนี้

ส่วนของบริษัทบริหารสินทรัพย์ AMC กิจการตอนนี้อยู่ในช่วงที่กำลังเติบโต โดยประเภทซึ่งหลักๆ ของ AMC นั้น มุ่งเน้นไปที่ NPL สินทรัพย์แบบที่มีหลักประกัน เช่น อสังหาริมทรัพย์ เงินกู้ระยะยาว โดยยังไม่ลงไปในกลุ่มบัตรเครดิต เมื่อมีการซื้อมาจะนำมาบริหารจัดการ และส่วนใหญ่เกือบ 100% เป็นสินทรัพย์ที่มีอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกันซึ่งเมื่อธนาคารพานิชย์ทยอยถ่ายหนี้เสียออกมา ทางบริษัทจะเข้าร่วมประมูลเพื่อดูและจัดการบริหารต่อไป

“เมื่อซื้อมาแล้วก็จะบริหารจัดการในการติดต่อกับลูกค้า เนื่องจากสามารถใช้สาขาของ SAWAD เป็นฐานในการออกไปติดต่อดูแลลูกค้าได้ง่ายขึ้นใกล้ชิดมากขึ้น และอาจจะมีการทำการปรับโครงสร้างหนี้ และทางเลือกสุดท้ายจะเป็นการขายหลักประกันออกไป” คุณธิดา กล่าว

สำหรับการออกหุ้นกู้นั้น บริษัทอยู่ระหว่างการจัดเตรียมหุ้นกู้ที่ 3-4 พันล้านบาท เสนอขายให้กับนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ภายในเดือนมกราคมนี้ เพื่อนำมาขยายกิจการ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน และบางส่วนที่นำไปใช้ในการลงทุนเพิ่มเติม โดยมีการทำงานร่วมกับทางที่ปรึกษาธนาคารซีไอเอ็มบี ซึ่งเป็นเป็นแกนนำผู้จัดจำหน่ายร่วมกับบล.เอเชียพลัส และ บล.โกลเบล็กซ์ กำหนดอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 3-5%