เสี่ยป๋อง ‘ผมไม่เคยหักหลังใคร’
วานนี้คุยกับ “เสี่ยป๋อง” หรือคุณวัชระ แก้วสว่างนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้น
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
วานนี้คุยกับ “เสี่ยป๋อง” หรือ คุณวัชระ แก้วสว่าง นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้น
เขายืนยันอีกครั้งว่าไม่ได้กระหน่ำขายหุ้น PACE หรือ บมจ.เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น เมื่อวันก่อนหน้า
ส่วนวานนี้ (11 ม.ค.) ที่ราคายังร่วงก็ไม่ได้ขายเช่นกัน
มีการกล่าวย้ำด้วย
การซื้อหุ้น PACE จะลงทุนระยะยาว เพราะหุ้นตัวนี้ เป็นโครงการที่ดี มีอนาคตที่รุ่ง พุ่งพรวด
เสี่ยป๋องได้หุ้น PACE มาจากการเข้ามาไล่ซื้อในกระดานครับ
เก็บเข้าพอร์ตมาเรื่อยๆ
ในทางกลับกัน ก็พยายามที่จะหาจังหวะในการซื้อเพิ่ม
กองทุนเทมเพิลตัน ของ “มาร์ค โมเบียส” ที่เข้ามาซื้อหุ้น PACE ก่อนหน้านี้ ก็เพราะมองเห็นอนาคตที่ดีของเพซฯ อย่างที่เสี่ยป๋องมองไว้เช่นกัน
“ดีน แอนด์ เดลูก้า” ที่เป็นแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มกูร์เม่ต์ระดับไอคอน (เป็นที่รู้จัก) จากนิวยอร์ก
และเป็นบริษัทลูกของ PACE ต่อไปจะทำรายได้ให้กับเพซฯ อย่างมาก
ก่อนหน้านี้ กองทุนเทมเพิลตัน เคยเข้าลงทุนในหุ้นของ “สตาร์บัคส์” แบรนด์ร้านกาแฟชื่อก้องโลก
แต่ตอนที่ซื้อหุ้นนั้น
สตาร์บัคส์ ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก สำหรับคนดื่มกาแฟ และคนทั่วไป
ทว่า มาร์ค โมเบียส มองเห็นโอกาส และการเติบโต จึงเข้าลงทุน
เช่นเดียวกับ “ดีน แอนด์ เดลูก้า” ที่มาร์ค โมเบียส ก็มองแบบนั้น คือ เข้าซื้อตอนยังไม่ดังมาก แต่ต่อไปจะดัง และเป็นที่รู้จัก คนจะเข้าไปใช้บริการกันคับคั่ง
นี่คือสิ่งที่เป็นผลพลอยได้จากการลงทุน PACE นอกเหนือจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
เสี่ยป๋อง บอกด้วยนะว่า นับจากเดือนพฤศจิกายน เป็นต้นมา
เขาได้เข้ามาเก็บหุ้น IVL (บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส) เข้าพอร์ตเรื่อยๆ
และผ่านมาจนถึงวันนี้ ก็ยังไม่ได้ขายออกเลย
เส้นกราฟของ IVL อยู่ในทิศทางที่ดี
สวยมาก
และธุรกิจปิโตรเคมี ก็เป็นวงรอบที่เป็นขาขึ้น และนักวิเคราะห์ต่างก็มองว่า ปิโตรเคมียังจะดีต่อไป
ส่วนตัวเขานั้น ไม่ได้ฟังข้อมูลกับนักวิเคราะห์เท่านั้น
ทว่ายังทำการบ้านด้วยตนเอง มาศึกษา มาวิเคราะห์ หาข้อมูลต่างๆ ก่อนจะเข้าไปลงทุน
และจะใช้วิธีการนี้กับหุ้นทุกตัวที่ลงทุน
หุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ก็อยู่ในความสนใจของเสี่ยป๋อง
เช่น แบงก์กรุงเทพ หรือ BBL ที่นักลงทุนหลายๆ คนร้องยี้ และหนีห่าง เพราะมองว่า หนี้เสีย(NPL) สูง
เสี่ยป๋องถามกลับว่า “แบงก์ขนาดใหญ่อย่าง BBL มีหนี้เสีย 3% กว่าๆ ถือว่าสูงเหรอ..?”
ราคาหุ้น(วานนี้ปิด 167 บาท) ยังต่ำกว่าตามมูลค่าบัญชี(194.30 บาท) และพี/อี อยู่ที่ระดับเพียง 10 เท่า อัตราผลตอบแทนเงินปันผลอยู่ที่ 4%
นี่ยังไม่รวมถึงนักลงทุนต่างชาติซื้อจนเต็มเพดานของ Foreign ด้วยนะ
หุ้นแบบนี้คือหุ้นที่ “ควรซื้อ”
และในกระดานหุ้นไทยยังมีหุ้นประเภทแบบนี้อีกเยอะ
มีการคำนวณด้วยว่า หากนักลงทุน เข้ามาลงทุนหุ้นที่มีพื้นฐานในลักษณะของ BBL จะทำให้ดัชนีหุ้นไทยวิ่งไต่ระดับไปถึง 1,800 จุดในทันที
และไม่ใช่ฟองสบู่ด้วย
เสี่ยป๋อง บอกว่า เล่นหุ้นพวกนี้ดีกว่าเล่นหุ้นที่มีพี/อี ระดับ 100 เท่า เสียอีก
หุ้นเหล่านั้น น่าเล่นตรงไหน
เสี่ยป๋อง บ่นถึงคนที่ชอบมาใส่ร้ายเขาด้วย
โดยเฉพาะเวลาหุ้นที่เขาถือ แล้วราคาร่วง และโยนมาว่า “เสี่ยป๋องขาย” ซึ่งเขาไม่ชอบการโจมตีแบบนี้
และคนที่ว่านี้ ก็รู้จักกันทั้งนั้น
พร้อมกับยกตัวอย่างด้วยว่า เวลาได้หุ้นมา ตัดล็อตกันไป ซึ่งเขาไม่เคยรีบขาย หรือขายก่อนเลย
เว้นแต่ว่า ราคาหุ้นไปถึงจุดที่เขาตั้งเป้าหมายไว้แล้วว่า “ถึงเวลาขาย” ก็จะขายออกมา
หุ้นบางตัวถือไว้จนขาดทุนก็มี
แต่คนอื่นขายทิ้งก่อนหน้าไปหมดแล้ว พอปิดสมุดมา เหลือเขาถือเพียงแค่คนเดียว จนเจ้าของ(ผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทนั้นๆ) ยังแอบสงสาร
เสี่ยป๋องย้ำว่าเขาเป็นคน“รักษาคำพูด”
และ“ไม่เคยหักหลังใคร”