ย่ำอีกนิด..รับรองเลิศโมนิก้าและทีมงาน
*ศาสตร์ของการลงทุนมีหลายอย่างด้วยกันก็จริง แต่ศาสตร์ทุกรูปแบบต้องตั้งอยู่บนความพอดี “โมนิก้า” ถึงมองไม่เห็นความจำเป็นที่ดัชนีจะเร่งรีบทะยานขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,600 จุด เพราะมันไม่เป็นผลดีต่อการลงทุนในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า บวกกับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลประกอบการยังมีออกมาให้ชื่นใจตลอดเวลา บรรยากาศการลงทุนถึงไม่มีอะไรน่าวิตกกังวลไงล่ะค่ะ
*ศาสตร์ของการลงทุนมีหลายอย่างด้วยกันก็จริง แต่ศาสตร์ทุกรูปแบบต้องตั้งอยู่บนความพอดี “โมนิก้า” ถึงมองไม่เห็นความจำเป็นที่ดัชนีจะเร่งรีบทะยานขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,600 จุด เพราะมันไม่เป็นผลดีต่อการลงทุนในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า บวกกับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลประกอบการยังมีออกมาให้ชื่นใจตลอดเวลา บรรยากาศการลงทุนถึงไม่มีอะไรน่าวิตกกังวลไงล่ะค่ะ
*ประกอบกับวานนี้ “โมนิก้า” เห็นตลาดหุ้นไทยผ่านกระบวนการทดสอบแรงเทขายตั้งแต่เช้าจรดเย็น ก่อนจะลงเอยด้วยการปิดที่ระดับ 1,571.80 จุด ลบไป 3.44 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.90 หมื่นล้านบาท ย่อมตีความได้ว่า ยังมีแรงซื้อเข้ามารับหุ้นเป็นระยะ ดัชนีถึงไม่ไหลรูดลงอย่างรวดเร็วเหมือนที่แล้วมา แถมยังบอกให้รู้เพิ่มเติมอีกนิดหน่อยว่า การเขย่าเอาของไม่ได้ทำกันง่ายๆ นะจะบอกให้
*ที่สำคัญหากอ่านสัญญาณเทคนิคอย่างละเอียดจะเห็นว่า ค่าหลายตัวที่เคย overbought เริ่มเข้าใกล้สู่เขตปกติ ไม่ว่าจะเป็นตัวชี้วัดอย่าง RSI และ Slow Stochastic ก็ลงมาอยู่ในระดับที่น่าพอใจเหมือนกัน และหากผ่านกระบวนการย่ำฐานอีกสักระยะหนึ่ง น่าจะทำให้การทะยานขึ้นในเที่ยวถัดไปเลิศสะแมนแตน ซึ่งเป็นจังหวะที่นักลงทุนต้องอ่านให้ขาดตั้งแต่วันนี้นะคะ
*เนื่องจากดัชนีกำลังโรยตัวลงอย่างช้าๆ โดยเที่ยวนี้มีแนวรับสำคัญอยู่ตรงเส้น 10 วันที่บริเวณ 1,564 จุด ซึ่งเปิดช่องให้ดัชนีย่อตัวลงมาอีกนิดหน่อย จึงต้องรีบกำหนดโพซิชั่นให้ชัดเจนตั้งแต่บัดนี้ เพราะข้อมูลของการลงทุนออกมาในโทนดีเป็นส่วนใหญ่ และผู้เล่นหลักยังคงทยอยเก็บหุ้นเป้าหมายเข้าพอร์ตอย่างต่อเนื่อง “โมนิก้า” ถึงเห็นหุ้นหน้าเก่าๆ เริ่มทะยานขึ้นมาติดในกระดาน most active อีกครั้งไงล่ะค่ะ
*โดยเฉพาะในรายของ PTTGC กระชากขึ้นมาปิดที่ 65.25 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 2.80% ด้วยมูลค่า 2.47 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นการวิ่งขึ้นมาทดสอบแนวต้าน 66 บาทอย่างเป็นทางการครั้งที่ 4 ส่วนจะผ่านไปได้แบบชิวๆ หรือต้องกลับไปตั้งต้นใหม่ที่บริเวณ 60 บาท มันเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูกันต่อไป ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความระทึกใจของคนที่มีหุ้นตัวนี้อยู่ในพอร์ตนะคะ
*เช่นเดียวกับในรายของ JAS ขยับขึ้นมาปิดที่ 8.95 บาท บวกไป 0.15 บาท ด้วยมูลค่า 1.97 พันล้านบาท ยังคงเป็นอะไรที่ตื่นเต้นเร้าใจเสมอ ซึ่งเป็นจังหวะที่นักเล่นสั้นต้องตามไปเคาะรัวๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำรอบ ซึ่งเหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ TASCO มันเป็นจังหวะที่ต้องดูไปทีละช็อต และต้องว่ากันวันต่อวัน หลังหุ้นวิ่งขึ้นมายืนอยู่ที่ 23.50 บาท บวกไป 0.30 บาท ด้วยมูลค่า 1.17 พันล้านบาท มันมองได้ทั้ง “ไปต่อ” หรือ “พักตัว” หลังหุ้นทั้งสองตัวออกอาการตื้อๆ ตันๆ ชอบกลนะซี
*ผิดกับในรายของ AMATA กระชากขึ้นพรวดเดียวขึ้นมายืนอยู่ที่ 14.40 บาท บวกไป 1.30 บาท หรือขึ้นไป 10% ด้วยมูลค่า 920 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตของพวก “คิดเร็ว ทำเร็ว” ไม่ได้มีเรื่องอื่นเข้ามาเป็นตัวเร่งแต่อย่างใด เพราะของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า BV สูงถึง 10.40 บาท แต่ราคาหุ้นดันอยู่ต่ำเรี่ยดินเสียอย่างนั้น แถมเชื่อกันว่า ปี 60 จะกลับมาทำกำไรแบบแจ่มๆ หุ้นก็เลยวิ่งระเบิดระเบ้อไงล่ะค่ะ
*ม้ามืดอีกหนึ่งตัวอย่าง LOXLEY กลายเป็นหุ้นที่น่าจับตาเป็นพิเศษ เพราะการทะยานขึ้นแรงในเที่ยวนี้แฝงไว้ด้วยนัยมากมายหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธุรกิจที่น่าจะสดใสขึ้น หรือแม้กระทั่งค่า P/BV ที่ยังต่ำเกินไป ทั้งหมดเป็นตัวบิวด์อารมณ์ชั้นยอด แต่ที่เด็ดสุดคงเป็นเรื่องรถเมล์ไฟฟ้าที่เดินเรื่องอย่างเป็นรูปธรรม ราคาหุ้นถึงเด้งขึ้นมารอที่ระดับ 3.72 บาท บวกไป 0.28 บาท หรือขึ้นไป 8.10% ด้วยมูลค่า 750 ล้านบาทนั่นแหละค่ะ
*ส่วนหุ้นจอมเว่อร์อย่าง LST ถือเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องตระหนักให้มากๆ เพราะการที่หุ้นขึ้นมาปิดที่ 7.45 บาท บวกไป 1.05 บาท หรือขึ้นไป 16.40% ด้วยมูลค่า 590 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเกมวัดใจที่ผู้เล่นต้องรู้จักเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้บ้าง เพราะในช่วง 2-3 ปีที่ตัวเลขกำไรออกมาสวยๆ หุ้นยังทำได้แค่แตะขอบ 4.50 บาท จู่ๆ วันนี้หุ้นมาไกลเกือบเท่าตัว มันต้องมีอะไรดีกว่าที่เห็นนะจะบอกให้
*เช่นเดียวกับในรายของ SMT เล่นกันบนความเชื่อที่ว่า ในปี60 เทิร์นอะราวด์สุดตัว แรงซื้อถึงเข้ามาไล่ราคาหุ้นกันสุดติ่งกระดิ่งแมว จนหุ้นขึ้นมาปิดที่ 8.40 าท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่า 170 ล้านบาท พร้อมกับทำจุดสูงสุดในรอบ 5 ปี 5 เดือน “โมนิก้า” มองเป็นความเสี่ยงที่ขาลุยพร้อมจะสู้ยิบตา จึงขอแนะนำให้พวกหัวใจสะออนถอยออกมาห่างๆ นะคะ
*คล้ายคลึงกับกรณีของ BIZ ทะยานขึ้นมาปิดที่ 5.30 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่า 170 ล้านบาท ซึ่งเป็นการปิดราคาสูงสุดในรอบ 5 เดือนครึ่ง และถ้านับจากหุ้นเข้าเทรดวันแรกเมื่อ 28 ก.ค. 59 โดยวันนั้นหุ้นขึ้นไปถึง 7.40 บาท ก่อนจะโรยตัวลงมาปิดที่ 5.50 บาท “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะที่สามารถไหลตามน้ำได้อีกนิดหนึ่ง หลังมองดูค่า P/E 21 เท่า ยังมีแก๊ปให้เล่นอีกหลายช่วงตัวนะซี