ตลท.ชี้ เบี้ยวหนี้ตั๋ว B/E แค่เรื่องจิ๊บๆ! แนะจัดเครดิตเรตติ้งลดความเสี่ยง
ตลท.ชี้ เบี้ยวหนี้ตั๋วบี/อี ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ยอมรับกังวลใจ บจ.ออกตั๋ว บี/อี ใช้ผิดวัตถุประสงค์ แนะควรจัดอันดับเครดิตเรตติ้ง เพื่อลดความเสี่ยง และสร้างความเชื่อมั่น
ตลท.ชี้ เบี้ยวหนี้ตั๋วบี/อี ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ยอมรับกังวลใจ บจ.ออกตั๋ว บี/อี ใช้ผิดวัตถุประสงค์ แนะควรจัดอันดับเครดิตเรตติ้ง เพื่อลดความเสี่ยง และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน
นายสันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด ออนเรดิโอ” ทาง FM 98.5 MHz สถานีข่าวจริง สปริงเรดิโอ ช่วงเวลา 9.30-11.00 น. ว่า ปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ตั๋วแลกเงิน (B/E) ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะยังอยู่ในกรอบที่ตลาดทรัพย์ดูแลได้ เนื่องจากการผิดชำระตั๋ว B/E ดังกล่าว เป็นเพียงการเลื่อนระยะเวลาการชำระเป็นส่วนใหญ่
“ตั๋วแลกเงิน (B/E) เป็นเครื่องมือที่บริหารสภาพคล่องระยะสั้นเพราะฉะนั้นจึงออกง่าย แต่เนื่องจากดอกเบี้ยต่ำและต้นทุนสูง หลายบริษัทอาจจะประมาทเอาเครื่องมือระยะสั้นไปใช้เป็นเครื่องมือระดมทุน โดยตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้กังวลใจว่าบริษัทจะผิดนัดชำระหนี้ เพราะยังไม่ได้เกิดความเสียหายจนถึงขนาดที่ควบคุมไม่ได้ แต่กังวลใจว่าจะนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์” นายสันติ กล่าว
โดยผู้ออกตั๋วแลกเงิน (B/E) ที่เป็น non-Rating นั้น จากข้อกำหนดของก.ล.ต.แล้ว สามารถขายให้ได้แค่ 2 กลุ่มเท่านั้นคือ นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุน High Net Worth (นักลงทุนพอร์ตใหญ่) ซึ่งโดยปกติ กลุ่มนักลงทุนสถาบันเลือกที่จะไม่ลงทุนในตั๋วบี/อี ที่ไม่มีเรตติ้งอยู่แล้ว เพราะตราสารใดก็ตามที่ไม่มีการจัดอันดับเครดิตที่อยู่ในระดับสูงนักลงทุนสถาบันจะไม่ลงทุนซึ่งจะเหลือแค่นักลงทุน High Net Worth เท่านั้นที่ลงทุน เพราะนักลงทุนกลุ่มนี้ค่อนข้างที่จะรู้อยู่แล้วว่าบริษัทต้องการผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นสิ่งที่ลงทุนก็จะมีความเสี่ยงอยู่มากพอสมควร
ปัจจุบัน ณ ตอนนี้ ทุกฝ่ายเริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวแล้ว จึงเชื่อว่าจะสามารถขีดกรอบ กำหนดกฎเกณฑ์ให้มันไม่เกิดความเสียหายได้ และน่าจะสามารถจัดการบริหารได้ในเร็วๆนี้
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ไม่สามารถที่จะออกเกณฑ์ให้บริษัท แจ้งตลาดฯเมื่อออกตั๋ว บี/อีได้ เพราะว่ามันเป็นวิธีการดำเนินธุรกิจปกติ แต่ตลาดฯสามารถสั่งให้บริษัทจดทะเบียนชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมได้ เฉพาะกรณีที่กฎหมายให้อำนาจแก่ตลาดฯ เช่น บริษัทมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญทางธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม นายสันติ มองว่า การที่บริษัทจดทะเบียนจะออกตั๋วและเงิน (B/E) ควรจะต้องมีการจัดอันดับเครดิตเรตติ้ง เพราะการจัดทำอันดับเครดิตจะสามารถลดความเสี่ยง สร้างความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือให้แก่นักลงทุนได้