หุ้นยุโรปร่วงลงตามหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องมูลค่าหุ้นในหุ้นกลุ่มที่มีผลกำไรเติบโตเร็ว อย่างเช่นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากหุ้นกลุ่มนี้พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงต้นปีนี้

โดยดัชนี DAX ของตลาดหุ้นเยอรมนีปิดร่วงลง 21.64 จุด หรือ 0.18 % สู่ 11,843.68 หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 11,619.72-11,849.39 และดัชนี CAC-40 ของตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดปรับลง 14.64 จุด หรือ 0.29 % สู่ 5,006.35 หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,932.53-5,006.35

ส่วนดัชนี FTSEurofirst 300 ของหุ้นกลุ่มบลูชิพทั่วยุโรปปิดร่วงลง 12.70 จุด หรือ 0.8 % สู่ 1,574.26 หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,558.44-1,586.42

ดัชนีตลาดหุ้นในยูโรโซนสามารถลดช่วงติดลบกลับขึ้นมาได้บ้างในช่วงท้ายตลาดในขณะที่ยูโรร่วงลงอีกครั้ง ในบรรดาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนั้น หุ้นบริษัทโนเกียของฟินแลนด์, อัลคาเทล-ลูเซนต์ของฝรั่งเศส, เอสทีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ของฝรั่งเศส, ARM ของอังกฤษ และ ASML ของเนเธอร์แลนด์ดิ่งลง 1.9-4.9 %

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของยุโรปได้รับแรงหนุนจากการดิ่งลงของยูโรในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นมาแล้ว 42 % นับตั้งแต่กลางเดือนต.ค. 2014 ซึ่งถือเป็นอัตราการพุ่งขึ้นที่แข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นโดยรวม และปัจจัยนี้    ส่งผลให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีมีค่าพีอีเรโชอยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวเป็นอย่างมาก

ด้านหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีมีค่าพีอีเรโชอยู่ที่ 20.4 เท่าของตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรช่วง12 เดือนข้างหน้า ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะ 10 ปีที่ 16.2 เท่า ทางด้านหุ้นในดัชนี STOXX Europe 600 มีค่าพีอีเรโชอยู่ที่ 16 เท่า

นายแฟรงคลิน ปิชาร์ด จากธนาคารบาร์เคลย์ส ฟรานซ์กล่าวว่า “นักลงทุนเริ่มคิดว่า ราคาหุ้นได้ปรับตัวรับข่าวในทางบวกไปมากแล้ว และขณะนี้ถึงเวลาที่จะต้องขายทำกำไรออกมาบ้าง โดยการดีดขึ้นของยูโรอาจจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลง”