THAI เตรียมประกาศผลผู้ผ่านคุณสมบัติตำแหน่งดีดีสัปดาห์หน้า

THAI เตรียมประกาศผลผู้ผ่านคุณสมบัติตำแหน่งดีดีสัปดาห์หน้า


นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ในปี 60 ที่เฉลี่ย 80% โดยในช่วงไตรมาส 1/60 คาดว่าจะได้มากกว่า 80% เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวและระหว่างวันที่ 1-10 ม.ค. ที่ผ่านมาสามารถทำ Cabin Factor สูงถึง 86% ซึ่งเป็นระดับที่ดีมากเท่าที่เคยทำมา ขณะที่ Cabin Factor ในไตรมาส 1/59 อยู่ที่ระดับเฉลี่ย 77.8% ด้านกำไรต่อหน่วย (yield) ของบริษัทนับว่ายังสูงกว่าคู่แข่ง 7% และมีโอกาสที่จะปรับเพิ่มขึ้นได้อีก

โดยปัจจัยที่จะช่วยหนุน Cabin Factor ในปีนี้ ยังมาจากการที่บริษัทจะทยอยรับมอบเครื่องบินทั้งหมด 7 ลำในปีนี้ ซึ่งเป็นการซื้อเครื่องบิน แอร์บัส A350-900 XWB จำนวน 2 ลำ และเช่าอีก 5 ลำ แบ่งเป็นเครื่องบินแอร์บัส A350-900 XWB จำนวน 3 ลำ และเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 จำนวน 2 ลำ ขณะเดียวกันบริษัทจะปลดระวางเครื่องบินเก่าออกจำนวน 7 ลำ ซึ่งจะทำให้สื้นปี 60 มีฝูงบินจำนวน 94 ลำ เท่ากับปี 59  โดยการมีเครื่องบินใหม่เข้ามาเสริมฝูงบินจะช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น และจะสามารถปรับราคาจำหน่ายตั๋วได้ด้วย

“ในปี 60 เป็นปีที่เริ่มต้นของเฟสที่ 3 ของแผนปฏิรูปองค์กร ที่จะเน้นเรื่องการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ปีนี้เราจะมีเครื่องใหม่ 7 ลำจากปีที่แล้วมีเครื่องบินใหม่ 7 ลำ” นายจรัมพร กล่าว

ขณะที่ตามแผนปฏิรูปองค์กรยังมีงานคงค้างจากปี 59 ที่จะต้องดำเนินการต่อในปีนี้ ได้แก่ งานวางระบบ Mobile Booking คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในเดือน ก.ค.60 ,ระบบการเสนอราคาที่สามารถปรับราคาตั๋วโดยสารได้ทั่วโลก ได้ภายใน 1 วันจะทำให้สามารถแข่งขันด้านราคาได้เต็มที่, ระบบ CRM บนเครื่องโดยลูกเรือบนเครื่องจะสามารถประสานงานกับทางภาคพื้น เพื่อสนองตอบต่อความต้องการของผู้โดยสาร อาทิ เรื่องอาหารบนเครื่อง ขอร้องเรียนของลูกค้าซึ่งได้เริ่มเมื่อ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้ง การปรับปรุงการบริการภาคพื้นและลานจอดโดยมีขั้นตอนทำงานใหม่ ซึ่งช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ก็จะนำไปปฏิบัติ

ทั้งนี้จากผลของแผนปฏิรูปองค์กรช่วยให้การบินไทยมีสัดส่วนการขายตั๋วผ่านอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นในปัจจุบันที่ระดับ 20.4% จากระดับ 15% ในปี 59 และคาดว่าในปลายปี 60 จะมีสัดส่วนการขายตั๋วผ่านอินเตอร์เน็ตเพิ่มเป็น 30% สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่วางไว้ทั้งปีนี้ที่ 21%

นอกจากนี้ในแต่ละหน่วยธุรกิจก็ได้มีการปรับแผนกลยุทธ์ ได้แก่

1. ครัวการบิน มีแผนกลยุทธ์ธุรกิจชัดเจน ที่จะนำเอาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาปรับปรุงเรื่องอาหารที่จะมีทั้งอาหารแบบแช่เย็น (Chill) และแช่แข็ง (Frozen) แทนการที่ต้องทำอาหารเอง โดยจะหาพันธมิตรร่วมทุนที่จะเห็นความชัดเจนในปีนี้

2. หน่วยซ่อมบำรุงอากาศยาน  ขณะนี้มุ่งไปที่โครงการซ่อมบำรุงอากาศยานที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภา คาดว่าจะได้ความชัดเจนการลงทุนว่าจะรองรับจำนวนเครื่องบินกี่ลำ รุ่นไหนหรือแบบไหน และเรื่องมูลค่าเงินลงทุนในปลายเดือนก.พ. 60 รวมทั้งการหาพันธมิตรด้วย

3. หน่วยบริการภาคพื้นและลานจอด จะมีการปรับองค์กรใหม่ (Re-engineering) ใน 6 เดือนแรก ซึ่งเบื้องต้นจะบริหารเองโดยจะยังไม่หาพันธมิตร  และ4. หน่วยคลังสินค้า (Cargo) จะรอเข้าขยายธุรกิจคลังสินค้าในเขต Free Zone ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่อยู่ระหว่างรอกฎหมาย รวมทั้งเขต Free Zone ในท่าอากาศยานอู่ตะเภา ที่จะรองรับกับระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (EEC)

นอกจากนี้ นายจรัมพร กล่าวถึงกรณีที่บริษัท โรลส์ รอยส์ ออกมาระบุว่าได้จ่ายสินบนให้นายหน้าการบินไทยเพื่อช่วยจัดซื้อเครื่องยนต์เครื่องบินว่า คณะกรรมการบริษัทแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงโดยเร็ว รวมทั้งสอบสวนอดีตผู้บริหารและอดีตกรรมการที่มีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องนี้

ด้านร.อ.อ.กนก ทองเผือก รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายทรัพยากรบุคคลและกำกับกิจการองค์กร THAI กล่าวว่า กรอบเวลาหาข้อเท็จจริงเบื้องต้นภายใน 30 วัน หากไม่เสร็จก็ขยายเวลาอีก 60 วัน และ 90 วันต่อไป โดยบริษัทจะสามารถเอาผิดกับผู้บริหารหรือกรรมการที่มีส่วนเกี่ยวข้องแม้ว่าจะเกษียณไปแล้วก็ตาม เพราะมีรายงานการจัดซื้อเครื่องยนต์ของโรลส์ รอยซ์ และเมื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริงได้แล้ว ถ้ามีมูลจะส่งเรื่องไปถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อไป

ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าการบินไทยมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส โดยไม่มีข้อยกเว้นต่อการทุจริตในทุกรูปแบบ ดังนั้น การบินไทยจะเร่งข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำมาตรวจสอบโดยละเอียด เมื่อได้รับข้อเท็จจริง การบินไทยจะพิจารณาหามาตรการที่เหมาะสมในการจัดการเรื่องทุจริตโดยเร็ว เพื่อดำรงเจตนารมณ์ของการบินไทยในด้านความโปร่งใสต่อไป

 

ขณะที่ความคืบหน้าการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) ว่า คณะกรรมการสรรหาได้รายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทว่าอยู่ระหว่างรอผลการตรวจคุณสมบัติจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และคาดว่าจะส่งข้อมูลมาภายในสัปดาห์นี้ หลังจากนั้นจะดำเนินการตามขั้นตอนประกาศว่าผู้ใดจะเป็นผู้ผ่านคุณสมบัติ และจะเรียกตัวมาสัมภาษณ์

ด้านนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานกรรมการ THAI คาดว่าในสัปดาห์หน้าคณะกรรมการบริษัทจะประชุมอีกครั้งหลังรู้ผลผู้ที่ผ่านคุณสมบัติ โดยเบื้องต้นผู้สมัครตำแหน่งดีดี จากการบินไทยน่าจะผ่านคุณสมบัติ

“รอผลการตรวจสอบของผู้สมัครทั้ง 9 คน ทุกหน่วยส่งมาแล้วเหลือ สคร. เราก็เร่งอยู่ให้เวลา 1 อาทิตย์” ประธานกรรมการ THAI กล่าว

ทั้งนี้ นายจรัมพร จะเกษียณอายุครบ 60 ปี ในวันที่ 9 ก.พ.นี้ โดยนายคณิศ แสงสุพรรณ ประธานกรรมการบริหาร THAI ระบุว่า นายจรัมพร แสดงเจตจำนงที่จะไม่ขอต่อเวลานั่งตำแหน่งดีดี ทั้งนี้ หากการสรรหาดีดี คนใหม่ไม่ทันก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะหาผู้มาทำหน้าที่รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อย่างไร

Back to top button