พาราสาวะถี อรชุน
ใครเล่นเกมการเมือง ถ้อยแถลงของ สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาลและรักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ น่าจะเป็นบทพิสูจน์ได้อย่างดี ต่อกรณีสินบนโรลส์-รอยซ์ ในส่วนของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ขณะที่บริษัทสัญชาติอังกฤษระบุว่ามีการจ่ายใต้โต๊ะตั้งแต่ปี 2534-2548 แต่ไก่อูเลือกที่จะพูดแค่ว่าปี 2548 แล้วไล่ให้ไปตรวจสอบ
ใครเล่นเกมการเมือง ถ้อยแถลงของ สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาลและรักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ น่าจะเป็นบทพิสูจน์ได้อย่างดี ต่อกรณีสินบนโรลส์-รอยซ์ ในส่วนของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ขณะที่บริษัทสัญชาติอังกฤษระบุว่ามีการจ่ายใต้โต๊ะตั้งแต่ปี 2534-2548 แต่ไก่อูเลือกที่จะพูดแค่ว่าปี 2548 แล้วไล่ให้ไปตรวจสอบ
ทำไมถึงจำเพาะเจาะจงเช่นนั้น ทั้งๆ ที่บริษัทที่ติดสินบนเขาระบุไว้หลายปี แค่เท่านี้ก็พอจะเห็นแล้วว่า กระบอกเสียงของรัฐบาลและรักษาการอธิบดีกรมกร๊วก ต้องการหวังผลอะไร และย่อมสะท้อนทัศนคติของคนประเภทนี้เป็นอย่างดีและนี่จะเป็นเครื่องหมายคำถามสำคัญย้อนกลับไปยัง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านและคณะต้องการปรองดองจริงหรือไม่
ท่าทีเช่นนี้ของไก่อูย่อมเกิดภาพประกบทันทีจากกรณีผังล้มเจ้ากำมะลอ ยังไม่เข็ดอีกหรือ และการพูดโดยล็อกเป้าหมาย ด้วยเงื่อนเวลาดังกล่าวย่อมหมายถึงการพุ่งเป้าตีกินไปที่รัฐบาลของ ทักษิณ ชินวัตร ถ้าเช่นนั้นถามต่อว่าโฆษกรัฐบาลชุดนี้มีเป้าประสงค์อะไร หรือมีข้อมูลเด็ดว่าการประพฤติชั่วเรียกรับสินบนมันมีเฉพาะในยุคของนายใหญ่เท่านั้น
อย่างที่ย้ำมาหลายหน คนที่มีทัศนคติในการทำงานเช่นนี้บิ๊กตู่ยังจะเก็บเอาไว้หรือ อาจจะดีในแง่ของการปกป้องรัฐบาล แต่อีกด้านกลับไปเที่ยวกล่าวหาและซ้ำซากว่าเป็นคนกลุ่มเดียวฝ่ายเดียว มันเป็นการยืนยันว่าฝ่ายที่มีหน้าที่ในการสร้างความปรองดอง ทำตัวเป็นขั้วความขัดแย้งเสียเอง ถ้อยแถลงดังกล่าวของไก่อูมันสวนทางกับการแสดงออกของอดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่หรือดีดีการบินไทยในยุคนั้นอย่างสิ้นเชิง
ถามต่อว่าไก่อูกล้าที่จะเดิมพันกับ กนก อภิรดี ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ดีดีการบินไทยในช่วงปี 2545-2549 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โฆษกรัฐบาลกล่าวหาหรือไม่ กนกได้ชี้แจงผ่านไลน์กลุ่มเพื่อนๆ ว่า ตนได้ร่วมสร้างการบินไทยกับพนักงานการบินไทยหลายพันคน จากบริษัทที่มีหนี้ท่วมท้น จนกลับมาเป็นเบอร์หนึ่งของโลกได้อย่างสง่าผ่าเผย ด้วยการยึดมั่นในธรรมาภิบาล ที่มีบรรทัดฐานสูงกว่ากฎหมาย ตลอดช่วงการเป็นลูกจ้างของการบินไทย
ก่อนที่จะยื่นคำท้าต่อว่า วันนี้การจ่ายใต้โต๊ะ ของโรลส์-รอยซ์ ได้ทำลายเกียรติและศักดิ์ศรีของทุกจิตวิญญาณของคนการบินไทยอีกครั้งหนึ่ง ขอเรียกร้องว่า ภายใต้อำนาจและหน้าที่ของหลายท่านที่ยังมีหน้าที่ในการรักษาความเที่ยงธรรมอยู่ หากเพื่อนคนนี้ของท่าน ได้ประพฤติเยี่ยงโจร ในมหากาพย์โรลส์-รอยซ์ นี้ ไม่ว่าจะมากจะน้อยเพียงใด ก็อย่าให้มีความเป็นเพื่อนหลงเหลืออยู่ และจงลงโทษมันผู้นี้ด้วยโทษที่สูงสุด เท่าที่กฎหมายจะหยิบยื่นให้ได้ โดยไม่ต้องลังเลแต่อย่างใด
นี่เป็นการยืดอกแสดงความรับผิดชอบอย่างชาติชายผู้กล้า ผิดกับคนบางคนที่มองตามสถานะที่หัวโขนที่ตั้งอยู่บนบ่าแล้ว กลับทำตัวเหมือนพวกอีแอบ เที่ยวโพนทะนากล่าวหาคนอื่นโดยไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ มากไปกว่านั้น หากจะแสดงความเป็นผู้ที่มีวุฒิภาวะ ก็ควรจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเขาได้ตรวจสอบตามขั้นตอนจนเกิดความชัดเจนเสียก่อน
ไม่เฉพาะกรณีผังล้มเจ้ากำมะลอเท่านั้น ไก่อูก็เคยปล่อยไก่มาแล้วอีกหนจากกรณีระเบิดแยกราชประสงค์ ที่รีบด่วนสรุปว่าเป็นฝีมือของพวกเสียประโยชน์ทางการเมืองจากการยึดอำนาจ สุดท้าย ผลแห่งคดีก็เป็นอย่างที่เห็น ปมสินบนโรลส์-รอยซ์ไม่ได้เกิดแค่ที่การบินไทย องค์กรใหญ่อย่างบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ก็โดนหางเลขไปด้วย
โดยผลการสอบสวนของกระทรวงยุติธรรม สหรัฐอเมริกา พบว่า โรลส์-รอยซ์ และโรลส์-รอยซ์ เอ็นเนอร์จี ซิสเต็ม ว่าจ้างคนกลางซึ่งนำไปสู่การติดสินบนเจ้าหน้าที่ในปตท. มากกว่า 11 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงปี 2003-2013 หรือ 2546-2557 เงื่อนเวลาชัดเจนเช่นนี้ คงไม่ต้องบอกว่าหากจะพูดแบบคนหาเรื่องจะต้องเพ่งเล็งและกล่าวหาไปที่ใครพวกไหน
อย่างไรก็ตาม องค์กรที่ถูกกล่าวหาอย่างปตท. เทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บอกว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวแล้ว ประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงที่ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่างๆ ที่มีการใช้เครื่องยนต์ของบริษัท โรลส์-รอยซ์ มาก่อน เพื่อให้กระบวนการสืบสวนดำเนินไปด้วยความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล
พร้อมกับคำยืนยันที่ว่า คณะกรรมการฯกำลังเร่งรวบรวมข้อมูลการดำเนินการ กระบวนการและผู้รับผิดชอบการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าวในช่วงปี 2543-2556 รวมทั้งจะเชิญผู้แทนของบริษัทซีเมนส์ ซึ่งได้ซื้อกิจการของบริษัทโรลส์-รอยซ์ เมื่อปลายปี 2557 เพื่อมาสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องในเอกสารของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เพิ่มเติมด้วย โดยจะสรุปรายงานเบื้องต้นเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทภายในสัปดาห์นี้
ความจริงเรื่องดังว่า ถ้าไม่ตั้งป้อมหรือมีวาระซ่อนเร้น ก็ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ ไม่ต้องรีบปรักปรำ กล่าวหาใคร เพราะหากสิ่งที่พล่ามออกไปแล้วไม่ตรงกับสิ่งที่บริษัทต่างชาติไปสารภาพไว้ ถามต่อไปว่า คนที่พูดปาวๆ จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร ซึ่งก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอกจากหน้าด้านหน้าทนแล้วอ้างตัวเป็นพวกคนดีเหมือนที่ผ่านมา
สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 45 อย่างเป็นทางการ สำหรับ โดนัลด์ ทรัมป์ ท่ามกลางการประท้วงของอเมริกันชนบางส่วนที่ไม่ยอมรับท่านผู้นำ นอกจากนี้ สุนทรพจน์ที่ได้ยินได้ฟังกันแล้วเป็นประเด็นคือ “ซื้อสินค้าคนอเมริกัน จ้างงานคนอเมริกัน” ฟังดูแล้วนี่คือแนวทางแบบชาตินิยมสุดโต่ง คงเป็นโจทย์ใหญ่สำหรับผู้ที่ทำมาค้าขายกับอเมริกา จะต้องปรับตัวกันขนานใหญ่เลยทีเดียว
ถนนสายปรองดองดูจากท่าทีขานรับของพวกที่ได้ชื่อว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามผู้มีอำนาจ การเร่งเดินเกมนี้จึงไม่รู้ว่าคิดถูกหรือผิดและเป็นไปตามแผนหรือไม่ กลายเป็นว่าฝ่ายที่ค้านกลับเป็นพวกเดียวกันเอง ขณะที่กลุ่มเป็นกลางต่างเห็นดีเห็นงามเพราะอยากเห็นบ้านเมืองสงบ มาถึงตรงนี้ไม่มีใครคาดเดาหรือมองออกว่าปลายทางจะจบลงอย่างไร คงต้องไปดูอีกทีตอนเปิดเวทีรับฟังข้อเสนอแต่ละฝ่าย ใครจริงใจ ใครจริงจังและใครยังอยากจะหากินบนความขัดแย้งต่อไป