ได้เวลาเก็บ CPF “เทศกาลตรุษจีนหนุน”กำไรปี 60 แกร่งต่อ – อัพไซด์เกิน 30%

CPF ได้เวลาเก็บ “เทศกาลตรุษจีน” หนุน ชี้รายได้-กำไรปีนี้โตแกร่งต่อเนื่อง 6 โบรกฯแนะซื้อ ให้เป้าสูง 42 บาท พร้อมอัพไซด์เกิน 30%


ได้เวลาเก็บ CPF “เทศกาลตรุษจีน” หนุน  ชี้รายได้-กำไรปีนี้โตแกร่งต่อเนื่อง  6 โบรกฯแนะซื้อ ให้เป้าสูง 42 บาท พร้อมอัพไซด์เกิน 30%

ช่วงนี้ราคาหุ้นบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF สร้างฐานรอบใหม่ที่ระดับ 28 บาท คาดหุ้นน่าจะมีแรงซื้อเข้ามารอบใหม่อีกครั้ง เนื่องจากหุ้นมีปัจจัยพื้นฐานดี โดยคาดปีนี้รายได้-กำไรเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องจากปี 59 ที่น่าจะมีกำไรเติบโตโดดเด่น จากหลายธุรกิจที่ฟื้นตัวขึ้น ทั้งธุรกิจกุ้ง ธุรกิจไก่ ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบที่เป็นอาหารสัตว์ยังอยู่ระดับต่ำไม่ว่าจะเป็นข้าวโพด,กากถั่วเหลือง

นอกจากนี้คาดว่าการส่งออกไก่จะยังดีต่อเนื่องในปีนี้ จากที่หลายประเทศนำเข้าไก่สดไทยมากขึ้น ขณะที่ธุรกิจที่ไปลงทุนยังต่างประเทศก็มีแนวโน้มดีขึ้นด้วย อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า และในช่วงสั้น CPF ก็น่าจะได้ประโยชน์จากการไหว้เจ้าในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งจะทำให้ราคาไก่ปรับตัวขึ้นได้

ขณะเดียวกันแนวโน้มกำไรสุทธิปี 60 จะเติบโตต่อเนื่องจากปี 59 ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิในกรอบ15,173-17,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 58 ที่มีกำไรสุทธิ 11,059 ล้านบาท อีกทั้ง 6 โบรกฯดังยังประสานเสียงแนะซื้อ CPF โดยให้เป้าสูงถึง 42 บาท พร้อมอัพไซด์เกิน30%

 

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ CPF ในปีนี้ทั้งรายได้และกำไร จะเติบโตดีอย่างต่อเนื่องจากปี 59 แต่อัตรากำไรเติบโตไม่มากเท่ากับปี 59 ที่คาดว่ากำไรฟื้นตัวขึ้นมากจากปี 58 โดยผลกำไรในปีก่อนฟื้นตัวขึ้นจากหลายธุรกิจที่ดี ทั้งธุรกิจกุ้งที่ดีขึ้นมาก และธุรกิจไก่ที่ดีขึ้นด้วย ขณะที่กำไรในปี 60 จะเติบโตต่อเนื่องจากฐานที่สูงในปีที่ผ่านมา

ภาพรวมธุรกิจของ CPF ในปี 60 เห็นว่าธุรกิจกุ้งก็ดีต่อเนื่อง และยังสามารถทำกำไรได้มากขึ้น ส่วนธุรกิจไก่ ดีขึ้นบ้าง เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่เป็นอาหารสัตว์ยังอยู่ระดับต่ำ ทั้งข้าวโพด และกากถั่วเหลือง อีกทั้งการส่งออกไก่ก็ยังดีต่อเนื่อง จากการที่หลายประเทศนำเข้าไก่สดไทยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเกาหลีใต้, สิงคโปร์ นอกจากนี้ธุรกิจที่ไปลงทุนยังต่างประเทศก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นด้วย ส่วนช่วงสั้นก็คงจะได้ประโยชน์จากการไหว้เจ้าในช่วงเทศกาลตรุษจีน ทำให้ราคาไก่ยังปรับตัวขึ้น

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 60 ไว้ที่ 17,525 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 59 ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 15,173 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 58 ที่มีกำไรสุทธิ 11,059 ล้านบาท เมื่อพิจารณาเฉพาะกำไรปกติจะเห็นว่าในปี 59 ทำได้สูงถึง 12,000 ล้านบาท จากหลายธุรกิจที่ฟื้นตัว จากปี 58 ที่มีกำไรปกติกว่า 2,400 ล้านบาทเท่านั้น

 

บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ราคาหุ้น CPF ในปัจจุบันยังมี Upside เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่ 33 บาท/หุ้น และ CPF ยังได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าด้วยในแง่ของการส่งออก ส่วนระยะสั้นก็อาจได้รับอานิสงส์ราคาไก่ปรับตัวสูงขึ้นจากการไหว้เจ้าในช่วงเทศกาลตรุษจีน

แต่ทั้งนี้ ภาพการเติบโตของ CPF ในปี 60 ไม่โดดเด่นเท่ากับปีที่แล้ว เนื่องจากราคาสัตว์บก ทั้งราคาไก่ และราคาหมูมีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งราคาอาหารสัตว์ก็มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ด้วย ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจฟาร์มของ CPF ได้ แต่ธุรกิจกุ้งก็มีการฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 60 ไว้ที่ 16,800 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้ว ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 17,000 ล้านบาท หากมองที่กำไรปกติในปี 60 ก็น่าจะทรงตัวจากปี 59 ที่คาดว่าจะมีกำไรปกติ 11,600 ล้านบาท

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนะ”ซื้อ”หุ้น CPF ให้ราคาเป้าหมาย 42 บาท โดยคาดว่ากำไรจะทำสถิติสูงสุดในปี 60 เนื่องจากคาดว่ายอดขายจะโต 13% นำโดยยอดขายไก่และอาหารกุ้งที่เพิ่มขึ้น,การเติบโตของธุรกิจในต่างประเทศ โดยคาดว่าจะการส่งออกไก่จะโต 4-5% จากปีก่อน จากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในตลาดภูมิภาค

ทั้งนี้ ราคากุ้งที่สูงในปัจจุบันน่าจะหนุนให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งในประเทศเพิ่มปริมาณการผลิตขึ้น 15% จากปีก่อน ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายอาหารกุ้งของ CPF นอกจากนี้ต้นทุนอาหารสัตว์ที่ถูกลงเนื่องจากปริมาณผลผลิตถั่วเหลือง และข้าวโพดเพิ่มขึ้นจากภูมิภาคอากาศที่เป็นใจในปี 60 ก็น่าจะส่งผลดีต่อ CPF ด้วยเช่นกัน

แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลง 0.5% จากปีก่อน เหลือ 15.5% ซึ่งนับเป็นระดับปกติ เนื่องจากราคาหมูที่อ่อนตัวลงในไทยและเวียดนาม ทำให้คาดว่าผลประกอบการของ Bellisio Foods จะพลิกฟื้นในปี 60 หลังการปรับโครงสร้างเงินทุน

ทั้งนี้คาดว่าในปี 60 ภาระหนี้ที่มีดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น 4.4 หมื่นล้านบาท เป็น 3.1 แสนล้านบาท และต้นทุนทางการเงินจะเพิ่มขึ้น 25bps เป็น 4.25% แต่ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ เนื่องจากมีกระแสเงินสดที่แน่นอนจาก Bellisio Foods และธุรกิจกุ้งที่ดีขึ้นมาช่วย  

 

           

Back to top button