ความฝัน กับ ความจริงโมนิก้าและทีมงาน
*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อนมากมายก็จริง แต่ไม่ใช่เรื่องยากเกินกว่าจะเรียนรู้ และศึกษาพฤติกรรมของสิ่งที่เกิดขึ้น “โมนิก้า” ถึงรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อเห็นดัชนีทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง เพราะมันสื่อให้เห็นว่า รายการเขย่าเอาของเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง และเมื่อตบเอาของดีราคาถูกไม่ได้ ก็ถึงเวลาต้องไปไล่ซื้อหุ้นเข้ามาไว้ในพอร์ตไงล่ะค่ะ
*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อนมากมายก็จริง แต่ไม่ใช่เรื่องยากเกินกว่าจะเรียนรู้ และศึกษาพฤติกรรมของสิ่งที่เกิดขึ้น “โมนิก้า” ถึงรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อเห็นดัชนีทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง เพราะมันสื่อให้เห็นว่า รายการเขย่าเอาของเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง และเมื่อตบเอาของดีราคาถูกไม่ได้ ก็ถึงเวลาต้องไปไล่ซื้อหุ้นเข้ามาไว้ในพอร์ตไงล่ะค่ะ
*วานนี้ถึงเห็นดัชนีวิ่งขึ้นมา 1,570.79 จุด บวกไป 7.80 จุด ด้วยมูลค่า 4.47 หมื่นล้านบาท โดยกองทุนตัวแสบเข้ามาเก็บหุ้นไปกว่า 520 ล้านบาท ตามติดด้วยปอบผีฟ้าเคาะเบาๆ 100 ล้านบาท มันทำให้ความหวังที่จะได้เห็น 1,600 จุดมีเค้าลางอีกครั้งหนึ่ง “โมนิก้า” ถึงพยายามให้นักเล่นอย่าหยุดนิ่งอยู่กับที่เป็นอันขาด และต้องคิดไปพร้อมกับการเคลื่อนตัวของดัชนีในแต่ละวันนะคะ
*งานนี้ไม่ว่า ผลสำเร็จจะออกมาตามความวาดฝันหรือไม่ “โมนิก้า” มองเป็นความท้าทายครั้งสำคัญของตลาดหุ้นไทย เพราะมันจะสื่อให้ทุกคนเห็นว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีมนต์เสน่ห์ไหม? ซึ่งจะส่งผลโดยตรงกับการทะยานขึ้นของหุ้นบลูชิพ พร้อมกันนี้อย่าลืมว่า หุ้นตัวเดิมๆ ที่เคยเป็นทีเด็ดยังเป็นตัวเลือกที่ดีเสมอสำหรับพวกขาประจำ เพราะทำให้เพิ่มรอบเล่นได้อย่างเมามันนะซี
*โดยเฉพาะในรายของพ่อดอกมะลิ JAS กระชากขึ้นมาปิดที่ 9.10 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 2.80% ด้วยมูลค่า 1.53 พันล้านบาท มันเป็นสเต็ปการเคาะแบบเนิบๆ ซึ่งเคยเห็นกันมาแล้วในช่วงที่หุ้นดีดตัวขึ้นไปถึง 10 บาท “โมนิก้า” ถึงไม่ค่อยวอรี่กับการทะยานขึ้นของหุ้นตัวนี้สักเท่าไหร่ เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังในการทำให้หุ้นกลับมามีเสน่ห์ก็คือ แบงก์ไทยพาณิชย์ ซึ่งทุกคนรู้ดีว่า เกมหุ้นเที่ยวนี้ไม่มีถอยแน่นอนเจ้าค่ะ
*ส่วนที่ติดลมบนไปเสียแล้วในเวลานี้ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ PTTGC หลังทะยานขึ้นมาปิดที่ 67.50 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2.30% ด้วยมูลค่า 860 ล้านบาท ซึ่งเป็นการทะลุเพดานที่ขวางกั้นไว้เป็นเวลา 10 เดือน ย่อมทำให้เชื่อว่า น่าจะมียอดใหม่ที่สูงกว่าเดิมเกิดขึ้นอีก เพราะจะทำให้การฟอร์มตัวเที่ยวนี้เลิศสะแมนแตน..หากทำไม่ได้ บอกได้ทันทีว่า จบเกมนะคะ
*เหมือนกับในรายของ ALT ทำท่ากระเสาะกระแสะมาหลายรอบ แถมทุกครั้งที่ขึ้นมาแตะระดับ 9.50 บาทปุ๊บ ถัดจากนั้นหุ้นร่วงลงปั๊บ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิด 3 ครั้งในรอบ 2 เดือน จู่ๆ ครั้งนี้ดันวิ่งทะลุแบบรวดเร็ว ก่อนจะจบลงที่ระดับ 10 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 3.60% ด้วยมูลค่า 670 ล้านบาท มันเป็นไฟต์บังคับที่ทำให้หุ้นต้องทะยานต่อไปอีกระยะหนึ่ง..ถ้าทำไม่ได้ ก็จบเช่นกันพะยะคะ
*สำหรับในรายของของ LPN มันเป็นช็อตที่ทุกอย่างถูกปูมาเป็นอย่างดี ไม่มีอะไรขัดขวางการทะยานขึ้นของหุ้นมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ไม่มีเจ้าภาพเข้ามาดันหุ้นอย่างบูรณาการ หุ้นถึงแกว่งตัวผันผวนอย่างหนักในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่เมื่อดูจาก P/E 9 เท่า “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่หุ้นทะยานขึ้นมายืนอยู่ที่ 13.50 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 4.65% ด้วยมูลค่า 725 ล้านบาท เพราะถ้ามองจากกำไรต่อหุ้น 1.30 บาทเป็นฐานต่ำ โดยใช้คำนวณบน P/E 15 เท่า ราคาเหมาะสมที่ควรจะเป็นอยู่สูงถึง 19.50 บาทนะจะบอกให้
*ทางด้านความเชื่อที่ว่า ทุกอย่างจะดีขึ้นนั้น ก็ดูได้จากกรณีของ TTA กับRCL ทั้งคู่พุ่งกระฉูดขึ้นมาปิดที่ 10.70 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่า 700 ล้านบาท ส่วนรายหลังวิ่งขึ้นมายืนอยู่ที่ 6.90 บาท บวกไป 0.85 บาท หรือขึ้นไป 14% ด้วยมูลค่า 190 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของค่าระวางเรือหนุนเข้ามาตรงเวลาพอดี หุ้นถึงร้อนแรงเกินหน้าเกินตาชาวบ้าน แต่จะไปได้ไกลแค่ไหน ก็ต้องติดตามดูกันเอาเองนะคะ
*ส่วนคู่หูดูโอที่ได้ชื่อว่า โอเว่อร์แอ็คติ้งระดับต้นๆ ของประเทศ “โมนิก้า” กลับมองไปที่ SIM กับ OTO ก่อนใครเพื่อนอีกเช่นกัน เพราะการทะยานขึ้นมาปิดที่ 1.18 บาท บวกไป 0.21 บาท หรือขึ้นไป 21.65% ด้วยมูลค่า 136 ล้านบาท ขณะที่รายหลังวิ่งขึ้นมาปิดที่ 6.35 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 14.40% ด้วยมูลค่า 156 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่ไม่สวยงามเอาเสียเลย เพราะมันเคยเกิดเหตุการณ์ล่มปากอ่าวให้เห็นมาแล้วนะซี
*อีกหนึ่งรายที่ดูสภาพแล้วคงไปไม่ไหวแล้วแน่ๆ บรรดาแมงเม่าต่างลงความเห็นเหมือนกันว่า CHOW หลังมีเรื่องราวลึกลับซับซ้อนเกิดขึ้นเยอะแยะไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนี้สินล้นตัว การกู้ยืมระหว่างแม่กับลูก โปรเจ็กต์โรงไฟฟ้าเริ่มขาดสภาพคล่อง แบงก์ปล่อยกู้เริ่มเกิดอาการหวั่นใจ “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งกรณีที่ต้องตามไปล้วงเหมือนกับ บลจ.โซลาริส ก่อนหน้านี้ไง..ล่าสุดเห็นหุ้นยืนแบบแกว่งๆ 6.65 บาท ชักไม่สวยแล้วเจ้าค่ะ
*สำหรับรายที่ยังมะรุมมะตุ้มไม่เลิกสักทียังเป็นในรายของ IFEC หลังมีการเล่นเกมใต้ดินกันแบบน่าเกลียด จนหน่วยงานที่กำกับอย่าง ก.ล.ต. ต้องออกมาเชิญชวนให้แมงเม่าไปร่วมประชุมวิสามัญ 25 ม.ค. ที่สโมสรกองทัพบก “โมนิก้า” ขออย่างเดียวว่า คงไม่มีชายชุดดำมาคุมประตูทางเข้าเหมือนกรณีของ NMG และขอให้เลิกพฤติกรรมเอาผู้ถือหุ้นรายย่อยเป็นตัวประกันสักทีเถอะ เพราะมันถึงเวลาที่ต้องเล่นกันแบบแฟร์ๆ เสียที..น้องโมขอร้อง..อิอิอิ