มองหน้า..แลหลังโมนิก้าและทีมงาน
*ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา มีแต่คนซักถามเกี่ยวกับเรื่องสินบนโรลส์-รอยซ์แบบออกรสออกชาติ จนทำให้น้องโมต้องออกตัวแรงๆ กลับไปหลายรอบด้วยกัน เพราะแสดงให้เห็นว่า คนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจพฤติกรรมของหุ้นไทย จึงมโนกันไปเองว่า เรื่องดังกล่าวจะทำให้หุ้นร่วงลงอย่างกับนกปีกหัก พอเอาเข้าจริงๆ กลับเป็นตรงกันข้ามกับสิ่งที่คาดคิดอย่างลิบลับ เลยเกิดอาการกระแดะรับไม่ได้นั้น..เดี๊ยนอยากจะร้องกรี๊ด..ดดด!
*ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา มีแต่คนซักถามเกี่ยวกับเรื่องสินบนโรลส์-รอยซ์แบบออกรสออกชาติ จนทำให้น้องโมต้องออกตัวแรงๆ กลับไปหลายรอบด้วยกัน เพราะแสดงให้เห็นว่า คนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจพฤติกรรมของหุ้นไทย จึงมโนกันไปเองว่า เรื่องดังกล่าวจะทำให้หุ้นร่วงลงอย่างกับนกปีกหัก พอเอาเข้าจริงๆ กลับเป็นตรงกันข้ามกับสิ่งที่คาดคิดอย่างลิบลับ เลยเกิดอาการกระแดะรับไม่ได้นั้น..เดี๊ยนอยากจะร้องกรี๊ด..ดดด!
*นั่นหมายความว่า บางคนยังยึดติดอยู่กับเรื่องราวในอดีตมากกว่ามองข้างหน้า จึงไม่เข้าใจโมเมนตัมของหุ้นที่ทะยานแบบไม่เหลียวหลัง พร้อมกับคิดเข้าข้างตัวเองว่า เรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ แต่ทำไมนักเล่นถึงไล่ซื้อหุ้นกันอย่างสนุกสนาน “โมนิก้า” ถึงขอตอบแบบไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้นว่า รายการแฉที่เกิดขึ้นบ่อยๆ จะกลายเป็นตัวแปรที่ทำให้บริษัทจดทะเบียนของไทยโปร่งใสขึ้นในอนาคตเจ้าค่ะ
*เนื่องจากเป็นการปิดช่องว่างในการแสวงหาประโยชน์ของผู้บริหาร และนักการเมือง ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำกำไรในอนาคตดีขึ้นไปอีก “โมนิก้า” ถึงไม่อยากเสียเวลาไปกับเรื่องที่จับมือใครดมไม่ได้ หลังเห็นตัวละครที่เกี่ยวข้องออกมาปฏิเสธกันพัลวัน อีกทั้งระบบตรวจสอบของไทยก็สุดแสนจะเชื่องช้า (หอยทากยังคลานได้เร็วกว่า) จึงไม่ควรจมปลักอยู่กับการเล่นปาหี่นะคะ
*เหมือนกับกรณีของ “เบสท์ริน” ซึ่งเป็นผู้ชนะการประมูลรถเมล์ NGV 489 แต่มีการนำเข้าที่สร้างความสงสัยให้กับคนทั้งประเทศ แต่หน่วยงานที่รับผิดชอบอย่าง ขสมก. ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ผอ.สุระชัย กลับออกตัวแรงแซงทางโค้งจนเกือบชนเสาไฟฟ้าตายว่า ไม่เห็นกรมศุลกากรแสดงหลักฐานให้เห็นสักที จึงไม่มีเหตุผลต้องไปยับยั้งการส่งมอบรถเมล์แบบนี้..บ้องตื้นเกินไปหน่อยไหมค่ะ
*ประเด็นเหล่านี้เป็นเรื่องที่ “โมนิก้า” พยายามย้ำกับสังคมว่า ในเมื่อของมันเห็นกันว่า สีดำขนาดนี้..ยังทำให้เป็นสีขาวแบบหน้าด้านๆ วันนี้ถึงหวังอะไรไม่ได้กับรัฐบาลทหารยุคปราบโกง เพราะทั้งหมดเป็นเพียงเกมหาผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเอง จึงไม่ต้องแปลกใจที่ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,578.82 จุด บวกไป 8.03 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 6.22 หมื่นล้านบาท เพราะกำลังสื่อให้เห็นว่า ตลาดหุ้นไทยพยายามจะเป็นอิสระจากอิทธิพลทางการเมืองนะคะ
*วานนี้ถึงเห็นหุ้น PTT กระชากสวนทุกความคิดขึ้นมาปิดที่ 408 บาท บวกไป 19 บาท หรือขึ้นไป 4.90% ด้วยมูลค่า 5.14 พันล้านบาท พร้อมกับทำราคาสูงสุดในรอบ 9 ปี 3 เดือน “โมนิก้า”ถือเป็นเรื่องที่แยกขาดจากกันได้อย่างชัดเจน และถ้ามองจากแนวโน้มกำไรต่อหุ้นปี 59 ขั้นต่ำอยู่ที่ 30 บาท เมื่อคิดบน P/E 15 เท่าได้ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 450 บาทเชียวน่าตัวเอง!
*ส่วนหุ้นอื้อฉาวอีกหนึ่งตัวอย่างเจ้าจำปี THAI เดี๊ยนกลับมองเป็นแดนสนธยาที่ยากจะเข้าไปตรวจสอบ หรือแม้จะตรวจสอบได้จริงๆ ก็ยากจะหาตัวคนผิดมาลงโทษ บวกกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นยุคของผีทักษิณครองอำนาจเบ็ดเสร็จ คงสืบหาข้อมูลยากพอกับงมเข็มในทะเล ขณะที่ราคาหุ้นในกระดานขยับขึ้นมาปิดที่ 23.50 บาท บวกไป 0.40 บาท ด้วยมูลค่า 1 พันล้านบาท มันเป็นจังหวะ follow buy แบบไม่ต้องลังเลใจเจ้าค่ะ
*สำหรับรายที่ต้องคิดหนักในเที่ยวนี้กลายเป็น TPIPL ดันเกิดเอ็กซิเดนขึ้นกับบริษัทลูก TPIPP ที่ทำโรงไฟฟ้าอยู่ที่สระบุรีขนาด 90 เมกะวัตต์ ไม่ผ่านเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ความฝันที่จะได้เห็นหุ้นลูกเข้าตลาดเลยเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด ขณะที่หุ้นแม่ก็อดเชิดฉายบนพรมแดงไปพร้อมกัน วานนี้ถึงเห็นหุ้นรูดลงมาปิดที่ 2.44 บาท ลบไป 0.32 บาท หรือลงไป 11.60% ด้วยมูลค่า 4.21 พันล้านบาทไงล่ะจ๊ะ
*ส่วนรายที่กำลังรูดม่าน และเริ่มเก็บฉาก “โมนิก้า” คงพุ่งเป้าไปที่หุ้น APCS หลังโดนถล่มเทขายอย่างหนักหน่วง จนหุ้นร่วงลงมาปิดที่ 8 บาท ลบไป 0.85บาท หรือลงไป 9.60% ด้วยมูลค่า 517 ล้านบาท มันเป็นผลมาจากไม่มีอะไรในกอไผ่ตั้งแต่เริ่มต้น พร้อมกับมีการบิวด์ตัวเลขรายได้จากการสร้างโรงไฟฟ้าอุตสาหกรรมมูลค่า 195 ล้านบาทเว่อร์เกินไป พอหลายคนเริ่มรู้แกวว่า อาจไม่เวิร์ค ถึงเปิดตูดกันเป็นแถวไงล่ะค่ะ
*เม้าท์ถึงเรื่องโหดๆ ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขออนุญาตแอบชำเลืองมองสถานการณ์ของ IFEC สักนิดหนึ่ง เพราะข่าวล่าสุดยืนยันตรงกันว่า คนใหม่จะขายโรงไฟฟ้า แต่ยังจะเก็บโรงแรมไว้ต่อยอด พอเดี๊ยนได้ฟังเพียงแค่นี้ก็เกิดอาการหูผึ่ง และเชื่อว่า วันนี้คงดูไม่จืดอย่างแน่นอน และคงมีคนจากทางการไปสังเกตการณ์อีกครั้ง เพราะศึกชิงอำนาจครั้งนี้มันไม่มีทางจบลงแบบแฮปปี้เอนดิ้งนะซี
*เม้าท์ถึงเรื่องหนักๆ มาเยอะพอสมควรแล้ว “โมนิก้า” ขอเปลี่ยนอิริยาบถไปดูหุ้นที่เคาะมันๆ เพื่อเป็นทางเลือกให้แฟนคลับขาลุยกันสักหน่อย และตัวที่น่าจะเหมาะกับการเข้าทำเร็วในเที่ยวนี้ต้องยกให้ TLUXE หลังทะยานขึ้นมาปิดที่ 11.30 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 8.65% ด้วยมูลค่า 140 ล้านบาท มันเป็นช็อตสำคัญที่สื่อให้รู้ว่า ถ้าคิดจะเล่นต้องลุยทันทีค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ FN อาจเห็นเล่นบทโหดจนเกินงามไปบ้าง แต่นั่นเป็นสีสันของการเล่นหุ้นน้องใหม่ จึงต้องทุบสั่งสอนกันเป็นธรรมดา งานนี้ถึงเห็นหุ้นร่วงจากจุดสูงสุด 8.65 บาท ไหลลงมาเรื่อยๆ จนลงมาทำจุดต่ำสุด 8.10 บาท ก่อนจะเด้งกลับไปปิดที่ 8.40 บาท ลบไป 0.20 บาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องทำความเข้าใจกันเอาเอง เพราะน้องโมก็ไม่เข้าใจเหมือนว่า ทำไมต้องสวมวิญญาณพิศาล..ตบจูบ..ตบจูบ บ่อยเหลือเกินเจ้าค่ะ