ไม่โปร่งใสคืนสนองทายท้าวิชามาร

จู่ๆ คดีรองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาขโมยภาพวาด กลับบานปลายให้คนวิจารณ์รัฐบาล ทั้งที่เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับงาน แต่ชาวบ้านงุนงงสิครับ ว่าเหตุใดสถานกงสุลจึงไปช่วยวิ่งเต้นเจรจา จนเจ้าทุกข์ไม่เอาความ อัยการญี่ปุ่นปล่อยกลับบ้านได้ ทั้งที่เป็นข่าวใหญ่ขายขี้หน้าเมืองไทยเมืองพุทธ นี่ถ้าเป็นตาสีตาสาอาซิ้มอาแปะ ขโมยของติดคุกบ้าง สถานกงสุลจะช่วยวิ่งเต้นไหม


 ใบตองแห้ง

 

จู่ๆ คดีรองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาขโมยภาพวาด กลับบานปลายให้คนวิจารณ์รัฐบาล ทั้งที่เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับงาน แต่ชาวบ้านงุนงงสิครับ ว่าเหตุใดสถานกงสุลจึงไปช่วยวิ่งเต้นเจรจา จนเจ้าทุกข์ไม่เอาความ อัยการญี่ปุ่นปล่อยกลับบ้านได้ ทั้งที่เป็นข่าวใหญ่ขายขี้หน้าเมืองไทยเมืองพุทธ นี่ถ้าเป็นตาสีตาสาอาซิ้มอาแปะ ขโมยของติดคุกบ้าง สถานกงสุลจะช่วยวิ่งเต้นไหม

ไม่เท่านั้น ผู้หลักผู้ใหญ่ในกระทรวงยังกางปีกป้อง ว่าสื่อละเมิดสิทธิ สังคมอย่าซ้ำเติม ฯลฯ รองนายกฯ วิษณุ เครืองาม ก็วอนสังคมให้ความเป็นธรรม ใช่ครับ อารมณ์สังคม “ลูกขุนออนไลน์” มักขย่มเกินเลย แต่ทีคนอื่นโดนมั่ง ท่านให้ความเป็นธรรมหรือเปล่า หรือให้เฉพาะคนระดับสูง คนมีตำแหน่งเท่านั้น

พูดอย่างนี้ไม่ใช่คนไทยใจร้าย อยากให้รองอธิบดีติดคุกหัวโต เห็นแต่ภาพชั่วเลว ไม่เห็นความดีที่ทำมาตลอดชีวิตราชการ (มองอย่างให้ความเป็นธรรม ก็อาจเป็นโรค Kleptomania) แต่มันมีคำถามไง ว่าทีตายายเก็บเห็ด คนแก่ตัดไม้พะยูง ทำไมติดคุก

กรณีรองอธิบดี จึงเป็นยอดภูเขาน้ำแข็ง ของความไม่พอใจอภิสิทธิ์ชน ที่คนไทยต้องทนฟังคำพูดแบบ “ใครๆ ก็ทำกัน”

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา กระแสสื่อท่วมท้นด้วยข่าวสินบนโรลส์-รอยส์ ซึ่งดูเหมือนนักการเมืองแย่ ถูกแฉเป็นฉากๆ ไม่ว่าพรรคทักษิณ พรรคไล่ทักษิณ แต่บังเอิญ จุดเริ่มต้นอยู่ในยุค รสช. รัฐประหาร 2534 ยึดอำนาจรัฐบาล “บุฟเฟต์ คาบิเนต” ที่ตอนนั้นว่าโกงกันเหลือเกิน ที่ไหนได้ 25 ปีผ่านไป น้ำลดตอผุด

สินบนโรลส์-รอยส์ยังตามมาด้วยคำถาม แล้ว GT200 ล่ะ รู้ไหม เอเยนต์ GT200 เป็นรายเดียวกับเครื่องกริพเพนที่เพิ่งตก

สินบนโรลส์-รอยส์ทำให้คนไทยตระหนักว่าคนโกงไม่ใช่แค่นักการเมือง พอเหลียวกลับมาก็เห็นกองทัพบกเพิ่งซื้อรถถังจีน เพราะรถถังยูเครน 49 คันส่งมอบได้แค่ 10 คัน กองทัพเรือก็จะซื้อเรือดำน้ำจีน ไม่แยแสสังคมที่เคยคัดค้านเซ็งแซ่

ส่งท้ายสัปดาห์ ประเทศไทยถูกจัดอันดับโปร่งใสตกจาก 76 เป็น 101 คะแนนลดจาก 38 เหลือ 35 โดยคนไทยยังได้เฮฮากับเลขาธิการ ป.ป.ช.  ที่โวยวายว่า ดัชนีโปร่งใสใช้เกณฑ์ประชาธิปไตยวัดด้วยเหรอ

อ้าว ไม่ใช้เกณฑ์ประชาธิปไตย แล้วจะให้ใช้เกณฑ์เผด็จการวัด? เสรีภาพประชาธิปไตยคือหลักประกันการตรวจสอบ ถ้าตรวจสอบไม่ได้ จะโปร่งใสได้ไง องค์กรเพื่อความโปร่งใสชี้ชัด ว่ามีการใช้อำนาจจำกัดสิทธิ ประชามติปิดปาก ร่างรัฐธรรมนูญเพิ่มอำนาจกองทัพ ฯลฯ จะให้เขาเชื่อว่าโปร่งใสได้ไง

ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลอยู่ไม่ได้ กลัวกระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน กอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีชี้แจง ดัชนีโปร่งใสรวมมาจาก 8 ดัชนี มี 4 ดัชนีเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลง คือ IMD, PERC, WEF, WJP บางตัวเพิ่มบางตัวลด ไม่น่าตกอกตกใจ อย่าง WJP ภาพลักษณ์การใช้ตำแหน่งหน้าที่หาประโยชน์ โดดจาก 26 เป็น 37 คะแนนด้วยซ้ำ

แต่ท่านลืมหรือแกล้งลืมไม่ทราบ ไม่พูดถึงดัชนี GI ซึ่งใช้ข้อมูลธนาคารโลก ประเมินปัจจัยเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจที่ต้องเกี่ยวกับคอร์รัปชั่น การแทรกแซงของเจ้าหน้าที่รัฐ การให้สินบนและสิ่งตอบแทนสำหรับสัญญาและใบอนุญาต คะแนนตกจาก 42 เหลือ 22 คะแนน

ว่าที่จริง ยุค “ประชารัฐ” ที่กองทัพสามัคคีกลุ่มทุนใหญ่นี้โปร่งใสแค่ไหน คนไทยเองก็ตอบได้ ไม่ต้องพึ่งฝรั่งให้ยุ่งยากหรอก

Back to top button