FSMART พันธมารรุมตอม

แฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

 

สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้นของ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART ร่วงจากระดับ 22.00 บาทมาอยู่ที่เกือบหลุด 18.00 บาทเล็กน้อยในเวลาแค่ 4 วันทำการ ไม่มีทีท่าจะรีบาวด์เอาเสียเลย… แรงขายกระหน่ำไม่สนใจว่า อีกา (ในสัญญาณทางเทคนิค) จะมีกี่ตัว

เอาเป็นว่า ขายไปเรื่อยๆ… จากหุ้นเคยไล่ราคา มาเป็นหุ้นต้องทิ้ง

เหตุปัจจัยสำคัญมาจาก มีการประเมินว่า การแข่งขันในอุตสาหกรรมตู้เติมเงินอิเล็กทรอนิกส์มือถืออย่าง “ตู้บุญเติม” เคยถูกถือว่าเป็นตลาดล่าง ที่เคยถูกเมินมานาน เริ่มเติบใหญ่ขึ้นมา หลังจากมีกระแสข่าวว่า บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) จะรุกธุรกิจนี้

โดยอาศัยเครือข่ายเริ่มต้น ผ่านคอนวีเนียนสโตร์ดังเครือเดียวกันกับซีพี จะเริ่มต้นตั้งตู้ทรูมันนี่ 4,000 ตู้ แม้จะอ้างว่าเพื่อบริการลูกค้าของทรูฯ โดยเฉพาะ … แต่ข้ออ้างแบบสุนัขจิ้งจอกแบบนี้ ใครจะเซื่องๆ เชื่อ บทเรียนเรื่อง ทำของขายแข่งจนซัพพลายเออร์เจ๊งไปน่ะ… มีตัวอย่างให้เห็นนักต่อนัก งานนี้ คิดกันแค่สามัญสำนึกไม่ต้องมีข้อมูลอะไรก็ควรเชื่อได้เลยว่า น่าจะต้องขายหุ้น FSMART ออกไปก่อนตามสูตร “โชคดีที่ตายก่อน”

งานนี้ คนโตตัวเล็ก จอมละเมียดที่เก็บรายละเอียดทุกเม็ดอย่าง นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ FSMART ทนเห็นราคาหุ้นตกไม่ไหว (ตามประสาคนมั่นใจตัวเองสูง) ถึงกับออกมาด่วนแถลงข่าวตามสไตล์ผู้บริหารยุค 4.0 ว่า แม้เบื้องต้นเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก เพราะ FSMART เป็นพันธมิตรกับ TRUE มาโดยตลอด และกลยุทธ์ของ TRUE อาจขยายไปยังพื้นที่ที่ไม่ตรงกับตู้บุญเติม

พูดปลอบใจตัวเองแบบปากกล้าขาสั่น (พอเป็นพิธี) อย่างนี้ เพราะหากคิดเป็นสัดส่วนแล้ว ตู้บุญเติมที่วางอยู่หน้าร้าน 7-Eleven จำนวน 8,000 ตู้เศษ นั้นคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 9% เศษเท่านั้นเอง ที่สำคัญ ระยะแรกตู้ของ ทรูมันนี่ ก็คงไม่ผลีผลามมาขับไล่ตู้บุญเติมให้ถูกด่าเป็น “อันธพาลเส้นใหญ่” ซ้ำๆ ซากๆ อีก

นายสมชัย เล่นละครสมบทบาท บอกว่าการเข้ามาของตู้ทรู มันนี่ ที่หน้าร้าน 7-Eleven นั้น ทาง FSMART ยอมรับว่ากังวลพอสมควรจากการมีคู่แข่งเพิ่ม แม้ว่าจะยังได้รับผลในสัดส่วนค่อนข้างน้อย ไม่น่ามีนัยสำคัญ

อาจจะถือเคล็ดว่า ยิ่งมีการแข่งขัน FSMART ยิ่งโตแรงกว่าเดิม..ซึ่งก็ไม่ผิด เรื่องตู้เติมเงินผ่านมือถือนั้น ไม่ใช่ธุรกิจเก่าแก่ และ FSMART ก็ไม่ได้เป็นต้นตำรับ แต่อาศัยโมเดลธุรกิจที่ถูกต้อง เหมาะกับตลาดล่างที่ถูกรายใหญ่มองข้าม… หากินกับคนรากหญ้า ที่ต้องเติมเงินบ่อยๆ ทีละนิดทีละน้อย

ตู้บุญเติมที่ทำให้หุ้นส่วนคือร้านค้าย่อยไม่ต้องลงทุนฮาร์ดแวร์เอง กลายเป็นธุรกิจที่โตวันโตคืนจากเคยขาดทุนยุคแรกหนักหนาสาหัส มาเลยจุดคุ้มทุนแล้วมีกำไร แถมเมื่อเข้าระดมทุนในตลาดเพียงไม่กี่ปีเพื่อลดต้นทุนทางการเงิน ก็ทำกำไรสุทธิโตทุกไตรมาส แต่ละปีกำไรสุทธิโตกว่า 50% ต่อเนื่อง

ราคาหุ้นเมื่อปี 2557 ที่ระดับ 7-8 บาท ที่ไม่เคยปรับฐานใหญ่ แต่มีพักฐานเล็ก แล้วเดินหน้าไปต่อ จึงวิ่งมาเหนือ 22 บาทเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ ไม่ได้มาเพราะบังเอิญหรือใครบางคนออกแรงดันแน่นอน แต่มาจากวิสัยทัศน์ของ “เสี่ยสอง” นายสมชัย ที่มีแบ็กอัพชั้นยอดอย่าง “เสี่ยเต่า” นายพงศ์ชัย อมตานนท์ ผู้ถือหุ้นใหญ่และซีอีโอใหญ่แห่ง บริษัทแม่ บริษัท ฟอร์ธ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FORTH ที่ราคาหุ้นต่ำเตี้ยอยู่ห่างๆ ไม่เห็นฝุ่นแถวๆ 7.00 บาท

เพื่อกันเหนียวเอาไว้ก่อน และปลอบขวัญรายย่อยที่กำลังตื่นตระหนกให้คลายจากอาการ “กระต่ายตื่นตูม” นายสมชัย ระบุว่า ทางออกในการลดความเสียหายจากการแข่งขัน รวมทั้งการเข้ามาของตู้ทรูมันนี่ คือ มองหาช่องทางการขยายการตั้งตู้บุญเติมในสถานที่อื่นๆ มากขึ้น เช่น สถานีบริการน้ำมัน หรือห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์สโตร์ เป็นต้น โดยยังมั่นใจจะยังครองมาร์เก็ตแชร์ไว้ที่อันดับ 1 ต่อไปได้ ตลอดจนการจัดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

เพื่อให้เห็นรูปธรรม นายสมชัยงัดเอา “เหล้าเก่า” มาใส่ขวดใหม่ ย้ำว่า ยังคงเน้นความเป็นไปได้ของแผนระยะ 3 ปี (60-62)  ที่เคยแถลงไว้แล้วเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อนมาเล่าใหม่ ว่าจะมีตู้เติมเงิน 170,000 ตู้ และมียอดเติมเงินถึง 4 หมื่นล้านบาทต่อปี โดยปี 2560 จะมีเป้ายอดเติมเงินที่ 30,000 ล้านบาทต่อปี จากจำนวนตู้ 120,000 ตู้ ตามแนวโน้มการเติบโตของพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เน้นความสะดวก สบาย และรวดเร็วเป็นหลัก

ทั้งนี้ FSMART จะยังอาศัย รูปแบบโมเดลธุรกิจหารายได้ 5 ช่องทาง หรือ Digital Retail Channel ตามแผนเดิม ทุกประการ… มุ่งมั่นไม่สั่นคลอน แม้มีมรสุมขวางหน้า เพราะเคยทำสำเร็จมาแล้วจากการเอาชนะคำปรามาสทั้งหลายเมื่อหลายปีก่อน

งานนั้น มือขวาคนเก่งของนายสมชัย อย่างนายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ก็สำทับเพิ่มเติมว่า จากนี้ไป สัดส่วนยอดเติมเงินของตู้บุญเติมจะมีความหลากหลายมากขึ้น ทำให้ที่มาของรายได้เปลี่ยนแปลง โดยยอดเติมเงินมือถือจะลดลงอยู่ที่ 90% จากปีก่อนที่มีกว่า 95% แต่สัดส่วนการเติมเงินอื่นๆ เช่น บริการโอนเงิน บริการเครื่องชั่งน้ำหนัก และ บริการใหม่ๆ ภายในตู้ที่เพิ่มขึ้น

เรียกว่า ไม่ได้โตเฉพาะปริมาณตู้อย่างเดียว แต่รายได้เติมเงินผ่านแต่ละตู้จะเพิ่มขึ้น เป็นการเพิ่มเชิงคุณภาพ คู่แข่งจะไล่ล่าแค่ไหน สมชัยก็พร้อมหนีห่างเสมอ….Catch Me If You Can เหมือนชื่อภาพยนตร์ฮอลลีวูดยังไงก็ยังงั้น มิน่า… ราคาหุ้น FSMART ที่ทำท่าหลุดแนวรับล่างสุด ถึงมีแรงซื้อกลับมา ดันราคามาปิดท้ายตลาดเมื่อวันศุกร์ ที่แนวรับพอดี 18.10 บาท เฉียดฉิว…เฉียดฉิว

วันนี้ คำปลอบใจและยืนยันของเสี่ยสอง จะขลังเหมือนตอน “ทำดี ไม่มีกล่อง” กับสมาคมฟุตบอลฯ เมื่อกลางปี 2559 ที่ทำเอาราคาหุ้นร่วงเป็นนกปีกหักเหมือนคราวนี้…… แล้ววิ่งสูงกว่าเดิมชนิดซื้อไม่ทัน จะได้พิสูจน์กัน ถ้าเหมือนเดิม คนที่ขายหมูไปก่อน คงต้อง “ตีอกชกหัว” ตัวเอง…เสียค่าโง่อีกแล้ว เพราะแค่ดูงบไตรมาสสี่ และงวดปีที่จะออก ก็เพียงพอจะดันราคากลับไปเหนือที่เดิมไม่ยาก ในฐานะ “หุ้นต้องไล่ล่า”

บุญเติมซะอย่าง… จากสินค้าคนเมิน ในอดีต มาเป็นสินค้าเนื้อหอม ที่พันธมารเริ่มเข้ามารุมตอมแย่งเค้ก ในวันนี้ …..ซะแล้วววววว

“อิ อิ อิ”