ASP ตั้งเป้าปี 60 รายได้โต 15% เดินหน้าเพิ่มลูกค้าใหม่ 5 พันบัญชี
ASP ตั้งเป้าปี 60 รายได้โต 15%-รักษามาร์เก็ตแชร์ 3% เดินหน้าเพิ่มลูกค้าใหม่ 5 พันบัญชี โดยเน้นขยายกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่
นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ASP เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 60 จะเติบโตได้ 15% โดยกำหนดกลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจ 4 กลยุทธ์ 1.ส่งเสริมการเรียนรู้ยกระดับความรู้ให้บุคลากรภายใน รวมถึงลูกค้าและนักลงทุนทั่วไป 2.กระจายรายได้บริหารความเสี่ยง โดยการสร้างซินเนอร์ยี่ระหว่างธุรกิจในกลุ่ม เน้น Cross-Seling มากขึ้น 3. พัฒนาเทคโนโลยีด้านการลงทุน เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างของกลุ่มลูกค้า 4.ยกระดับการสื่อสารกับลูกค้า ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียมากขึ้น
โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารักษาระดับส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มธุรกิจนายหน้าซื้อขายหุ้นไว้ที่ราว 3% หรืออันดับที่ 14 ของตลาด และมีค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (ค่าคอมมิชชั่น) ที่ระดับ 0.20% โดยคาดว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันจะสูงกว่าปีก่อน ในขณะเดียวกันตั้งเป้าบัญชีเปิดใหม่ในปีนี้ที่ 5 พันบัญชี จากปีก่อนที่มีจำนวนบัญชีทั้งหมด 5 หมื่นบัญชี ซึ่งเป็นจำนวนบัญชีที่มีความเคลื่อนไหวสม่ำเสมอ (แอคทีฟ) สัดส่วนราว 25% โดยจะเน้นขยายกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ Gen Y ที่ปัจจุบันมีความสนใจเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น
ส่วนงานด้านธุรกิจวาณิชธนกิจ (IB) ขณะนี้มีลูกค้า 58 ราย แบ่งเป็นงานเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) ในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ราว 29 ราย โดยคาดว่าในปีนี้จะสามารถเสนอขายหุ้น IPO ได้ทั้งหมด 4 บริษัท ซึ่งขณะนี้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ให้แก่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปแล้ว 1 บริษัท เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจในกลุ่มการแพทย์ ส่วนที่เหลืออีก 29 รายมีทั้งงานที่ปรึกษาฯ การออกตราสารทางการเงินต่างๆ และการควบรวมกิจการ (M&A)
สำหรับหุ้นกู้ของ บริษัทอินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC ที่บริษัทได้ร่วมเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายในวงเงินส่วนหนึ่งราว 1.5 พันล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือน พ.ย.60 นั้น บริษัทจะต้องรอความชัดเจนของคณะกรรมการชุดใหม่ที่คาดว่าจะมีการแต่งตั้งในการประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 14 ก.พ.นี้เสียก่อน จึงจะเข้าไปเจรจาเพื่อหาแนวทางความชัดเจนต่อไป
“ในช่วงที่ผ่านมาเราออกตั้ว B/E เป็นอันดับ 1 ของตลาด ซึ่งเรามีการตรวจสอบคุณภาพค่อนข้างสูง ซึ่งอยู่ในระดับ 98% ถือว่ามีปัญหาน้อยมากและที่ผ่านมาความต้องการของลูกค้าเราค่อนข้างมากอยู่ เราจึงไม่ได้กังวลว่าจะเป็นผลกระทบต่อตลาดนี้ ไม่อยากให้นักลงทุนไปมองว่าเสียแค่นิดเดียวจะทำให้เสียทั้งตลาด”นายก้องเกียรติ กล่าว
อนึ่ง IFEC ออกหุ้นกู้มูลค่าไม่เกิน 3,000 ล้านบาท แบ่งเสนอขาย 2,500 ล้านบาท และหุ้นกู้สำรอง 500 ล้านบาท อายุ 2 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2560 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.40% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ วันที่ 2-4 พ.ย.58 ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย บล.เอเชีย พลัส และ บล.เคที ซีมิโก้