SET บ่ายแกว่งตัว ติดตามประชุมเฟดคืนนี้โบรกฯ แนะ “ซื้อ” TMB ชูเป้า 2.56 บาท

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (1 ก.พ.) แกว่งแคบในแดนบวกรอดูผลประชุมเฟดคืนนี้ อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังได้รับแรงซื้อกลับจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน-แบงก์ หลังราคาร่วงแรงก่อนหน้านี้ เชื่อซื้อเพื่อรอปันผล ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งทั้งบวก-ลบ บ่ายนี้ตลาดฯคงแกว่งคล้ายช่วงเช้าและคาดยนังคงอยู่ในแดนบวกได้ ให้แนวรับ 1,575 แนวต้าน 1,585 จุด

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ แต่ยังยืนในแดนบวก ซึ่งต่างก็รอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในคืนนี้ อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังได้รับแรงซื้อกลับจากหุ้นในกลุ่มพลังงานและกลุ่มแบงก์ หลังจากที่ราคาได้ปรับตัวลงไปแรงในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งมองว่าเป็นการซื้อเพื่อรอปันผล

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมให้ติดตามตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯที่จะประกาศในวันพรุ่งนี้ด้วย

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะเคลื่อนไหวคล้ายกับช่วงเช้า โดยดัชนีฯคงจะแกว่งตัวแคบในแดนบวกได้ พร้อมให้แนวรับ 1,575 จุด ส่วนแนวต้าน 1,585 จุด

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (1 ก.พ.) SET หากสามารถยืนเหนือ 1,580 จุดได้ ก็จะยังไม่สูญเสีย momentum และมีโอกาสปรับตัวขึ้นกลับไปเหนือ 1,600 จุด และแนะนำ “Trading” กลุ่มหุ้นที่มี momentum แข็งแรงต่อเนื่อง และมีเรื่องราวที่ดี เช่น AOT GLOBAL TMB WHA โดยมี Trailing stop ถัดไปที่เส้นค่าเฉลี่ย 1,567 จุด อย่างไรก็ดี ในช่วงสั้น คาด SET จะแกว่งตัวในกรอบแคบต่อเนื่อง จากการที่นักลงทุนรอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) คืนนี้ เราคาด Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.75% ต่อไป ขณะที่รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯคืนวันศุกร์ ทั้งตัวเลขการจ้างงาน และดัชนี ISM (จะเป็นแนวทางว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยได้ 3 ครั้ง ในปี 2560 ตามที่ได้บ่งชี้ไว้หรือไม่)

ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” TMB เป้าหมายพื้นฐาน 2.56 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/59 ที่ 2.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากไตรมาสก่อนเป็นการยืนยันมุมมองว่ากำไรไตรมาส 3/59 จะเป็นจุดต่ำสุด และจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นต่อในปีนี้ 2) Balance sheet แข็งแรงขึ้นจาก NPL Ratio ที่ลดลงเหลือ 2.53% และด้วย Coverage Ratio สูงที่ 142% ทำให้คาดว่าจะไม่มีการตั้งสำรองมากขึ้นในปีนี้ 3) แม้สินเชื่อจะขยายตัวต่ำเพียง 2.2% ในปีที่ผ่านมา แต่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นในปีนี้ที่ 8-9% และ credit cost จะปรับตัวลดลง 4) คาดการณ์กำไรปี 2560 จะขยายตัว เพิ่มขึ้น10% ซึ่งเป็นการกลับมาเติบโตครั้งแรกในรอบ 3 ปี ขณะที่ทางเทคนิคแข็งแกร่งกว่าตลาด ระยะสั้นผ่านแนวต้าน 2.32 บาทขึ้นมา มีเป้าหมายถัดไปที่ 2.46 บาท

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

PTTEP   มูลค่าการซื้อขาย 1,451.69 ล้านบาท ปิดที่  99.00 บาท เพิ่มขึ้น  1.00 บาท

PTT     มูลค่าการซื้อขาย 1,399.47 ล้านบาท ปิดที่ 404.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

BEAUTY  มูลค่าการซื้อขาย 1,028.62 ล้านบาท ปิดที่  10.50 บาท ลดลง   0.60 บาท

SAWAD   มูลค่าการซื้อขาย   856.94 ล้านบาท ปิดที่  43.25 บาท เพิ่มขึ้น  2.00 บาท

JAS     มูลค่าการซื้อขาย   844.75 ล้านบาท ปิดที่   8.90 บาท เพิ่มขึ้น  0.10 บาท