“ทีวี ธันเดอร์” ลุยโรดโชว์ 7 จังหวัดทั่วปท.เตรียมตัวเข้าเทรด mai
“ทีวี ธันเดอร์” หรือ TVT ประกอบธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์-รายการบันเทิง ลุยโรดโชว์ 7จังหวัดทั่วปท.วันที่ 31 มี.ค.-23 เม.ย.นี้ เพื่อเตรียมตัวเข้าเทรด mai โดยมีทุนจดทะเบียน 200 ลบ. ซึ่งบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TVT เปิดเผยว่า ระหว่างช่วงวันที่ 31 มี.ค.-23 เม.ย.58 ผู้บริหารของบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน และแกนนำในการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ เดินสายนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุน (โรดโชว์) และแนะนำรายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ของทีวี ธันเดอร์ ให้แก่นักลงทุนใน 7 จังหวัดทั่วประเทศ เริ่มต้นที่จังหวัดชลบุรี ,นครราชสีมา ,ขอนแก่น ,เชียงใหม่ ,อุบลราชธานี ,สงขลา และปิดท้ายที่กรุงเทพมหานคร โดยคาดว่าจะมีนักลงทุนสนใจเข้าร่วมรับฟังประมาณ 2,000 คน
โดยการนำเสนอข้อมูลในครั้งนี้เป็นการนำเสนอข้อมูลทั่วไป และรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัทไม่ว่าจะเป็นการดำเนินธุรกิจของบริษัทซึ่งบริษัทมีรายได้หลักจากค่าโฆษณา คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 75% ของรายได้ทั้งหมด และที่เหลือ อีกประมาณ 25% มาจากการให้บริการ ซึ่งเกิดจากการรับจ้างผลิตรายการโทรทัศนและการรับจ้างจัดกิจกรรม รายได้จากการบริหารศิลปิน และรายได้จากการจำหน่ายหนังสือพ็อคเก็ตบุ๊ค โดยในปี 2557 บริษัทมีรายได้เท่ากับ 432.84 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา และคาดว่าน่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นในปีนี้ เนื่องจากการเกิดทีวีดิจิตอล ซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทฯ ทั้งในแง่ของการผลิตรายการและรับจ้างผลิตรายการต่างๆ
ด้านนางภัทรภร วรรณภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TVT เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทเตรียมความพร้อมในการที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ซึ่งการเดินสายโรดโชว์ในครั้งนี้เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของบริษัทและการนำเสนอข้อมูลต่างๆ ของบริษัทเพื่อให้นักลงทุนได้ทำความเข้าใจและใช้ข้อมูลที่ได้มาประกอบการพิจารณามากยิ่งขึ้น ซึ่งหวังว่าบริษัทจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน
ทั้งนี้ปัจจุบัน TVT มีทุนจดทะเบียนเท่ากับ 200,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 800,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท โดยมีทุนเรียกชำระแล้วเท่ากับ 150,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 600,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท ทั้งนี้ บริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรกจำนวน 200,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท