เกาะเส้นแนวรับ 25 วันโมนิก้าและทีมงาน

*วันนี้ “โมนิก้า” ขอมาในแนววิชาการมากขึ้นมานิดหนึ่ง เพราะดูเหมือนว่า ปัจจัยหลายอย่างจะทำให้ผู้เล่นเกิดความท้อแท้ในจิตใจขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงอยากอธิบายข้อมูลต่างๆ ในเชิงสถิติอีกสักหน่อย เพราะเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้นักเล่นมองเห็นภาพในมุมต่างๆ ได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การกำหนดพอร์ตลงทุนมีความคล่องตัว หลังยุทธวิธีในการเข้าทำเที่ยวนี้เป็นแบบ “มาเร็ว เคลมเร็ว” นะซี

*ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้เดี๊ยนต้องอ้างอิงข้อมูลในช่วง 3 เดือนครึ่ง ดัชนีพยายามเกาะเส้นแนวรับ 25 วันตลอดเวลา จนดูเหมือนว่า เส้นแนวรับดังกล่าวเป็นจุดเด้งกลับทางจิตวิทยาไปเสียแล้ว และก่อนจะเข้าสู่รายละเอียดดังกล่าว “โมนิก้า” ขอย้อนกลับไปดูเส้นแนวรับ 10 วันอีกนิดหนึ่ง เพราะในช่วงที่แรงเทขายไม่หนาแน่น เส้นแนวรับดังกล่าวก็เป็นตัวหนุนให้ฐานดัชนีสูงขึ้นพะยะค่ะ

*ตรงนี้เป็นข้อมูลที่ “โมนิก้า” อยากให้แฟนคลับย้อนกลับไปดูจุดแรกที่บริเวณ 1,580 จุด ส่วนจุดสองอยู่ตรงบริเวณ 1,570 จุด มันมีความเสี่ยงต่อการลงทุนมากเพียงใด? หลังดัชนีทรุดตัวลงมายืนที่ 1,582.52 จุด ลบไป 6.61 จุด ด้วยมูลค่า 4.82 หมื่นล้านบาท..หากประเมินสถานการณ์โดยรวมแล้วรู้สึกดีต่อใจ เดี๊ยนขอแนะนำให้เคาะขวาเบาๆ เพื่อเป็นการหยั่งเชิงแรงซื้อแรงขายที่มีออกมาในหุ้นแต่ละตัว  หลังหุ้นบางตัวโดนถล่มอย่างไม่ปรานีปราศรัยนะซี

*ตัวอย่างดังกล่าวดูได้จาก PTL โดนกระหน่ำอย่างหนักจนรูดลงมากองอยู่ที่ 15 บาท ลบไป 2.80 บาท หรือลงไป 15.70%  ด้วยมูลค่า 1.96 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นรายการช็อกโลกพอสมควร เพราะหุ้นกำลังพยายามตั้งฐานที่บริเวณ 18 บาทมาพักใหญ่ๆ สุดท้ายถูกเทขายทิ้งเหมือนบริษัทกำลังจะเจ๊งแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่สุดจะบรรยายจริงๆ จึงต้องติดตามดูกันต่อไปว่า วันนี้จะเด้งหรือเปล่า?

*เหมือนกับในรายของ STA กลายเป็นหุ้นที่โดนเทขายหนักในรอบ 1 สัปดาห์ จนหุ้นเริ่มเสียสมดุลมากขึ้นเรื่อยๆ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่งยวด หลังหุ้นหลุดเส้นแนวรับ 10 วัน กับ 25 วันลงมาอย่างง่ายดาย แถมการลงมาปิดที่ 23.40 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 960 ล้านบาท มันเป็นสัญญาณที่ก่อให้เกิดอีกา 3 ตัวง่ายมากแบบนี้ มันไม่ควรเข้าไปรับของร้อนนะจะบอกให้

*ตัวอย่างดังกล่าวดูได้จากหุ้น LOXLEY โดนถล่มอย่างหนักหน่วงอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จนหุ้นรูดลงมาปิด 3.44 บาท ลบไป 0.22 บาท หรือลงไป 6% ด้วยมูลค่า 260 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นสถานการณ์ที่ให้บทเรียนแก่ทุกคนได้เป็นอย่างดีว่า เมื่อหุ้นกำลังอยู่ในช่วงโดนทิ้ง ใครก็เอาไม่อยู่ทั้งนั้น แถมมีแนวโน้มทิ้งตัวลงไปยังแนวรับเดิมที่บริเวณ 3 บาทแบบนี้..รอช้อนของถูกสบายใจกว่าเยอะเจ้าค่ะ

*ถึงกระนั้นก็ต้องแยกแยะเป็นกรณีไป ซึ่งในที่นี้หมายถึงหุ้นพลังงานทางเลือกอย่าง EA หลังจากมรสุมข่าวร้ายพัดผ่านไปเสร็จสิ้น ท้องฟ้าสีครามก็ปรากฏให้เห็นอีกครั้ง หุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 24.10 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 3.88% ด้วยมูลค่า 690 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าใจแล้วว่า ทุกอย่างไม่ได้เลวร้ายเหมือนกับที่มีการกระพือข่าว วันนี้ถึงเป็นการเริ่มต้นไล่ซื้อหุ้นเก็บเข้าในพอร์ตนะจ๊ะ

*ประเด็นข้างต้นรวมถึงหุ้น WICE ทะยานขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 4.08 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 6.25%  ด้วยมูลค่า 142 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของการให้ราคาในอนาคต หลังจากตัวบริษัทมีการแปลงพันธมิตรเป็นหุ้นส่วน จึงเชื่อกันว่า กำไรในปี 60 จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ฐานแนวรับใหม่ย้ายขึ้นมายืนที่บริเวณ 4 บาทนะจะบอกให้

*สำหรับในรายของ SVI แม้จะวิ่งขึ้นอย่างร้อนแรงอีกรอบ แต่ดูเหมือนแนวต้าน 6 บาทยังคงค้ำคอ โอกาสที่หุ้นจะไต่ระดับขึ้นไปอีก ก็เลยไม่ง่ายเหมือนกับที่คิด ส่งผลให้ราคาปิดที่ 6 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 5.20%  ด้วยมูลค่า 290 ล้านบาท น่าจะเป็นเรื่องของการวัดใจผู้กล้าอย่างแท้จริง เพราะเมื่อดูจากการเทรดบนค่า P/E 7 เท่า มันเป็นอะไรที่น่าสนใจสุดๆ เจ้าค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวสอดคล้องกับท่าทีของหุ้น PACE หลังพยายามฝ่าแนวต้าน 4 บาทมาทั้งหมด 3 ครั้ง แต่สุดท้ายต้องรับประทานแห้วกระป๋องเป็นประจำ ล่าสุดหุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 3.76 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 4.44% ด้วยมูลค่า 145 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะของการโหนกระแสอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนจะทำสำเร็จตามเป้าที่วางไว้หรือเปล่า? ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะสิ่งที่สำคัญคือ แมงเม่าต้องได้กำไรต่างหากนะคะ

*เหมือนกับการฟอร์มตัวอย่างช้าๆ ของหุ้น SIRI มันเป็นกิมมิคที่ทำให้นักโหนกระแสกระเป๋าตุงกันมาแล้ว แถมตั้งแต่ต้นปี 60 หุ้นทะยานขึ้นออกจากฐานแนวรับ 1.65 บาทอย่างช้าๆ จนวานนี้ขึ้นมายืนอยู่ที่ 1.91 บาท บวกไป 0.03 บาท  ด้วยมูลค่า 570 ล้านบาท โดยให้รีเทิร์น 16% ภายในระยะเวลา 1 เดือน 1 สัปดาห์ มันทำให้ “โมนิก้า” ต้องลุ้นว่า รอบนี้จะฝ่าทะลุแนวต้าน 1.95 บาทไปได้หรือเปล่า?

*ตบท้ายกันที่หุ้นสุดฮอตอย่าง TMW เพื่อบอกให้เหล่านักเล่นได้รู้ว่า รอบนี้ไม่ได้มาเล่นๆ เพราะเมื่อย้อนกลับไปดูประวัติเก่าจะเห็นว่า ชอบลากหุ้นแบบดุดัน ก่อนจะหายจ้อยเข้ากลีบเมฆ แถมราคาที่ดันในตอนนั้นก็ขึ้นไปถึง 70 บาท ก่อนจะปล่อยร่วงลงมายืนแถว 30 บาท  “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่น่าศึกษามากตัวหนึ่ง หลังหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 47.25 บาท บวกไป 7 บาท หรือขึ้นไป 17.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นผิดปกตแบบนี้..รอบนี้ดันอีกแน่ๆ เจ้าค่ะ