GL:หวังเป็นดิจิตอลไฟแนนซ์ระดับโลกแนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 88.00 บาท

บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(8 ก.พ.) ว่าบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส4/59 เติบโตก้าวกระโดด 85% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 37% เทียบไตรมาสก่อนหน้า เป็น 356 ล้านบาท โดยมีรายได้จากเมียนมาร์ และศรีลังกาเข้ามาเป็นไตรมาสแรก รวมทั้งธุรกิจในกัมพูชา ลาว อินโดนีเซีย และไทย ก็ทำกำไรได้ดี

ทั้งนี้ธุรกิจที่ดำเนินการผ่าน BGMM ในเมียนมาร์เริ่มทำกำไรในไตรมาส 4/59 ขณะที่ธุรกิจบริการที่ดำเนินการผ่าน Century Finance จะเริ่มในเดือนก.พ.60  ส่วนธุรกิจในศรีลังกาที่ดำเนินการผ่าน CCF (GL ถือหุ้น 30%) มีกำไรดีในไตรมาส4/59 และคาดว่า GL จะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาใน ไตรมาส4/59 ประมาณ 58 ล้านบาท หรือราว 16% ของกำไรสุทธิทั้งหมดของบริษัทใน ไตรมาส4/59 ซึ่งหากกำไรไตรมาส4/59 เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ กำไรสุทธิทั้งปี 59 ของ GL จะเท่ากับ 1.1 พันล้านบาท (+88%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน)

การเติบโตในปี 60 ยังคงแข็งแกร่ง โดยหลักมาจากธุรกิจต่างประเทศ ได้แก่ กัมพูชา  ลาว  อินโดนีเซีย  เมียนมาร์ และศรีลังกา

# กัมพูชา – คาดว่าพอร์ตสินเชื่อสิ้นปี 60 จะเติบโตเป็นเท่าตัวจากสิ้นปี 59 โดยหลักมาจากการเติบโตของสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ฮอนด้า และสินเชื่อ SME รวมทั้งบริษัทเริ่มปล่อยสินเชื่อจำนำรถจักรยานยนต์ในกัมพูชาตั้งแต่ธ.ค.59 และปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มธุรกิจตั้งแต่ม.ค.60 และยอดขอกู้รถจักรยานยนต์ผ่าน TrueMoney ก็แตะ 200 รายแล้วในเดือนม.ค.60 โดยมีอัตราการอนุมัติสินเชื่อที่ 70% ทางบริษัทมีแผนที่จะขยายสินเชื่อ SME ผ่านเอเยนต์ TrueMoney ที่กระจายอยู่ 5,000 รายทั่วประเทศด้วย

# อินโดนีเซีย – เริ่มดำเนินธุรกิจตั้งแต่ก.ค.59 คาดว่าจะทำกำไรได้ในปี 60 แต่ยังไม่มาก บริษัทมีแผนที่จะรุกตลาดใหม่ๆ ในอินโดนีเซีย จากปัจจุบันที่ดำเนินการอยู่เพียง 2 ธุรกิจ เช่น การร่วมมือกับคูโบต้า และการปล่อยสินเชื่อกลุ่ม

# เมียนมาร์ – บริษัทเริ่มดำเนินธุรกิจปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในเดือนก.พ. (GL ถือหุ้น 57% และกลุ่ม AMK  ถือหุ้น 43%) โมเดลธุรกิจคล้ายกับที่ทำกับ GLFI ในอินโดนีเซีย โดยผ่านช่องทางร้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2.2 หมื่นแห่งที่กระจายในประเทศเมียนมาร์ซึ่งโมเดลธุรกิจคล้ายกับที่ทำกับ TrueMoney ในกัมพูชา ส่วนการดำเนินธุรกิจของ BGMM ยังคงดำเนินต่อไป และคาดว่าพอร์ตของ BGMM จะเติบโตเป็น 10 ล้านเหรียญสหรัฐในสิ้นปี 60 (จาก 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐในสิ้นปี 59)

# ศรีลังกา – ทาง GL รับรู้เข้ามาเป็นส่วนแบ่งกำไร (GL ถือหุ้น 30% ใน CCF) ซึ่งธุรกิจปล่อยสินเชื่อกลุ่มและธุรกิจไฟแนนซ์อื่นๆ ของ CCF เติบโตเร็วมาก เราคาดว่า CCF จะทำกำไรเป็นสัดส่วน 13% ของกำไร GL ทั้งหมดในปี 60

# ไทย – พอร์ตสินเชื่อคาดว่าจะทรงตัว โดยสินเชื่อรถจักรยานยนต์ใหม่ชะลอตัว แต่ได้รับการชดเชยจากสินเชื่อรถจักรยานยนต์มือสองและสินเชื่อจำนำรถจักรยานยนต์ที่ขยายตัว

แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 88 บาท (PEG 1.0 เท่า) โดย GL ยังคงเป็นหลักทรัพย์ที่มีการเติบโตของกำไรสูง โดยเฉพาะจากธุรกิจในต่างประเทศ บริษัทยังคงเป้าหมายขยาย Market Cap เป็น 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐภายใน 3 ปี และตั้งเป้าเป็นบริษัทดิจิตอลไฟแนนซ์ระดับโลก เพราะเล็งเห็นโอกาสที่จะทำธุรกิจกับผู้ที่มีศักยภาพในการกู้แต่ไม่สามารถทำในระบบการกู้ยืมแบบดั้งเดิมได้ ซึ่งมีอยู่ราว 2.5 พันล้านรายทั่วโลก  บริษัทมีแผนขยายการลงทุนในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง และคาดว่ากำไรจากธุรกิจในต่างประเทศจะคิดเป็น 90% ของทั้งหมด โดยมาจากธุรกิจในอินโดนีเซียมากที่สุด