TK บวก 4.20% ลุ้นพอร์ตเช่าซื้อปี 63 โตเท่าตัวเป็น 1.4 หมื่นลบ.

TK บวก 4.20% ลุ้นพอร์ตเช่าซื้อปี 63 โตเท่าตัวเป็น 1.4 หมื่นลบ. หลังรุกขยายตลาดตปท. ล่าสุด ณ เวลา 11.23 น. ราคาอยู่ที่ 12.40 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 4.20% สูงสุดที่ 12.60 บาท ต่ำสุดที่ 11.90 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 101.59 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ณ เวลา 11.23 น. ราคาอยู่ที่ 12.40 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 4.20% สูงสุดที่ 12.60 บาท ต่ำสุดที่ 11.90 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 101.59 ล้านบาท 

TK20170208

นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด หรือ TK ตั้งเป้าปี 63 ขยายฐานสัดส่วนลูกหนี้เช่าซื้อ ที่มาจากภายในประเทศและต่างประเทศ อยู่ที่ 50:50 จากปัจจุบันมีลูกหนี้เช่าซื้อจากต่างประเทศ คิดเป็นสัดส่วนเพียง 2% โดยมั่นใจว่า จะสามารถขยายตลาดในต่างประเทศได้อีกมาก ด้วยความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน พร้อมต่อการลงทุนในต่างประเทศได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การเข้าไปลงทุนเปิดสาขาเอง, การเข้าซื้อกิจการ หรือ การมองหาพาร์ทเนอร์ในลักษณะของ Joint Venture รวมทั้งประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในตลาดต่างประเทศ อย่าง ลาว และกัมพูชา

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศที่รายได้ประชากรเฉลี่ยยังไม่สูงมากนัก และมีการขยายตัวของจำนวนประชากรสูง ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ เป็นกลุ่มที่มีความต้องการใช้รถมอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะ

ทั้งนี้ในปี 60 บริษัทฯ มีแผนจะขยายสาขาในกัมพูชา เพิ่มอีก 3 สาขาจากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว 3 สาขา และเตรียมขยายสาขาเพิ่มในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในขณะเดียวกัน ยังได้มองโอกาสการลงทุนในอีกหลายประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยคาดว่าพอร์ตสินเชื่อจากต่างประเทศในปีนี้มีสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 5% 

“นับจากนี้เป็นต้นไป TK ได้กำหนดแผนการเติบโตให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้น ด้วยการรุกขยายฐานธุรกิจในต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการสร้างการเติบโตของตลาดภายในประเทศ”นายประพล กล่าว

นายประพล คาดว่าในปี 63 ยอดลูกค้าผู้เช่าซื้อและลูกค้าลูกหนี้เงินให้กู้ยืมใตตลาดต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 1.4 หมื่นล้านบาทจากไตรมาส 3/59 ที่มีอยู่ 7.6 พันล้านบาท เนื่องจากการขยายตลาดในต่างประเทศที่มีการเติบโตสูง โดยขณะนี้บริษัทได้ศึกษาตลาดเพื่อนบ้านที่ประชากรมากและมีความต้องการใช้รถจักรยานยนต์สูง ได้แก่อินโดนีเซีย ที่มีความต้องการรถจักรยานยนต์ถึง 6-7 ล้านคัน/ปี และเวียดนามมีความต้องการ 3 ล้านคัน/ปี ซึ่งทั้งสองประเทศใช้สินเชื่อเช่าซื้อประมาณ 80% รวมทั้งสนใจตลาดเมียนมาร์ด้วย 

Back to top button