STEC คาดปี 60 รับรู้รายได้ 2.10 หมื่นลบ. ตุน Backlog แตะแสนลบ.

STEC คาดปี 60 รับรู้รายได้ 2.10 หมื่นลบ. ฟุ้งปีนี้ได้งานใหม่ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นลบ. ตุน Backlog แตะแสนลบ.


นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC คาดว่ารายได้ปี  60 จะอยู่ที่ 2.10 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มี 1.80 หมื่นล้านบาท และจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ราว 8-9%

โดยบริษัทคาดว่าในปี 60 จะได้งานใหม่ไม่น้อยกว่า 3 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) แตะระดับ 1 แสนล้านบาท โดยเป็นตัวเลขที่สูงสุดเท่าที่ก่อตั้งบริษัท ซึ่งจำนวนนี้รวมงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง มูลค่ารวมกันราว 4-5 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีระยะเวลาก่อสร้าง 39 เดือน และในวันนี้  CKST ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบมจ.ช.การช่าง (CK)สัดส่วน 60% และบริษัท 40% ได้เข้าลงนามงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี ในสัญญาที่ 1 สัญญาที่ 2 และสัญญที่ 5 รวมแล้วในส่วน STEC จะได้รับงานและรายได้ราว 1.7-1.8 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้งานโครงการลงทุนภาครัฐ เข้ามามากในปีนี้ แต่ก็ยังตั้งเป้าแบบอนุรักษ์ เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา งานภาครัฐบางช่วงชะลอออกไป อย่างไรก็ดี บริษัทก็รับงานภาคเอกชน ได้แก่ งานโรงไฟฟ้า งานก่อสร้างศูนย์การค้า ทั้งนี้บริษัทมีกระแสเงินสดปัจจุบันราว 2 พันล้านบาท และเมื่อได้รับงานจะมีเงินล่วงหน้าให้กับผู้รับเหม่ก่อสร้าง จึงไม่น่าห่วงเรื่องเงินลงทุน

อย่างไรก็ตามยังกังวลเรื่องราคาวัสดุก่อสร้างซึ่งวัสดุหลักคือ ซิเมนต์ และ เหล็กก่อสร้าง โดยเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมาราคาเหล็กก่อสร้างปรับขึ้นมา อย่างไรก็ดี บริษัทจะพยายามล็อกราคากับผู้ผลิตหากได้รับงานแล้ว

นอกจากนี้บริษัทได้ศึกษาตลาดรับเหมาก่อสร้างในประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เมียนมา กัมพูชา ลาว ที่เชื่อว่าจะมีงานก่อสร้างจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็หารายได้ประจำมากเสริมงานรับเหมาก่อสร้างที่มีความไม่แน่นอน จึงตั้งเป้าจะมีสัดส่วนรายได้ประจำจากการลงทุนได้  10-20% โดยที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าร่วมทุน ในกิจการค้า BSR ในสัดส่วน 15% ซึ่งมีกลุ่มบมจ.บีทีเอส โฮลดิ้งส กรุ๊ป (BTS) และบมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) ซึ่งได้รับเลือกให้ดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง โดยมีสัญญาเดินรถ 30 ปี  ซึ่งจะเป็นรายได้ให้ STEC ในอนาคต นอกจากนี้ บริษัทยังลงทุน 10% ใน บมจ.ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ (TSE)

Back to top button