โหดเรียกพี่โมนิก้าและทีมงาน

*หัวเรื่องที่จั่วแบบหนักๆ ในคราวนี้ มันไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับใครคนหนึ่งเป็นการเฉพาะ แต่เป็นเรื่องที่สังคมชาวหุ้นต้องรู้จักแยกแยะให้ออกสักทีว่า money game มันเป็นเรื่องของคนที่มองเห็นอะไรบางอย่างก่อนคนอื่น และสามารถพลิกให้เป็นโอกาสของตนเอง ส่งผลให้คนที่เข้ามารับของทีหลังรู้สึกอึดอัดใจอย่างแรงเมื่อพบว่า เกมไม่เป็นเหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า!!


                *หัวเรื่องที่จั่วแบบหนักๆ ในคราวนี้ มันไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับใครคนหนึ่งเป็นการเฉพาะ แต่เป็นเรื่องที่สังคมชาวหุ้นต้องรู้จักแยกแยะให้ออกสักทีว่า money game มันเป็นเรื่องของคนที่มองเห็นอะไรบางอย่างก่อนคนอื่น และสามารถพลิกให้เป็นโอกาสของตนเอง ส่งผลให้คนที่เข้ามารับของทีหลังรู้สึกอึดอัดใจอย่างแรงเมื่อพบว่า เกมไม่เป็นเหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า!!

                *เหมือนกับท่าทีของกองทุนตัวแสบที่กลับไปกลับมา “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้อยู่แล้วว่า พวกนี้เข้ามาแบบสั้นๆ ไม่ได้คาดหวังตลาดหุ้นจะเป็นสีเขียวสดใส จึงนิยมลากหุ้นแบบสุดติ่งกระดิ่งแมว ต่อจากนั้นปล่อยของราคาสูงกันอย่างสนุก ขณะที่ฝรั่งตาน้ำข้าวก็แสบไม่เบาเช่นกัน เพราะชอบสาดหุ้นออกมาหนักๆ เมื่อมีโอกาส ดัชนีถึงขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้สักทีค่ะ

                *วานนี้ถึงเป็นอีกครั้งที่ดัชนีรูดลงมาปิดที่ 1,572.24 จุด ลบไป 13 จุด ด้วยมูลค่า 5.28 หมื่นล้านบาท มันอธิบายได้ง่ายเหลือเกินว่า กองไม่ถือ..ฝรั่งไม่เอา สภาพก็เลยเละเทะอย่างที่เห็น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่พบได้บ่อยมากในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และเหตุการณ์ดังกล่าวก็ทำให้หุ้นกลุ่มบลูชิพที่เพิ่งโชว์เพาเวอร์ไปเมื่อไม่นานมานี้ โดนทุบสั่งสอนกันอย่างถ้วนหน้าไงล่ะค่ะ

                *โดยเฉพาะในรายของ PTTEP ทุกอย่างถูกเซ็ทกันมาเป็นอย่างดี แถมมีข่าวดีรองรับอย่างถ้วนหน้า จนมีการดันหุ้นขึ้นไปแตะระดับ 101 บาท พร้อมกับเกิดความหวังขึ้นมาในทันทีว่า หุ้นจะขึ้นไปสร้างฐานแนวรับที่สูงขึ้นกว่าเดิม บรรดานักลงทุนสถาบันก็สาดหุ้นทิ้งทันทีแบบนี้ แมงเม่าบางรายถึงกับมีอาการช็อกซีนีม่าเหมือนกัน ล่าสุดเห็นหุ้นลงมาปิดที่ 91.50 บาท ลบไป 2 บาท หรือลงไป 2% ด้วยมูลค่า 1.35 พันล้านบาท ดีสุดคงเห็นแค่รีบาวด์เจ้าค่ะ

                *แพทเทิร์นดังกล่าวคล้ายคลึงกับในรายของ AOT มากเหลือเกิน เพราะผู้รู้หลายสำนักมองเหมือนกันว่า เป้า 45 บาทไม่ได้ไกลเกินเอื้อม แต่พอถึงวันดีเดย์กลับแสดงอาการอ่อนเป็นมะเขือเผา “โมนิก้า” ขอเรียนให้ทราบตามตรงว่า เสียอารมณ์อย่างแรง บวกกับวานนี้หุ้นลงมายืนอยู่ที่ 39.50 บาท ลบไป 1 บาท  หรือลงไป 2% ด้วยมูลค่า 4.53 บาท มันเป็นเกมบังคับให้หุ้นเด้งขึ้น..หากขึ้นไม่ไหว โพสิชั่นจะดูแย่ลงไปอีกนะคะ

                *ใครอยากรู้ว่า โพสิชั่นแย่เป็นอย่างไร? “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ไปดู ESSO เป็นอุทาหรณ์สอนใจ หลังหุ้นโค้งตัวลงมาเรื่อยๆ จนอยู่ในลักษณะขาลงอย่างเต็มตัว บวกกับหุ้นหลุดแนวรับสำคัญลงมาเป็นที่เรียบร้อย วานนี้ถึงเห็นหุ้นลงมากองอยู่ที่ 11.20 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 5.90% ด้วยมูลค่า 490 ล้านบาท จึงเกิดคำถามว่า คนที่มีต้นทุนอยู่แถว 14 บาทจะลงดอยอย่างไร?

                *ประเด็นนี้เชื่อมโยงกับหุ้นตัวจี๊ด AMANAH พุ่งขึ้นแรงแบบไม่เหลียวหลังให้เสียเวลา แถมวานนี้พุ่งขึ้นมาปิดที่ 1.80 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 28.60% ด้วยมูลค่า 170 ล้านบาท พร้อมกับทำราคาสูงสุดในรอบ 5 ปีเป็นอย่างต่ำ (จริงๆ น่าจะยาวนานกว่านั้น เพื่อให้เห็นความผิดปกติ เลยเอาเวลาแค่นี้ก็พอ) โดยเหตุการณ์ทั้งหมดที่กล่าวถึงใช้เวลา 2 เดือน แต่ให้เรีเทิร์นสูงถึง 160% น้องโมเม้าท์ได้แค่ว่าคนที่เพิ่งเข้าไปรับของ เกิดอาการเสียววาบแน่ๆ..อิอิอิ

                *เช่นเดียวกับในรายของ SIRI ซึ่งมีการไล่ราคากันระเบิดเถิดเทิงในเที่ยวนี้ “โมนิก้า” ขอเรียนให้รับทราบกันตามตรงว่า เหตุการณ์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาก็เล่นกันไปมาในกรอบ 1.50-2.00 บาท อาจมีบางครั้งที่พุ่งขึ้นไปถึง 2.20 บาท สุดท้ายก็กลับมาอยู่ในพล็อตเดิมๆ เดี๊ยนถึงอยากให้ทุกท่านระวังตัวเป็นพิเศษ เนื่องจากหุ้นขึ้นมาปิดที่ 1.97 บาท บวกไป 0.04 บาท ด้วยมูลค่า 325 ล้านบาท มันเป็นแนวที่ต้องขายออกไปก่อน แถมเหตุผลซัพพอร์ตทางด้านพื้นฐานก็ไม่มีอะไรใหม่ ถอยก่อนก็ได้นะคะ

                *หากต้องการย้ำหัวหมุดเรื่องดังกล่าว “โมนิก้า” ขอให้ดูแพทเทิร์นจาก S11 เป็นตัวเลือกหลักในการพิจารณา เพราะตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นมาเกือบ 2 ปี (25 ก.พ. ครบบริบูรณ์) ราคาหุ้นก็เดินหน้า..ถอยหลัง เดินหน้า..ถอยหลัง ในลักษณะนี้มาตลอด แถมกรอบเล่นก็อยู่ในระดับ 8-10 บาทเป็นประจำ จึงไม่มีเหตุให้เม้าท์ถึงบ่อยๆ แต่วานนี้ต้องเม้าท์ถึงเพราะหุ้นลงมายืนอยู่ที่ 8.80 บาท ลบไป 0.35 บาท หรือลงไป 3.80%..มันเป็นภาพที่ต้องระวังนะซี

                *เหมือนกับในรายของ AU หากดูจากเนื้อเรื่องที่เกิดขึ้น “โมนิก้า” เม้าท์ได้ทันทีว่า จังหวะนี้คือรอบที่น่ากลัว เพราะมีแรงสาดหุ้นออกมาเป็นจำนวนมาก จนไม่รู้ว่า แนวรับ 11.50 บาทจะเอาอยู่หรือเปล่า? บวกกับวันนี้เล่นหุ้นบนค่า P/E 96 เท่า เดี๊ยนถึงเกิดอาการหวั่นใจว่า เจ้ามือร่างโย่ง..สูงเหมือนเปรต ซึ่งเคยเป็นคนใหญ่คนโตทางการเมือง กำลังถอยไปอยู่ขอบเวที หลังกระแสขนมหวานในช่วงหลังไม่เปรี้ยงปร้างอ่ะป่าว! วันนี้หุ้นถึงต้องขึ้น ถ้าไม่ขึ้นเหมือนกับแมงลือเม้าท์..เขาเรียกว่า ปิดเกม!..ทราบแล้วเปลี่ยน

                *ทิ้งท้ายกันที่ผลประชุม IFEC ซึ่งแมงเม้าท์มีข้อมูลหลายอย่างเล่าให้ฟังเยอะแยะไปหมด และมีข้อสังเกตที่น่าสนใจหลายอย่างด้วยกันนั้น “โมนิก้า” บอกได้ทันทีว่า ขี้แห้งกับไม้เช็ดตูด..เป็นอย่างไร? คงนึกภาพกันออก ถ้านึกไม่ออก พรุ่งนี้จะไล่เป็นช็อตไปนะคะ

Back to top button