ขึ้นช้า..ลงเร็วโมนิก้าและทีมงาน

*หากติดตามดูสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยอย่างใกล้ชิดจะเห็นว่า การลงทุนในเที่ยวนี้ไม่มีอะไรต้องคิดมากจนนอนไม่หลับ เพราะรูปแบบการลงทุนไม่มีอะไรแตกต่างจากก่อนหน้านี้เลย แถมช่วงนี้ยังต้องเผชิญกับปรากฏการณ์ sell on fact ส่งผลให้ทุกอย่างดูเนือยๆ อย่างเห็นได้ชัด และรูปแบบการลงทุนดังกล่าวก็ทำให้การขยับเขยื้อนของดัชนีค่อนข้างมีปัญหานะจะบอกให้


*หากติดตามดูสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยอย่างใกล้ชิดจะเห็นว่า การลงทุนในเที่ยวนี้ไม่มีอะไรต้องคิดมากจนนอนไม่หลับ เพราะรูปแบบการลงทุนไม่มีอะไรแตกต่างจากก่อนหน้านี้เลย แถมช่วงนี้ยังต้องเผชิญกับปรากฏการณ์ sell on fact ส่งผลให้ทุกอย่างดูเนือยๆ อย่างเห็นได้ชัด และรูปแบบการลงทุนดังกล่าวก็ทำให้การขยับเขยื้อนของดัชนีค่อนข้างมีปัญหานะจะบอกให้

*โดยเฉพาะอากัปกิริยา “ขึ้นช้า..ลงเร็ว” ถือเป็นพฤติกรรมที่เห็นได้บ่อยมากๆ ซึ่งทำให้รู้ว่า โอกาสที่ดัชนีจะฝ่าด่านหิน 1,600 จุดเป็นไปได้ยากจริงๆ เพราะทุกคนพร้อมใจกันเทขายเมื่อดัชนีเคลื่อนตัวขึ้นไปใกล้บริเวณดังกล่าว และข้อมูลในส่วนนี้ก็ทำให้ “โมนิก้า” ชอบแนะนำให้แฟนคลับเน้นจังหวะเข้าทำแบบ 1-2 แล้วรีบถอยฉาก ซึ่งเป็นรูปแบบการเล่นที่ยืดหยุ่นสุดในเวลานี้เจ้าค่ะ

*ที่สำคัญคือ วันนี้ยังมองไม่เห็นดาวเด่นที่จะมาสวมบทพระเอกขี้ม้าขาว แถมยังไม่มีปัจจัยบวกที่จับต้องได้เป็นชิ้นเป็นอัน “โมนิก้า” ถึงมองการแกว่งตัวไปมาของดัชนี ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 1,577.84 จุด บวกไป 1.79 จุด ด้วยมูลค่า 4.66 หมื่นล้านบาท เหมือนเป็นการรอคอยจังหวะถีบตัวขึ้นไปอีกนิดหน่อย ต่อจากนั้นจะไล่ราคาแบบสุดลิ่ม หรือจะสาดหุ้นกำไรก่อนรอบหนึ่ง ก็ขึ้นอยู่กับเนื้อหาของการลงทุนในสัปดาห์นี้นะคะ

*เหมือนกับในรายของ AOT วันนี้ไต่เพดานขึ้นมาปิดที่ 40 บาท บวกไป 0.25 บาท ด้วยมูลค่า 3.80 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับค่าต๋งสุวรรณภูมิ ซึ่งจะมีการเจรจาอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 ก.พ. และประเด็นหลักๆ ที่มีผู้เล่นจะต้องรู้คือ ปัจจุบันเสียค่าเช่าอยู่ที่ระดับ 5% แต่จะมีการปรับขึ้นเป็น 6% หรือ 7% ก็ขึ้นอยู่กับการพูดคุย แต่ที่แน่ๆ คือการปรับขึ้น 1% จะมีผลทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 320 ล้านบาท ส่วนจะกระทบในส่วนอื่นๆ อีกหรือเปล่า..ต้องตามไปดูกันเอาเองจ้า!

*เช่นเดียวกับในรายของ STA  โค้งตัวลงอย่างช้าๆ ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 22.80 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 4.20% ด้วยมูลค่า 650 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่ค่อนข้างน่ากลัวเกมหนึ่งในเที่ยวนี้ เพราะราคาหุ้นตอบรับราคายางแบบโอเว่อร์รีแอ็คต์ พอเรื่องจริงไม่เป็นเหมือนกับที่มองกันไว้ สถานการณ์ทุกอย่างดูเลวร้ายลงเรื่อยๆ แรงซื้อแปรเปลี่ยนเป็นแรงเทขายแบบเต็มสูบ ดีสุดคงเป็นแค่รีบาวด์เพื่อลงต่อหรือเปล่า? เหตุค่า P/E 61 เท่า มันสูงเกินไปนะซี

*สำหรับดาวเด่นที่น่าสนใจในเที่ยวนี้กลายเป็น ROBINS ไต่ระดับขึ้นเป็นวันที่ 2 ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 60.50 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2.50% ด้วยมูลค่า 530 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะของการโหนกระแสแบบเร่งด่วน ซึ่งมีข้อแม้ว่า หุ้นต้องยืนเหนือ 61 บาทให้ได้เสียก่อน ต่อจากนั้นถึงจะมีสิทธิ์ขยับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 65 บาท วันนี้ถึงต้องเตรียมเคาะขวาให้ดีนะคะ

*เม้าท์ถึงหุ้นคาบลูกคาบดอกทีไร “โมนิก้า” ชอบมองดูหุ้นประหลาดๆ ที่ชอบโผล่มาแวบๆ ต่อจากนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ล่าสุดเป็นคิวของหุ้นปั๊มน้ำมัน SUSCO กระชากขึ้นมาปิดที่ 4.44 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 4.20% ด้วยมูลค่า 450 ล้านบาท มันเป็นจังหวะที่บอกให้รู้ว่า หากมีแรงหนุนเข้ามาเยอะ หุ้นจะวิ่งขึ้นไปแถว 4.70 บาทอีกครั้ง..หากไปไม่ไหวจริงๆ ก็คงม้วนหางกลับมายืน 4.20 บาทก็เท่านั้นเองค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ HMPRO กระชากขึ้นมาปิดที่ 9.75 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 2.60% ด้วยมูลค่า 440 ล้านบาท มันเป็นจังหวะของการรีบาวด์แล้วขึ้นมาติดแนวต้านพอดีแบบนี้ ตามสัญญาณเทคนิคดูไม่ดีเอาเสียเลย บวกกับหุ้นอยู่ในทิศทางโค้งตัวลงเกือบเดือน “โมนิก้า” กล้าพูดได้ทันทีว่า จังหวะนี้ควรอยู่ห่างๆ เพราะข้อมูลในช่วง 5 เดือนล่าสุดพบว่า ราคาดีสุดอยู่แค่ 10.50 บาทนะจ๊ะ

*อีกหนึ่งตัวที่มีแพทเทิร์นน่าหวาดเสียวสุดๆ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยัง LOXLEY ซึ่งกระชากขึ้นมาปิดที่ 3.38 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 3%  ด้วยมูลค่า 130 ล้านบาท มันเป็นการเด้งขึ้นท่ามกลางสัญญาณเทคนิคยังปักหัวลง  เดี๊ยนเลยตีโจทย์เรื่องดังกล่าวไม่ออกว่า หุ้นจะไปทางไหนกันแน่ แต่ถ้าดูภาพรวมของหุ้นจะเห็นว่า โอกาสลงมากกว่าขึ้นนะคะ

*ส่วนตัวที่เชื่อว่า น่าจะปรับตัวขึ้นมากกว่าลง “โมนิก้า” ขอเบนเข็มไปที่ TRC เนื่องจากผ่านขั้นตอนของกระทรวงการคลังใส่เงินเป็นที่เรียบร้อย และถ้ามองจากรายละเอียดตรงนี้ก็จะเห็นว่า เดี๋ยวแบงก์คงปล่อยเงินกู้ให้ไปทำเหมืองโปรแตชแบบเต็มสูบ หุ้นถึงเด้งรับข่าวขึ้นมาปิดที่ 1.60 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 3.20% ด้วยมูลค่า 82 ล้านบาท มันเป็นจุดเริ่มต้นของการขึ้นรอบใหม่นะจ๊ะ

*สำหรับในรายของพระเอกตัวจริง AJD กระชากขึ้นมาปิดที่ 1.75 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 3.55% ด้วยมูลค่า 160 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตเล่นตามน้ำโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะไซเคิลของหุ้นมีลักษณะลงลึกเด้งเร็ว ส่วนเที่ยวนี้จะวิ่งขึ้นไปได้ไกลแค่ไหน? คงต้องดูวอลุ่มวันนี้หนุนเข้ามาเต็มสูบหรือเปล่า! งานนี้ถือว่า บอกวิธีให้หมดแล้ว ที่เหลือก็นำเอาไปปฏิบัติกันเองนะคะ

Back to top button