ก.ล.ต.เผยเตรียมเปิด Regulatory Sandbox ในเดือน มี.ค.นี้
ก.ล.ต.เผยเตรียมเปิด Regulatory Sandbox ในเดือน มี.ค.นี้ ประเดิมกลุ่ม Investment Advisory และ Private Fund โดยใช้ระยะเวลาทดลองไม่เกิน 1 ปี - คาดราว 3-5 ปี FinTech จะเข้ามามีบทบาทในตลาดทุนมากขึ้น อาจต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับเทคโนโลยี
นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าในการเปิด Regulatory Sandbox ให้ผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์และต้องการต่อยอดทางธุรกิจสามารถนำมาทดสอบแนวคิดกับลูกค้าจริงในขอบเขตจำกัดว่า ภายในเดือน มี.ค.นี้ จะมีการเปิดให้ผู้พัฒนาเกี่ยวกับการแนะนำการลงทุน (Investment Advisory) และกองทุนส่วนบุคลล (Private Fund) ได้เริ่มทดลองลงสนาม โดยจะไช้ระยะเวลาในการทดลองไม่เกิน 1 ปี
ทั้งนี้ ในการทดลองจะมีการให้สิทธิยกเว้นการปฏิบัติตามเกณฑ์ทุนจดทะเบียน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ในเรื่องดังกล่าวมาทดลอง และเป็นการช่วยให้ทางหน่วยงานกำกับอย่าง ก.ล.ต.ให้สามารถศึกษาแนวทางในการออกกฏเกณฑ์ต่างๆ
ปัจจุบัน ก.ล.ต.ได้ปรับปรุงเกณฑ์ทุนจดทะเบียนการจัดตั้งบริษัทผู้แนะนำการลงทุน (Investment Advisory) สำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทกองทุนรวมเป็น 1 ล้านบาท จากเดิมที่ต้องมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ซึ่งหากรายใดที่มีความพร้อมเร็วก็สามารถเริ่มลงทุนได้เลย ส่วนในระยะต่อไปทาง ก.ล.ต.จะเปิดให้ทดลองเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานของตลาด (Market Infrastructure)
“กระแส FinTech ที่เข้ามาจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมภายใน 3-5 ปีจากนี้ ซึ่งจะทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างครบถ้วน ตอบรับความต้องการของแต่ละคนอย่างเหมาะสม และมีโอกาสเข้าถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่หลากหลายมากขึ้น และได้ผลิตภัณฑ์ที่มีผลงานที่ดี โดยเฉพาะการเลือกซื้อกองทุนรวมที่นักลงทุนจะมีตัวเลือกมาเปรียบเทียบมากขึ้น และสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์กองทุนรวมที่ไม่ใช่การขายเฉพาะผลิตภัณฑ์ของกองทุนรวมของ บลจ.ที่เป็นบริษัทของธนาคารพาณิชย์นั้นๆ เพราะปัจจุบันส่วนแบ่งตลาดของกองทุนรวมอยู่ที่ธนาคารพาณิชย์ที่ 91-92%” นายรพี กล่าว
อีกทั้งจะเป็นการช่วยให้บุคคลทั่วไปเข้าถึงการบริการของลูกค้า Private Wealth ได้มากขึ้น ซึ่งทำให้ลูกค้าทั่วไปมีการจัดพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสม จากเดิมที่ลูกค้าในกลุ่มนี้จะต้องมีเงินลงทุน 50 ล้านบาทขึ้นไป
“การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการที่ FinTech เข้ามามีบทบาท ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนโลกและผลิตโฉมวงการอุตสาหกรรมตลาดทุนด้วย และช่วยให้ทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นก.ล.ต.มองว่าบล.และบลจ.จะต้องมีการปรับตัวให้สอดคล้องกับการเข้ามามีบทบาทของเทคโนโลยี FinTech” นายรพี กล่าว