FSMART ระวังขายหมูแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART ออกงบงวดไตรมาสสี่และสิ้นปี 2559 มาแล้ว กำไรสวยเหมือนคาดโต 54.7% มีผลทำให้ราคาปิดล่าสุด 19.30 บาท มีค่าพี/อีต่ำสุดในรอบ 4 ปี


บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART ออกงบงวดไตรมาสสี่และสิ้นปี 2559 มาแล้ว กำไรสวยเหมือนคาดโต 54.7% มีผลทำให้ราคาปิดล่าสุด 19.30 บาท มีค่าพี/อีต่ำสุดในรอบ 4 ปี

จะบอกว่าค่าพี/อียามนี้ต่ำที่สุดนับแต่เข้าตลาดมาเลยก็ว่าได้ ทั้งที่ราคาในกระดานวิ่งขึ้นมาต่อเนื่อง เพิ่งจะพักฐานสั้นๆ แถว 19.00 บาท สองสัปดาห์ก่อนนี้เอง

พี/อีที่ต่ำลงมาก มีข้อดีคือ 1) จากนี้ไป คงจะไม่ต้อง “ติดคุกแคชบาลานซ์ บ่อยๆ อีกแล้ว 2) ราคาหุ้นจะเคลื่อนไหวเข้าสู่โหมดที่เรียกว่า “พี/อีไล่ราคา” หรือ “let profit run” อย่างสะดวกใจ

ล่าสุด ทันทีที่งบการเงินเพิ่งออกมาสัปดาห์ก่อน ก็มีนักวิเคราะห์ประเภทเสือปืนไว ออกมาให้ราคาเป้าหมายกันใหม่ทันทีว่า ต้องเกิน 22.00 บาท… ไม่เป๊ะเว่อร์ไปหน่อยหรือ คุณเพ่!!!!

ลืมกันไปได้ง่ายๆ ตอนที่บรรดาคุณๆ ท่านๆ วิเคราะห์ทุบหุ้นเขามาไม่นานด้วยข้อกล่าวหาพื้นๆ ว่า  “การแข่งขันรุนแรงกว่าที่คาด และสัญญากับพันธมิตรบริการ (โดยเฉพาะ 7-11) เป็นรายปีที่เสี่ยงสูง”

ผลลัพธ์ของการทำกำไรนิวไฮเรื่อยๆ ไม่มีหยุด ทำให้ผู้บริหารใหญ่ระดับคนโตตัวเล็ก … นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ ยิ้มแก้มไม่มีหุบเลยทีเดียว  แต่ก็ยังน้อยกว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ตัวจริง เสียงจริง อย่างเสี่ยเต่า นายพงศ์ชัย อมตานนท์ ซีอีโอใหญ่แห่ง บริษัทแม่ บริษัท ฟอร์ธ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FORTH

ส่วนคนที่ถือหุ้น FSMART ที่ขายหุ้นไม่ทันตอนถูกทุบลงมา ก็หน้าเปื้อนยิ้ม และนอนกอดหุ้นนี้กันต่อไป

กำไรสุทธิไตรมาสสี่ 2559 ที่ผู้บริหารเคยออกมาบอกว่าจะทำนิวไฮ สูงเกินคาดเพราะได้มากถึง 133 ล้านบาท (คาดไว้ที่ 121 ล้านบาท) เพิ่มถึง 28.0% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และมากไปอีกถึง 72.9% เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนหน้า

ผลลัพธ์สุดยอดชนิดหุ้นแบงก์ได้อาย มาจากรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 51.4% ของปีก่อน จากมูลค่าเติมเงินผ่านตู้บุญเติมเพิ่ม 64.0% ตามการขยายตัวของจำนวนตู้เติมเงิน รวมทั้งอานิสงส์จากการที่ร้าน 7-11 ยกเลิกการขายบัตร/สลิปเติมเงิน 1-2-call ของ AIS ตั้งแต่ต้นไตรมาส แม้ว่ากำไรเบื้องต้นจะลดลงเพราะมีค่าใช้จ่ายจากการทำโปรโมชั่นร่วมกับบริษัทผู้ให้บริการมือถือ (แต่ได้ชดเชยจากเครดิตภาษีจ่ายกลับมาแทน)

กำไรนิวไฮรายไตรมาส ส่งผลให้กำไรงวดปีโดดเด่นชนิด “แหงนหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน” เพราะรวมกำไรสุทธิทั้งปี 2016 โตสูง 54.7% ที่ระดับ 420 ล้านบาท จากรายได้รวม 2,427 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% จากปี 2558 ด้วยขีดความสามารถในการขยายตู้บุญเติมระดับ 26,000 ตู้ มากเกินเป้าที่ตั้งไว้ 20,000 ตู้

กำไรจากการเติบโตของรายได้นี้ถือว่าสำฤทธิผลทั้งทางปริมาณและคุณภาพ เพราะผลของการที่ “ตู้บุญเติม” เคยถูกถือว่าเป็นตลาดล่าง ที่เคยถูกเมินมานานได้พัฒนามาเป็น “ตู้ทำกำไร” จริงจังตามพฤติกรรมของผู้บริโภค

บทพิสูจน์ที่ไม่ต้องพิสูจน์อีกแล้ว ระบุว่า ยิ่งมีการแข่งขัน FSMART ยิ่งโตแรงกว่าเดิม..เพราะว่ากันตามจริง เรื่องตู้เติมเงินผ่านมือถือนั้นไม่ใช่ธุรกิจเก่าแก่ และ FSMART ก็ไม่ได้เป็นต้นตำรับ แต่อาศัยโมเดลธุรกิจที่ถูกต้อง เหมาะกับตลาดล่างที่ถูกรายใหญ่มองข้าม… หากินกับคนรากหญ้า ที่ต้องเติมเงินบ่อยๆ ทีละนิดทีละน้อย แล้วทำให้หุ้นส่วนคือร้านค้าย่อยไม่ต้องลงทุนฮาร์ดแวร์เอง กลายเป็นธุรกิจที่โตวันโตคืน

จากเคยขาดทุนยุคแรกหนักหนาสาหัส มาเลยจุดคุ้มทุนแล้วมีกำไร แถมเมื่อเข้าระดมทุนในตลาดเพียงไม่กี่ปีเพื่อลดต้นทุนทางการเงิน ก็ทำกำไรสุทธิโตทุกไตรมาส แต่ละปีกำไรสุทธิโตกว่า 50% ต่อเนื่อง

คำถามคือ โตแค่นี้พอหรือยัง ผู้บริหารระดับคนโตตัวเล็กอย่างนายสมชัยบอกทันควันว่า ยังหยุดไม่ได้ เพราะคาดว่าในปี 2560 จะยังเติบโตสูงขึ้นไปอีก มุ่งหน้า “ตะกายฟ้า” ต่อไป

ปีนี้ FSMART ตั้งเป้าแบบ “ฝันให้ไกล ไปให้ถึง” ว่า จะขยายตู้เติมเงินบุญเติมให้ได้ 120,000 ตู้เพื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ด้วยการทำงานของตัวแทนบริการในแต่ละจังหวัด รวมทั้งช่องทางร้านสะดวกซื้อต่างๆที่ไม่ผูกพันเจ้าเดียว แต่มีทั้ง 7-11 ที่มีแผนเพิ่ม 1,000 สาขา, แฟมิลี่มาร์ท, ลอว์สัน , เทสโก้โลตัส, เทสโก้โลตัส เอ็กซ์เพรส, บิ๊กซี, ท็อปส์, โฮมโปร,  ซุปเปอร์เซฟ ตลอดจนอาคารและโครงการต่างๆ ที่สนใจติดตั้งตู้เติมเงิน 

โตทางปริมาณไม่พอ ต้องโตทางคุณภาพเพื่อเพิ่มมาร์จินด้วย การพัฒนาเทคโนโลยีให้มีความทันสมัยตอบสนองไลฟ์สไตล์ ถูกต่อยอดมาถึงการพัฒนา mobile payment  แอปพลิเคชันภายใต้ชื่อ “Be Wallet” ที่รวมเอาบริการเติมเงินเข้ามือถือ จ่ายบิล โอนเงิน รวมไปถึงซื้อเครื่องดื่มจากตู้จำหน่ายเครื่องดื่มอัตโนมัติและเติมเงิน (Vending Machine &Top-Up) ผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ด ในหลายพื้นที่กว่า 700 เครื่อง และในอนาคตจะเพิ่มสินค้าและบริการภายในตู้ให้มากขึ้น ซึ่งจะเพิ่มช่องทางการหารายได้ที่หลากหลายตาม Digital Retail Channel ที่เป็นโมเดลธุรกิจที่บริษัทวางแผนไว้

ทั้งหมดนี้บอกว่า กว่าจะมาถึงวันนี้ของ FSMART ไม่ได้เพราะบังเอิญ หรือใครบางคนออกแรงดันหรือ พรสวรรค์แบบฟ้าประทาน แน่นอน แต่มาจากฝีมือและความอึดล้วนๆ

ฟังแล้วเหนื่อยแทนคู่แข่งที่ต้องหาทางไล่ล่า เพราะยิ่งไล่ ยิ้งถูกทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น

พี่สองและพี่เต่า ท่านเล่นบทจอมละเมียดที่เก็บรายละเอียดทุกเม็ดอย่างนี้ เป้า 22.00 บาท จะตั้งปรับขึ้นใหม่อีกหรือเปล่า… อาจจะมีรายการ “ขายหมู” ของรายย่อย ตามมาให้ปวดใจตัวเองเล่นๆ อีกหลายยก

“อิ อิ อิ”

Back to top button