ของแท้ ของเทียมโมนิก้าและทีมงาน
*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยังเป็นลักษณะ “ขึ้นขาย ลงซื้อ” เป็นหลักเหมือนเดิม ทำให้การเข้าลงทุนในแต่ละรอบเป็นเรื่องที่ต้องใช้ปฏิภาณไหวพริบพอสมควร ซึ่งบางครั้งอาจเข้าซื้อหุ้นถูกจังหวะ แต่บางครั้งก็อาจไม่ถูกจังหวะได้เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ คือ การอ่อนตัวของดัชนีในเที่ยวนี้มีจุดต่ำสุดใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา จึงเหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ระวังตัวให้ดีนะคะ
*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยังเป็นลักษณะ “ขึ้นขาย ลงซื้อ” เป็นหลักเหมือนเดิม ทำให้การเข้าลงทุนในแต่ละรอบเป็นเรื่องที่ต้องใช้ปฏิภาณไหวพริบพอสมควร ซึ่งบางครั้งอาจเข้าซื้อหุ้นถูกจังหวะ แต่บางครั้งก็อาจไม่ถูกจังหวะได้เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ คือ การอ่อนตัวของดัชนีในเที่ยวนี้มีจุดต่ำสุดใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา จึงเหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ระวังตัวให้ดีนะคะ
*เนื่องจากพฤติกรรมของนักลงทุนแกนหลัก หันไปใช้กระบวนยุทธ์ถอยรับของถูกกันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้จุดถอยร่นของดัชนีถึงต่ำลงมาเรื่อยๆ และถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง โมเมนตัมของการลงทุนก็จะเป๋ไปอย่างมีนัยสำคัญ “โมนิก้า” ถึงต้องหันกลับมาให้ความสำคัญในหุ้นรายตัวมากขึ้นกว่าเดิม เพราะสิ่งที่เห็นในเที่ยวนี้มันต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานพะยะค่ะ
*ฉะนั้นการที่ดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,564.59 จุด ลบไป 2.73 จุด ด้วยมูลค่า 4.16 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของปัจจัยแวดล้อมไม่เอื้อให้เข้าเก็บหุ้น ผู้เล่นหลักถึงสาดหุ้นออกมาตลอดเวลา ช่วงนี้ถึงเห็นหุ้นดาวเด่นหลายตัวถูกกระหน่ำอย่างหนักหน่วง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าติดตามดูเป็นอย่างยิ่งว่า หุ้นเหล่านั้นจะฟื้นตัวอย่างเป็นรูปธรรมได้เมื่อไหร่? เพราะไม่มีใครรู้ว่า เกิดอะไรขึ้นเจ้าค่ะ
*เหมือนกับกรณีของ CPF ถูกถล่มตั้งแต่เช้าจรดเย็นแบบไม่พูดพร่ำทำเพลง จนสุดท้ายลงมายืนอยู่ที่ 27 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 4.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.28 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติมากๆ เพราะราคาดังกล่าวเป็นการเทรดบนค่า P/E 15 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ลงทุนได้สบายๆ ไม่มีอะไรต้องคิดมาก วันนี้ถึงต้องตั้งประเด็นถามกันต่อหน้าว่า หุ้นจะรีบาวด์ไหม? เพราะก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง หุ้นก็เด้งบริเวณนี้แหละ!
*ส่วนรายที่เด้งขึ้นไม่ไหวแน่นอน “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ CBG โดนเทขายอย่างหนักหน่วงเป็นเวลา 6 วันติดแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเกมโอเว่อร์ที่ผู้เล่นต้องตัดใจตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะเมื่อดูจากกำไรต่อหุ้นปี 59 ที่ระดับ 1.50 บาท แล้วนำมาคิดบน P/E 40 เท่า ได้ราคาเป้าหมาย 60 บาท มันก็เป็นระดับที่สูงอยู่วันยังค่ำ ยิ่งรายข้างต้นเทรดบนพีอีที่ต่ำกว่าตลาด ยิ่งทำให้เกมของหุ้นตัวนี้น่ากลัวขึ้นเป็นกอง พร้อมกับทำให้ราคาปิดที่ 64.50 บาท ลบไป 2.75 บาท หรือลงไป 4% ด้วยมูลค่า 2 พันล้านบาทเป็นเรื่องอันตรายนะจ๊ะ
*สำหรับรายที่อยู่ในอาการโคม่า “โมนิก้า” กลับมองไปที่ ICHI หลังตัวเลขกำไรปี 59 ทำได้แค่ระดับ 368 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนปี 59 ทำได้สูงถึง 423 ล้านบาท มันตีความได้ว่า ไตรมาส 4 ปี 59 มีผลขาดทุนสูงถึง 50 ล้านบาท จึงทำให้กำไรทั้งปีลดลง แถมเมื่อดูจากค่า P/E 40 เท่า ได้ราคาเป้าหมายสูงถึง 11.20 บาท แต่มีปัญหาว่า กล้าให้ราคาสูงเชียวหรือ! เพราะราคาล่าสุดอยู่แค่ 10 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 3.85% ด้วยมูลค่า 98 ล้านบาทนะคะ
*ส่วนในรายของเจ้าจำปี THAI โดนเทขายออกมาเรื่อยๆ จนล่าสุดลงมานอนอยู่ที่ 19.50 บาท ลบไป 1.30 บาท หรือลงไป 6.25% ด้วยมูลค่า 740 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่ต้องตั้งต้นใหม่กันอีกรอบ เพราะทิศทางของหุ้นก็ดูไม่ดีเอาเสียเลย บวกกับนักลงทุนสถาบันไม่อยากเข้าเล่น ทุกอย่างเลยดูย่ำแย่ไปหมดแบบนี้ มันเป็นสถานการณ์ที่ต้องรีบชิ่งก่อนใครเพื่อนนะคะ
*สำหรับหุ้นไก่พิมพ์นิยมอย่าง TFG ราคาหุ้นอาจอยู่ในทิศทางที่ไม่สดใสก็จริง แต่อย่าลืมว่า ปี 60 เป็นปีของการเติบโต ขณะที่ปี 59 เป็นปีของการคัมแบ็ค “โมนิก้า” ถึงรู้อยากให้แฟนคลับจับตาดูราคาหุ้นลงมาปิดที่ 5.95 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไปอีก 4.80% แถมเป็นการซื้อขายบนค่า P/E 20 เท่านิดๆ มันเป็นจังหวะของการ “ช้อน” หรือ “ถอย” คิดกันเอาเองได้..ถ้าคิดไม่ออกบอกให้นิดหนึ่งว่า เขาตั้งราคาแปลงสิทธิ์วอร์แรนต์ไว้ที่ 9.50 บาทแบบนี้..ยิ่งกว่าใบ้หวย 3 ตัวตรงนะจะบอกให้
*อีกหนึ่งรายที่จัดแบบฟูลออปชั่น “โมนิก้า” ต้องยกให้กับMILL ภายใต้การกำกับของ “เสี่ยหมู” ประกาศทำเทนเดอร์หุ้นละ 1.80 บาท ขณะที่ราคาหุ้นในกระดานยืนอยู่ที่ 1.73 บาท บวกไป 0.09 บาท หรือขึ้นไป 5.50% ด้วยมูลค่า 173 ล้านบาท มันเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ธุรกิจของเสี่ยจะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แถมภายหลังการทำดีลเรียบร้อย น้องหมูจะถือหุ้นสูงถึง 49% จากก่อนหน้านี้ถือแค่ 19% มันเป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าตามไปเล่นนะจ๊ะ
*ส่วนในรายของ 2S กระชากขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 9.55 บาท ก่อนจะโรยตัวลงมาปิดที่ 8.95 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 4.70% ด้วยมูลค่า 550 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่เหมาะสำหรับพวกขาซิ่ง เพราะแพทเทิร์นของหุ้นมีลักษณะ “มาเร็ว ไปเร็ว” เดี๊ยนถึงไม่กล้าสั่งลุยแบบเต็มตัว เพราะกลัวจะไม่มีคนตาม ยิ่งหุ้นออกอาการหมดแรงช่วงท้ายเกม ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ ถึงแม้การเทรดวันนี้จะอยู่ที่ค่า P/E 10 เท่า ก็ตามนะคะ
*เช่นเดียวกับในรายของ PPS หลายคนรู้ดีว่า บริษัทแห่งนี้ได้โปรเจ็กต์ทำเงินเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้หุ้นทะยานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 2 เดือนกว่าๆ บวกกับมีการปันผลเป็นหุ้นในสัดส่วน 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล เมื่อวันศุกร์หุ้นถึงเด้งขึ้นมาปิดที่ 1.64 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 10% ด้วยมูลค่า 156 ล้านบาท มันเป็นเกมที่ต้องคิดตามให้ทัน หากต้องการกระโจนใส่นะจ๊ะ