MALEE มั่นใจกำไรปีนี้ดีกว่าปีก่อนที่ระดับ 8.06% มุ่งเน้นขยายตลาดตปท.ต่อเนื่อง

MALEE มั่นใจกำไรปีนี้ดีกว่าปีก่อนที่ระดับ 8.06% หลังจัดการต้นทุนได้ดี มุ่งเน้นขยายตลาดตปท.ต่อเนื่อง ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนยอดขายตปท.เป็น 50% จากเดิม 39%


นายไพฑูรย์ เอี่ยมศิริกุลมิตร เลขานุการบริษัท และรองกรรมการผู้จัดการสายงานบริหารงานกลาง บริษัท มาลีกรุ๊ป  จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิปีนี้จะดีกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 8.06% และจะสูงขึ้นไปเป็นมากกว่า 10% ในปี 61 เนื่องจากบริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนที่ค่อนข้างดี และเป็นการเพิ่มขึ้นตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนยังคงที่  นอกจากนี้บริษัทฯยังเตรียมตัดสินค้าที่มียอดขายไม่ดี 40-50 ชนิดด้วย

นอกจากนั้น บริษัทยังคงมุ่งเน้นการขยายตลาดในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯตั้งเป้าที่สัดส่วนยอดขายในต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 39% ซึ่งเป็นการขยายตลาดอย่างต่อเนื่องในประเทศที่บริษัทฯขยายไปแล้วทั้งหมด 20-30 ประเทศ โดยเฉพาะในประเทศใกล้เคียงที่บริษัทฯสามารถทำการตลาดได้ค่อนข้างดี

ทั้งนี้ในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายไว้ที่ 10-15% ซึ่งการเติบโตจะมาทั้งจากธุรกิจ Brand และธุรกิจ CMG ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยอดขายต่างประเทศยังมีแนวโน้มการเติบโตสูงกว่าการเติบโตภายในประเทศ เช่นเดียวกับปีทีผ่านมาปัจจุบัน บริษัทฯ มีธุรกิจร่วมทุน 2 บริษัท คือ Monde Malee Beverage Corporation (MMBC) ในประเทศฟิลิปปินส์ และ Mega Malee Company Limited (Mega Malee) ในประเทศไทย

โดย MMBC เป็นหนึ่งในเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนยอดขายต่างประเทศ ซึ่งแม้ว่าจะมีผลประกอบการขาดทุนในปีที่ผ่านมา แต่อยู่ภายใต้แผนธุรกิจของบริษัทฯ โดยผลขาดทุนของ MMBC ถือเป็นเหตุการณ์ปกติของธุรกิจในช่วงแรกที่มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ในขณะที่ Mega Malee มีแผนการออกผลิตภัณฑ์พร้อมดื่มเพื่อสุขภาพจากธรรมชาติรายการแรกในประเทศไทยประมาณในช่วงไตรมาส 3/60

“สำหรับการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลนั้น เราก็ไม่ได้กังวลอะไรมากนักเพราะเรามียอกขายน้ำดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลเพียง 10% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่น้อยมากแล้ว แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังคงติดตามความชัดเจนที่จะเกิดขึ้น เพราะสินค้าที่ขายอยู่ตามต่างจังหวัดที่ราคาขวดละ 10 บาท เราคงจะไม่ตัดทิ้งออกไป เพราะก็ยังขายได้ดี” นายไพฑูรย์ กล่าว

Back to top button