SE บวก 4.24% ลุ้นรายได้ปี 60 โตแกร่ง! เน้นทำตลาดเชิงรุกหนุนกำไร
SE บวก 4.24% ลุ้นรายได้ปี 60 โตแกร่ง! เน้นการทำตลาดเชิงรุกหวังสร้างการเติบโตจากยอดขายในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ล่าสุด ณ เวลา 15.12 น. ราคาอยู่ที่ 3.44 บาท บวก 0.14 บาท หรือ 4.24% สูงสุดที่ 3.48 บาท ต่ำสุดที่ 3.32 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 38.56 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SE ณ เวลา 15.12 น. ราคาอยู่ที่ 3.44 บาท บวก 0.14 บาท หรือ 4.24% สูงสุดที่ 3.48 บาท ต่ำสุดที่ 3.32 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 38.56 ล้านบาท
นางสาวอรสา วิมลเฉลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SE เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าผลักดันรายได้รวมในปี 60 เติบโตมากกว่า 11% หรือมีรายได้ 484 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 434.31 ล้านบาท โดยแผนในปีนี้จะมุ่งเน้นการทำตลาดเชิงรุกเพื่อสร้างการเติบโตจากยอดขายในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีระบบปั๊ม กลุ่มผลิตภัณฑ์การจัดการกระบวนการผลิตและระบบท่อ และกลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุนวัตกรรม โดยจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่และการให้บริการพร้อมให้คำปรึกษาแบบครบวงจรอย่างใกล้ชิดภายใต้แนวคิด Industrial Equipment Solution Provider ให้แก่กลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมในภาคตะวันออกและพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ
ทั้งนี้ หลังจากเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ บริษัทได้เตรียมลงทุนพัฒนาศูนย์ให้บริการวิศวกรรม (Workshop) ในพื้นที่สำนักงานใหญ่จังหวัดระยอง คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในไตรมาส 2 นี้ และแล้วเสร็จเริ่มเปิดให้บริการได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้จากกลุ่มงานบริการให้แก่บริษัทฯ เช่น งานบริการซ่อมบำรุงระบบปั๊ม งานบริการเคลือบพื้นผิวเครื่องจักร อุปกรณ์ระบบท่อ งานออกแบบและตัดเย็บฉนวนหุ้มเครื่องจักรและอุปกรณ์ให้แก่โรงงานอุตสาหกรรม ฯลฯ โดยตั้งเป้ารายได้จากกลุ่มงานบริการในปีนี้ประมาณ 40 ล้านบาท หรือประมาณกว่า 8% ของเป้าหมายรายได้รวมในปี 60 และช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรจากงานบริการ หนุนกำไรเติบโต 20% ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดจากปีที่ผ่านมาและเติบโตขยายตัวต่อเนื่องในอนาคต
“เรามองว่าภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการผลิตในปีนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากรัฐบาลได้เดินหน้าผลักดันโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือ EEC ครอบคลุมพื้นที่ในจังหวัดชลบุรี ระยองและฉะเชิงเทรา เพื่อสร้างเมืองอุตสาหกรรมและส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูงในพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของภาคอุตสาหกรรมในภูมิภาคอาเซียน และช่วยสร้างความเชื่อมั่นในภาคการลงทุนและความต้องการใช้วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อการก่อสร้างโรงงานและปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรเพิ่มขึ้นตามไปด้วย” นางสาวอรสา กล่าว
นายแสงเพชร ตันทะอธิพานิช กรรมการผู้จัดการ SE กล่าวว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/59 บริษัท รายได้รวม 120.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.50% จากไตรมาสก่อนหน้าที่มีรายได้รวม 108.75 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 7.82 ล้านบาท ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ภาพรวมปี 59 บริษัทฯ มีรายได้รวม 434.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.05% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 421.42 ล้านบาท
รายได้รวมในปี 59 ที่เพิ่มขึ้นเกิดการการนำเสนอผลิตภัณฑ์และทำการตลาดเชิงรุกเข้าถึงลูกค้าเพื่อกระตุ้นการขาย ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 26.81 ล้านบาท ชะลอตัวลงจากปีก่อนเล็กน้อย ซึ่งสาเหตุมาจากค่าใช้จ่ายเฉพาะที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ เช่น ค่าที่ปรึกษานำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาและปรับปรุงอาคารสำนักงานที่จังหวัดระยอง และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับระบบงานและการขยายงานในอนาคต